สลด 'วันครอบครัว' ด.ญ.วัย 14 ลงเล่นน้ำริมโขงคลายร้อนเกิดพลาดจมดับ
สลด "วันครอบครัว" ผู้ปกครองพาลูกเล่นน้ำหาดริมแม่น้ำโขง เกิดน้ำพัดห่วงยางไหลออกไปนอกทุ่นในเขตร่องน้ำลึก เกิดพลาดจมน้ำเสียชีวิต 1 ช่วยได้ทันอีก 1
14 เม.ย. 2566 ด.ญ.อายุ 14 ขวบ ชาว ต.ชุมภูพร อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ ซึ่งเดินทางมาเล่นน้ำบริเวณหาดสุขสำราญ ริมแม่น้ำโขง บริเวณหน้าเทศบาลเมืองบึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ กับครอบครัวเนื่องในวันครอบครัว ในช่วงเทศกาลสงกรานต์เกิดพลัดจมน้ำเสียชีวิต ขณะที่ ด.ญ.วัย 10 ขวบ ซึ่งเดินทางมาเล่นน้ำด้วยกันถูกกระแสน้ำพัดออกนอกทุ่น แต่เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือไว้ได้ทัน
โดยขณะที่เกิดเหตุ นายธีระพล ขุนพานเพิง นายอำเภอเมืองบึงกาฬ พร้อมด้วย นายราชันย์ วะนาพรม นายกเทศมนตรีเมืองบึงกาฬ และนายอาทิตย์ สิริวงษ์ กำนันตำบลบึงกาฬ กำลังเดินตรวจความเรียบร้อยบริเวณริมหาด ซึ่งมีนักท่องเที่ยวพาครอบครัว อุ้มลูกจูงหลานมาลงเล่นน้ำเพื่อคลายร้อนจำนวนมาก ปรากฎว่ามีเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือว่ามีเด็กจมน้ำ
เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนทีธรรม หน่วยกู้ภัยร่วมใจบึงกาฬ ตำรวจน้ำบึงกาฬ จนท.เทศบาลเมืองบึงกาฬ หน่วยเรือ นรข.บึงกาฬ และผู้ประกอบการเรือเจ็ทสกี ที่สแตนบายอยู่บริเวณหาดได้ช่วยกันออกค้นหาร่างผู้จมน้ำทันที ซึ่งเบื้องต้นสามารถช่วยเหลือ ด.ญ. วัย 10 ขวบ ที่ถูกกระแสน้ำพัดห่วงยางไหลออกนอกทุ่นเขตปลอดภัยไปบริเวณร่องน้ำลึก
จากนั้นทีมกู้ภัยได้ช่วยกันออกค้นหาร่าง ด.ญ.อายุ 14 ปี ซึ่งถูกกระแสน้ำพัดไปจนสูญหายอีก 1 คน โดยนำเบ็ดราวมาวางเพื่อลากไปตามจุดที่คาดว่าน้ำจะพัดพาร่างออกไป ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีเบ็ดจึงเกี่ยวติดร่างที่จมหายไปได้ ในสภาพเนื้อตัวซีดขาวแล้ว ทราบชื่อ ด.ญ.เพาพิลาส (สงวนนามสกุล) อายุ 14 ปี สภาพศพ สวมเสื้อแขนสั้นสีดำ กางเกงขายาวสีดำ จึงได้แจ้งพนักงานสอบสวนเวร และแพทย์เวร รพ.บึงกาฬ มาตรวจสอบชันสูตรพลิกศพ และมอบให้ญาติไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
ขณะที่ ด.ญ.10 ขวบ ที่รอดชีวิตมาได้ เล่าเหตุการณ์นาทีชีวิตสุดระทึกว่าผู้ปกครองได้พาครอบครัวมาเล่นน้ำสงกรานต์พร้อมเพื่อนๆ อีก 6 คน ขณะที่กินข้าวเสร็จ ด.ญ.14 ขวบ ผู้เสียชีวิต ได้ชวนไปเช่าห่วงยางลงเล่นน้ำ โดยตัวเองอยู่ในวงห่วงยาง ส่วนผู้เสียชีวิตเกาะอยู่ด้านนอก
ขณะนั้นได้ปล่อยให้น้ำพัดพาห่วงยางไหลไปตามน้ำเรื่อยๆ จนไหลออกนอกทุ่น ด.ญ.ที่เสียชีวิต จึงได้วิ่งไล่ตามจะไปเกาะห่วงยาง โดยที่ไม่รู้ว่าบริเวณที่ลงไปเป็นร่องน้ำลึก จึงทำให้จมน้ำหายไปต่อหน้าต่อตา จึงได้ตระโกนให้คนช่วย ซึ่งเรือเจ็ทสกีที่อยู่ใกล้เคียงได้มาช่วยตนเองได้ทันเวลา
นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี จ.กาฬสินธ์ุ