ไร้วี่แวว 'ด.ต.อรรถพร' ตำรวจปืนโหด เข้ามอบตัว ตร.ย้ำเป็นบุคคลอันตราย

ยังคงไร้วี่แววของ ด.ต.อรรถพร วิเชียร ผบ.หมู่ งานป้องกันปราบปราม สภ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี เข้ามอบตัว หลัง 'ด.ต.อรรถพร' พร้อมพวกรวม 4 คน ใช้อาวุธปืนสงครามก่อเหตุยิงถล่มบ้านพักในสวนปาล์ม และมีการยิงต่อสู้กันมีผู้เสียชีวิตรวม 4 ศพ

ประกอบด้วย นายธรรมรงค์ นิลนิยม หรือผู้ใหญ่รงค์ อายุ 60 ปี เจ้าของบ้านอดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.บางงอน อ.พุนพิน, นางนิลทิพย์ ปาลคะเชนทร์ หรือ แตง อายุ 49 ปี ภรรยาผู้ใหญ่รงค์, นายพรศักดิ์ เพชรชู หรือ ผู้ใหญ่กรอก อายุ 56 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 13 ต.ท่าขนอน ญาตินางนิลทิพย์ และนายธรรมรัตน์ วิเชียร อายุ 48 ปี พี่ชาย ด.ต.อรรถพร โดยเหตุเกิดเมื่อเย็นวันที่ 8 เม.ย. 2566

กระทั่งพบผู้เสียชีวิตรายที่ 5 นายอรรพล หรือ บาส วิเชียร อายุ 25 ปี ลูกชาย 'ด.ต.อรรถพร' ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9 มม. และพบศพรายที่ 6 น.ส.พนิดา หรือตั๊ก นิลนิยม อายุ 34 ปี ภรรยา ด.ต.อรรถพร ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9 มม.ในห้องพักรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ใน อ.คีรีรัฐนิคม ต่อมาเจ้าหน้าที่จับกุม หนึ่งในทีมสังหารคือนายมานพ ว่างงาน อายุ 57 ปี ชาว อ.คีรีรัฐนิคม ที่ให้การรับสารภาพ และนำไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพส่งฝากขังไปแล้ว

ขณะที่ฝั่งญาติ 'ด.ต.อรรถพร' ได้ประสานเจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ด.ต.อรรถพร จะขอมอบตัวทันทีหลังสงกรานต์ พร้อมมีการชี้เป้าที่โยนอาวุธปืนของกลางทิ้งที่คลองพุมดวง กระทั่งเจ้าหน้าที่ได้ลงงมหาของกลางได้อาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก แต่จนถึงขณะยังไม่พบว่า ด.ต.อรรถพร มีมอบตัวแต่อย่างใด

ล่าสุด พล.ต.ต.ณภัณต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกฝ่ายก็ติดตามคนร้ายอย่างเต็มที่ และกระทำด้วยความรัดกุมรอบคอบ เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืนหลายกระบอก และทำให้เกิดความหวาดกลัวต่อชาวบ้าน ซึ่งการค้นพบอาวุธก็สามารถสร้างความวางใจให้ชาวบ้านได้ส่วนหนึ่ง คาดว่าคนร้ายยังคงอยู่ในพื้นที่รอยต่อระหว่าง 3 อำเภอ คือ คีรีรัฐนิคม บ้านตาขุน และพนม 

ทั้งนี้สำหรับอาวุธปืนที่นำมาทิ้งจำนวน 2 กระบอกพบอาวุธปืน M16 ซึ่งเป็นของทางราชการ แล้ว 1 กระบอก อีกกระบอกยังหาไม่พบ ตอนนี้เชื่อว่าผู้ต้องหาเหลือปืนพกสั้น ที่เบิกจากทางราชการไป 1 กระบอก และส่วนตัว 1 กระบอกที่ยังไม่พบ ขณะที่กระแสข่าวที่ออกมาระบุกลัวถูกวิสามัญนั้น เชื่อว่า ด.ต.อรรถพร เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทราบอยู่แล้วว่าถ้าไม่มีการต่อสู้ หรือทำร้ายเจ้าพนักงานก็จะไม่มีการวิสามัญอยู่แล้ว ซึ่งตามหลักการก็เป็นขั้นตอนที่ตัวผู้ต้องหาทราบอยู่แล้ว ถึงขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อขอมอบตัวอย่างเป็นทางการ

โดย : สุวรรณี บัณฑิศักดิ์