วิกฤตน้ำแห้งสุดในรอบ 82 ปี ผู้ว่าฯ พะเยา สั่งการด่วนหลังระดับน้ำ "กว๊านพะเยา" แห้งจนเหลือเพียง 3 ล้าน ลบ.ม. วางแผนกระจายน้ำจาก 4 จุด ช่วยประชาชน
3 พ.ค.2566 สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ จ.พะเยา ส่งผลกระทบให้ปริมาณน้ำในกว๊านพะเยา อ.เมือง จ.พะเยา แห้งเหลือเพียง 3 ล้าน ลบ.ม. ในหลายจุดพื้นดินเริ่มโผล่และมีหญ้าขึ้นเป็นแนวให้เห็นชัดเจน รวมถึงวัดติโลกอาราม ซึ่งเป็นวัดกลางกว๊านแห่งเดียวของ จ.พะเยา ระดับน้ำแห้งจนชาวบ้านและนักท่องเที่ยวไม่สามารถพายเรือเข้าไปเที่ยวที่วัดได้ ซึ่งล่าสุดนายอัครา พรหมเผ่า นายก อบจ.พะเยา สั่งกานให้เจ้าหน้าที่นำแบคโฮไปเปิดร่องน้ำเพื่อให้สามารถสัญจรทางน้ำได้รวมถึง ว่าที่ ร.ต.ณรงค์ โรจนโสทร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาได้มีการประชุมและสั่งการอย่างเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาน้ำกว้านแห้งในครั้งนี้ด้วย
สำหรับระดับน้ำในกว๊านที่ขณะนี้เหลืออยู่เพียง 3 ล้าน ลบ.ม. จากที่ช่วงก่อนที่เป็นฤดูน้ำหลากการเก็บกักจะอยู่ที่ประมาณ 50 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งต้องมีการปล่อยน้ำออกกว๊านเป็นระยะทำให้ชาวบ้านท้ายกว๊านและนาข้าวได้รับความเสียหายจากการปล่อยน้ำในช่วงนั้น ซึ่งในการดูแลช่วงนั้นตนเองได้ให้ชาวบ้านปลูกข้าววิธีแบบนาปรังในรูปแบบช่วงฤดูแล้งและได้มีการปล่อยน้ำให้เป็นระยะด้วยเพื่อแก้ไขปัญหาช่วงที่ปลูกข้าวนาปีแต่เจอน้ำจากกว๊านเข้าท่วม
อีกทั้งในช่วงนี้เห็นว่าเป็นปรากฏการณ์เอลนีโญ่ทำให้ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาลและส่งผลให้กว๊านพะเยาน้ำแห้งในเวลาต่อมาด้วย ทั้งนี้ในส่วนของกองบัญชาการแก้ไขปัญหาภัยแล้งของ จ.พะเยาเองนั้นได้มีการประชุมวางแผนเพื่อเตรียมการแก้ไขปัญหาน้ำกว้านแห้งนี้ และเมื่อตอนต้นเดือน เม.ย.2566 ช่วงที่น้ำกว๊านพะเยาแห้งเหลือประมาณ 5 ล้าน ลบ.ม.ตนได้สั่งการให้มีการกระจายน้ำจากอ่างแม่ต๋ำเข้าสู่กว๊านพะเยาแห่งนี้ประมาณ 2 ล้าน ลบ.ม.จนทำให้ช่วงนั้นสามารถจัดงานสงกรานต์ได้
และหลังจากนั้นช่วงปลายเดือน เม.ย. 2566 จะได้หารืออีกครั้งเพื่อจัดเตรียมแผนการกระจายน้ำจำนวน 4 จุดด้วยกัน โดยจุดแรกที่จะผันน้ำเข้ากว๊านนั้นคือในส่วนของอ่างเก็บน้ำแม่ต๋ำซึ่งได้มีการเปิดประตูน้ำร่วมกับกลุ่มผู้ใช้น้ำจำนวน 2 ล้าน ลบ.ม. ต่อมาทาง ปภ.เขต 15 ร่วมกับชลประทานพะเยาได้ทำการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เพื่อที่จะผันในพื้นที่สันหนองเหนียวน้ำเข้าสู่กว๊านพะเยา อีกประมาณ 5 แสน ลบ.ม. รวมทั้งในส่วนของอ่างเก็บน้ำแม่ปืมก็ได้ผันน้ำเข้ามาอีกประมาณ 4.5 ล้าน ลบ.ม.รวมแล้วน้ำในกว๊านในขณะนี้จะอยู่ที่ประมาณ 7 ล้าน ลบ.ม.
ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เพื่อที่จะให้ประชาชนในพื้นที่รอบกว๊านพะเยารวมถึงผู้ใช้น้ำทุกรายได้มีความมั่นใจในเรื่องของการแก้ไขปัญหาน้ำแห้งในครั้งนี้ ทั้งนี้ตนเองยังสั่งการให้ทางประมงและชลประทานพะเยาทำการสำรวจประตูท้ายน้ำว่ามีการรั่วซึมหรือไม่ซึ่งถ้าหากพบก็ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาทันทีเพื่อที่จะได้ระบายน้ำได้อย่างปกติต่อไปเช่นกัน
อุดมศักดิ์ ปินะดวง จ.พะเยา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง