คนร้าย 'ยิงถล่ม' ขว้างไปป์บอมบ์ใส่ฐาน นปพ.สุไหงปาดี ตร.เจ็บ 3 นาย

14 เม.ย.2566 เมื่อเวลา 10.00 น.  พล.ต.ต.อนุรุธ อิ่มอาบ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดนราธิวาส (ผบก.ภ.จ.นราธิวาส)  นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำงายวัตถุระเบิด หน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่ง ร่วมเดินทางไปยังฐานปฏิบัติการหมวดเฉพาะกิจ หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 31 ซึ่งตั้งอยู่ ม.1 ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี ซึ่งถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามและระเบิดไปป์บอมบ์ ยิงและขว้างถล่มใส่ฐาน เมื่อเวลา 20.55 น.ของคืนวันที่ 13 เม.ย.66 ที่ผ่านมา

 

ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บ 3 นาย ประกอบด้วย

1. ส.ต.ต.พีรวิชญ์ ดวงแก้ว 26 ปี ถูกกระสุนปืนของคนร้ายที่บริเวณต้นขาขวาทะลุ 1 นัด

2. ส.ต.ต.ชวัลวิทย์ อินต๊ะวิชา 23 ปี ถูกกระสุนปืนของคนร้ายที่บริเวณก้นด้านขวา 1 นัด และ

3. ส.ต.ต.กิติพงษ์ พรหมเจียม 26 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่ขอบตาด้านขวา และมีอาการแน่นหน้าอก

ซึ่งทั้ง 3 นาย เป็น ผบ.หมู่ นปพ.สุไหงปาดี ถูกส่งตัวรักษาที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก

 

 

 

ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบระเบิดแสวงเครื่องชนิดขว้างแบบไปป์บอมบ์ ที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในท่อแปปเหล็กทรงกลม แต่ไม่ทำงานตกอยู่ที่บริเวณบริเวณถนนด้านซ้ายมือของฐาน จำนวน 3 ลูก ไม่ทำงาน 2 ลูก และเจ้าหน้าที่พบระเบิดไปป์บอมบ์ที่คนร้ายขว้างใส่เข้าไปในฐาน จำนวน 5 ลูก ทำงาน 3 ลูก และพบระเบิดไปป์บอมบ์ ที่บริเวณป่ารกทึบตรงข้ามกับประตูทางเข้าอีก จำนวน 1 ลูก แต่ไม่ทำงาน

 

เจ้าหน้าที่แจ้งเจ้าหน้าที่ชุด EDO  ใช้เครื่องแรงดันน้ำพลังสูงในการยิงทำลายไปป์บอมบ์ที่ไม่ทำงาน จำนวนทั้งหมด 5 ลูก ที่ตกอยู่ในพื้นที่ทั้ง 3 จุด โดยใช้เวลานานกว่า 30 นาทีจึงแล้วเสร็จ และต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบหลุมระเบิดขนาดใหญ่ ที่บริเวณส้วมร้างของชาวบ้านที่ปลูกสร้างด้วยสังกะสีบริเวณป่ารกทึบตรงกันข้ามกับประตูทางเข้าฐาน ซึ่งมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังดับเพลิง น้ำหนัก 30 ก.ก. แต่ไม่พบตัวจุดชนวน เนื่องจากระเบิดลูกดังกล่าวทำงานสมบูรณ์ ชิ้นส่วนต่างๆ ได้กระเด็นเข้าไปอยู่ในป่ารกทึบ ที่ด้านหลังเป็นป่าสวนยางพาราของชาวบ้าน

 

 

 

 

หลังตรวจสอบและเคลียร์พื้นที่แล้วเสร็จ จนท.ทำการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ พบลูกปลาย ซากชิ้นส่วนท่อแปปเหล็กทรงกลม ปลอกกระสุนปืนของคนร้ายที่ตกอยู่ 2 จุดใหญ่ คือ ป่ารกทึบตรงข้ามกับฐาน และบ้านร้างของชาวบ้านที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับอาคารน็อคดาวน์ห้องที่ 1 ด้านซ้ายมือของฐาน

