รวมบรรยากาศ พุทธศาสนิกชน ทำบุญตักบาตร เนื่องใน 'วันวิสาขบูชา 2566'

 

 

 

 

 

 

 

เมื่อเวลา 05.30 น.วันนี้ (3 มิถุนายน 2566) หน้าวิหารพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.พิษณุโลก นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการฯ หัวหน้าส่วนราชการ พุทธศาสนิกชน และชาวจังหวัดพิษณุโลกพร้อมใจกันนุ่งขาวห่มขาว พาครอบครัวร่วมทำบุญตักบาตร ข้าวสุก ข้าวสารอาหารแห้ง น้ำดื่ม แด่พระภิกษุสงฆ์ เนื่องใน วันวิสาขบูชา 2566 ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 3 มิ.ย. 2566 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต พร้อมตั้งจิตอธิฐาน น้อมรำลึกและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงมีความเพียรนำมาซึ่งการตรัสรู้ซึ่งพุทธศาสนิกชนได้นำหลักธรรมคำสั่งของพระองค์มาปฏิบัติใช้ตราบจนถึงทุกวันนี้

 

 

 

 

ส่วนที่ถนนข้าวเม่าริมแม่น้ำโขง เขตเทศบาลเมืองบึงกาฬ อ.เมือง จ.บึงกาฬ นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ พร้อมด้วยข้าราชการ ประชาชน พร้อมใจกันร่วมพิธีทำบุญตักบาตร ข้าวสารอาหารแห้ง แด่พระภิกษุสงฆ์ สามเณร จำนวน 46 รูป ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2566 โดยมีข้าราชการ ทหาร ตำรวจ มาร่วมทำบุญโดยพร้อมเพรียงกัน ท่ามกลางอากาศที่สดชื่น มองเห็นวิวทิวศ์ทัศน์ 2 ฝั่งโขง ไทย-ลาว ขณะที่ประชาชนทั่วไปใส่เสื้อผ้าโทนสีม่วง และสีขาว เพราะนอกจากจะเป็นวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววันนี้ยังตรงกับ วันวิสาขบูชา 2566 ด้วย

 

 

 

 

 

ขณะที่ บรรยากาศใน จ.ระยอง เป็นไปด้วยความคึกคัก พุทธศาสนิกชนจำนวนมากได้ร่วมกันทำบุญตักบาตร เนื่องใน วันวิสาขบูชา 2566 จากนั้นได้พากันไปเที่ยววัดไหว้พระขอพร ซึ่งสถานที่หนึ่งที่น่าสนใจคือ "วัดเนินยาง" ต.คลองปูน อ.แกลง จ.ระยอง ที่นี่มีพระอุโบสถสังกะสี ซึ่งน่าจะเป็นแห่งเดียวในจังหวัดระยอง ที่ผนังของพระอุโบสถเป็นสังกะสีทั้งหมด ซึ่งแปลกแตกต่างจากพระอุโบสถของวัดอื่นๆ กลายเป็นอันซีนของนักท่องเที่ยวพากันมาแวะเที่ยวชม

 

 

 

 

พระครูวิลาศธรรมวงค์ เจ้าอาวาสวัดเนินยาง บอกว่า พระอุโบสถหลังนี้มีอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าถูกสร้างขึ้นในสมัยใด แต่จากการสอบถามผู้เฒ่าผู้แก่ที่มีอายุ 90 ปีขึ้นไป บอกว่าเกิดมาก็เห็นพระอุโบสถหลังนี้แล้ว พระอุโบสถเป็นทรงปั้นหยา ยาว 12 เมตร กว้าง 8 เมตร เดิมทีเป็นไม้ไผ่ล้อมรอบ แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปก็ผุกร่อน จึงนำสังกะสีมาล้อมไว้ จนกลายเป็นพระอุโบสถสังกะสี ส่วนวัสดุก่อสร้างยังคงเป็นของดั้งเดิม เช่น เสาพระอุโบสถ เป็นไม้กันเกราทั้งต้น พื้นล่างเป็นศิลาแลง พื้นด้านบนเป็นปูนเก่า ลวดลายดั้งเดิม ภายในเป็นประดิษฐานพระประธาน ปางสะดุ้งมาร ที่คาดเป็นพระพุทธรูปที่ถูกเคลื่อนย้ายหนีภัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มาจากวัดเลียบ กรุงเทพมหานคร ที่องค์พระยังมีร่องรอยของการถูกสะเก็ดระเบิดด้วย นอกจากนี้ยังมี หลวงพ่อโสธร หลวงพ่อโต และหลวงพ่อวัดบ้านแหลม ซึ่งชาวพุทธให้ความเคารพนับถือ เดินทางมากราบไหว้ขอพรเป็นจำนวนมาก

 

สำหรับพระอุโบสถหลังนี้ มีบางส่วนที่ได้รับการบูรณะบ้าง เนื่องจากชำรุดทรุดโทรม อย่างเช่นกระเบื้องหลังคา ที่เคยเป็นกระเบื้องเบา ที่มีส่วนผสมของหินกับทราย ก็เปลี่ยนเป็นกระเบื้องดินเผา ปัจจุบันทางวัดยังใช้พระอุโบสถสังกะสีหลังนี้เป็นที่สวดมนต์ ปฏิบัติธรรม และนั่งสมาธิ ระยะหลังเริ่มมีนักท่องเที่ยวสนใจเข้ามาถ่ายภาพ เพราะเห็นว่าเป็นพระอุโบสถที่มีความแปลก รวมถึงปิดทองลูกนิมิตเก่าแก่ อายุกว่า 100 ปี ที่ขุดขึ้นมาให้พุทธศาสนิกชนได้ปิดทอง เพื่อความเป็นสิริมงคลกันด้วย จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงพระพุทธศาสนาไปโดยปริยาย

 

 

ข่าว-ภาพ :  มงคลเชาวราช ทั่งมั่งมี ผู้สื่อข่าวเนชั่น จ.พิษณุโลก, มงคล ผู้สื่อข่าว จ.บึงกาฬ และอัจฉรา วิเศษศรี  ผู้สื่อข่าว จ.ระยอง