ผบช.ภ.7 มั่นใจมีหลักฐานโยง 10 คดี เอาผิด 'แอม' แม้ไร้ร่างผู้เสียชีวิต

26 เม.ย.2566 พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เปิดเผยภายหลังประชุมตำรวจในพื้นที่ 4 จังหวัด เพื่อติดตามเร่งรัดคดีที่เกี่ยวข้องกับ น.ส.สรารัตน์ หรือแอม ผู้ต้องหาคดี ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

 

โดยเบื้องต้นในพื้นที่ภาค 7 พบมีเหตุเกิดขึ้นใน 4 จังหวัด ประกอบด้วย สภ.ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี , สภ.โพธาราม สภ.บ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี , สภ.ลูกแก จังหวัดกาญจนบุรี , สภ.เมืองนครปฐม สภ.สามพราน สภ.ดอนตูม จังหวัดนครปฐม รวม 10 คดี เสียชีวิต 9 คดี ยังไม่เสียชีวิต 1 คดี 

 

 

 

 

 

และล่าสุดในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร พฤติการณ์คล้ายกัน ขณะนี้ได้แบ่งหน้าทีไปทำงานเร่งรัดติดตามคดีที่เกิดขึ้น พร้อมเปิดศูนย์รับเรื่องร้องเรียนเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เสียหาย หากบางรายไม่สะดวกเดินทางมาแจ้ง ก็สามารถโทรศัพท์เข้ามาแจ้งรายละเอียดเบื้องต้น ทางศูนย์ก็จะส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปอำนวยความสะดวกให้ถึงบ้าน
    

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวอีกว่าเกี่ยวกับพฤติการณ์ต่างๆ ของแอม ขณะนี้ทีมสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียด แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนเรื่องที่ จ.สมุทรสาครเป็นคดีที่ 11 เจ้าหน้าที่จะลงไปพื้นที่เก็บรวบรวมรายละเอียดทั้งหมดและเข้ามารายงานให้ทราบอีกครั้ง

 

นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้ทีมสืบสวนติดตามเรื่องสารไซยาไนด์ว่า แอม ได้มาจากไหน ได้มาอย่างไร สั่งซื้อที่ไหน เนื่องจากเป็นสารต้องห้าม 

 

 

 

 

ส่วนกรณีที่ผู้ถูกก่อเหตุและเสียชีวิต ส่วนใหญ่ไม่ได้มีการชันสูตรและฌาปนกิจศพไปเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถหาหลักฐานมาเชื่อมโยงการกระทำผิดของผู้ก่อเหตุได้หรือไม่นั้น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ยืนยันว่า ตำรวจหลักฐานพยานอื่นๆ ที่สามารถเชื่อมโยงไปถึงผู้ก่อเหตุได้ แม้จะไม่มีร่างผู้เสียชีวิตอยู่ก็ตาม แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

 

และขณะนี้ตำรวจภาค 7 มีข้อมูลย้อนไปตั้งแต่ปี 2563 ถึงปี 2566 หลังจากนี้ตำรวจภาค 7 จะเปิดศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์เกี่ยวกับคดีดังกล่าว อาจมีผู้เสียหายมาเพิ่มก็ได้ ส่วนใครที่กลัวว่าตำรวจจะช่วยเหลือผู้ต้องหา เนื่องจากสามีเป็นตำรวจ ผู้บัญชาการตำรวจภาค 7 ยืนยัน  ใครทำผิดก็ต้องรับโทษ หากพยานหลักฐานไปถึง ตำรวจก็ต้องถูกดำเนินคดีเหมือนกัน

 

 

บดินทร์ชัย เกรียงไกรชาญ   จ.นครปฐม