 

 

 

 

และจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้รถยนต์ของชาวบ้านที่จอดอยู่ในบ้านพัก และข้างป่ารกทึบ จำนวน 2 คัน ถูกกระสุนปืนได้รับความเสียหาย จากการสอบสวนทราบว่า ในขณะที่ ส.ต.ต.พีรวิชญ์  ขี่รถ จยย.โดยมี ส.ต.ต.ชวัลวิทย์ นั่งซ้อนท้าย เพื่อเลี้ยวรถ จยย.เข้าฐาน กลุ่มคนร้ายจำนวนกว่า 10 คน ได้แยกออกเป็น 2 ชุด ซึ่งวางกำลังอยู่บริเวณป่ารกทึบตรงกันข้ามกับประตูทางเข้าฐาน ได้ใช้อาวุธปืนสงคราม เอ็ม.16 ยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นาย ได้รับบาดเจ็บ และรถ จยย.เกิดล้มคว่ำหน้าประตูทางเข้าฐานตำรวจทั้ง 2 นาย ได้หลบหมอบคลานหาที่กำบังเพื่อหลบวิถีกระสุนปืนของคนร้ายที่ยิงซ้ำ

 

 

 

 

จากนั้นคนร้ายชุดที่ 2 ซึ่งซุ่มอยู่ที่ในบริเวณบ้านร้างของชาวบ้านซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับอาคารน็อคดาวน์ ได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ฐาน สลับกับการขว้างระเบิดไปป์บอมบ์ จนทั้ง 2 ฝ่ายได้เปิดฉากยิงปะทะเป็นเวลานานกว่า 30 นาที ส่งผลทำให้ ส.ต.ต.กิติพงษ์  ถูกสะเก็ดระเบิดของคนร้ายได้รับบาดเจ็บ จนกลุ่มคนร้ายเมื่อทราบว่าจะมีเจ้าหน้าที่ได้ขอกำลังเข้าสนับสนุน จึงได้อาศัยความมืดและความชำนาญพื้นที่หลบหนีไป โดยมุ่งหน้าไปยังป่าสวนยางพาราของชาวบ้านที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามของฐาน

 

 

 

 

เมื่อเสียงปืนสงบลงเจ้าหน้าที่ นปพ.ที่อยู่ภายในฐาน ได้ช่วยกันนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นาย ส่งรักษาที่โรงพยาบาลสุไหงปาดี เมื่อแพทย์ทำการปฐมพยาบาลในเบื้องต้น ได้ส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก

 

ต่อมา เวลา 22.00 น.ของวันเดียวกัน พ.ต.อ.อัสรี ต่วนเพ็ง ผกก.สภ.สุไหงปาดี และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง ได้นั่งรถยนต์หุ้มเกราะวีวาร์ มายังจุดเกิดเหตุ และขณะที่รถยนต์หุ้มเกราะของผู้กำกับ สภ.สุไหงปาดี จอดได้เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นอีก 1 ลูก แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ และทราบว่าระเบิดลูกดังกล่าวประกอบใส่ไว้ในถังดับเพลิง จุดชนวนด้วยการตั้งเวลา ที่คนร้ายได้ฝังไว้บริเวณป่ารกทึบ ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับประตูทางเข้าฐาน โดยคนร้ายมีเป้าหมายฝังไว้เพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่ หากเจ้าหน้าที่นำกำลังติดตามไล่ล่า แต่ด้วยความไม่ประมาทเจ้าหน้าที่จึงไม่ได้ออกติดตามคนร้าย

 

 

 

 

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ที่ได้มีการกระจายกำลังนัดแนะในการก่อเหตุร้ายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในช่วงเดือนรอมฎอนซึ่งคาบเกี่ยวกับในช่วงฮารีรายอ ในการแสดงศักยภาพ

 

 

ณรงค์ นวลสกุล  จ.นราธิวาส