ข่าว

"เรือบรรทุกน้ำมัน" ระเบิด เสียชีวิตรวม 8 ราย ตร. เร่งสอบปากคำเหตุเรือระเบิด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คืบหน้า "เรือบรรทุกน้ำมัน" ระเบิด สมุทรสงคราม พบผู้เสียชีวิตครบ 8 ราย แล้ว ตำรวจเร่งสอบปากคำ หาสาเหตุเรือระเบิด

จากกรณีที่ "เรือบรรทุกน้ำมัน" สมูธซี 22 ระเบิด ในท่าเรือรวมมิตรด็อคยาร์ค ม.8 ต.แหลมใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. วันที่ 18 มกราคม 2566 นั้น ต่อมา 10.36 น. พบศพผู้เสียชีวิตรายแรก ชื่อ นายทุย (ชาวเมียนมา) และเวลา 14.42 น. พบศพถูกเผาไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อ ซึ่งคาดว่าจะเป็น นายวิเชียร บุญเลิศ ชาวไทย 

 

 

ต่อมาเช้าวันนี้ (19 ม.ค.2566) เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากหลายมูลนิธิได้สนธิกำลังการวางแผนค้นหาผู้สูญหายอย่างต่อเนื่อง โดยปูพรมทั่วแม่น้ำแม่กลองทั้งบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุระเบิดและบริเวณโดยรอบ ในรัศมี 3 กิโลเมตร รวมทั้งมีการดำน้ำค้นหาผู้สูญหายด้วย

 

กระทั่งเวลา 09.05 น.ได้พบศพ นายวินโบ (ชาวเมียนมา) จากนั้นเวลา 10.09 น. พบศพ นายดูแง (ชาวเมียนมา) เวลา 11.00 น. พบศพ นายซอมิน (ชาวเมียนมา) เวลา 11.50 น. พบศพนายวิน (ชาวเมียนมา) เวลา 13.10 น. พบศพ นายโซล (ชาวเมียนมา) เวลา 13.30 น. พบศพ นายตี่ละ (ชาวเมียนมา) รวม 8 ศพ โดยทั้งหมดนำมาขึ้นที่ท่าท้ำวัดปากสมุทร ต.แหลมใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ส่งชันสูตรต่อไป

 

 

ด้าน พ.ต.อ.ศยาม อินทสุวรรณโณ ผู้กำกับการ สภ.เมืองสมุทรสงคราม เปิดเผยในทางคดีว่า เจ้าหน้าที่สอบปากคำผู้บาดเจ็บแล้ว 4 ราย และกำลังทยอยสอบปากคำญาติผู้เสียชีวิตที่ยืนยันแล้ว นอกจากนี้ ยังรอเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเจ้าท่าฯ มาแจ้งความร้องทุกข์ ส่วนกรณีที่ว่าใครประมาทนั้นยังสอบปากคำไม่จบ ซึ่งทางเจ้าท่าก็กำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อหาข้อหาที่เกี่ยวข้องว่าจะแจ้งความข้อหาอะไร เบื้องต้นเจ้าของเรือยังไม่พบความผิด เพราะเป็นผู้นำเรือมาจ้างให้ซ่อมบำรุง ผู้ที่เข้าข่ายมีความผิด จะมีฝ่ายท่าเทียบเรือ และผู้รับเหมาซ่อมเรือ

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำนักงานเจ้าท่าสาขาสมุทรสงคราม ได้เรียกประชุมฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุเรือ สมูธ ซี ระเบิด แต่ไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าร่วมประชุมแต่อย่างใด

 

ส่วนการเยียวยาช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ นายอมรศักดิ์ ฉัตรระทิน นายก อบต.แหลมใหญ่ เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้มีชาวตำบลแหลมใหญ่มาลงทะเบียน 97 ราย ตำบลบางจะเกร็ง 27 และเทศบาลเมืองสมุทรสงครามอีก 4 ราย 

 

 

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางที่บ้านของ นางอารี สุวรรณาราม อายุ 32 ปี ต.แหลมใหญ่ อ.เมืองสมุทรสงคราม ซึ่งขายอาหารทะเลสด ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร พบว่าฝ้าพังเสียหาย โดยวงจรปิดจับภาพไว้ชัดเจนว่า ขณะที่เกิดเหตุเรือบรรทุกน้ำมันระเบิดขึ้น แรงสั่นสะเทือนครั้งแรกทำให้ฝ้าตกเล็กน้อย แต่ครั้งที่ 2 ฝ้าตกลงมาจำนวนมาก ทำให้นางอารี ต้องรีบวิ่งไปดูแลลูก ส่วนอีกมุมนั้นมีฝาเหล็กกระเด็นตกลงมาภายในบริเวณบ้าน โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

 

 

นางอารี กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังทำอาหารเช้า จู่ๆ ได้ยินเสียงระเบิด รอบแรกฝ้าตกแตกกระจาย พอรอบที่ 2 ดังสนั่นบ้านสะเทือน ฝ้าตกลงอีกชุดใหญ่ ตนเองตกใจมาก รีบไปดูลูกซึ่งเล่นอยู่ข้างบ้าน ทั้งยังมีฝาถังตกลงมาอีก โชคดีที่ลูกวิ่งหลบหนีไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ตนเองไม่อยากให้ท่าเรือมาตั้งใกล้ชุมชนแบบนี้ อยากให้ไปอยู่ที่อื่น

 

 

ส่วนกรณี น้อง“คิงคอง”สุนัขเพศผู้พันธุ์อเมริกันบลูลี่ อายุ 1 ปี ที่ตกใจเสียระเบิดจนตายนั้น นายวาสุกี ด้วงกำเนิด อายุ 48 ปี และนางไพรินทร์ ด้วงกำเนิด 40 ปี สามีภรรยาผู้ประกอบการหอยดองและปลาหมึกแห้ง ได้นำศพสุนัขแสนรักไปประกอบพิธีทางศาสนาที่สำนักสงฆ์โพธิ์ทะเล ต.บ้านปรก อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม โดยนิมนต์พระสงฆ์ 4 รูป สวดบังสุกุล ก่อนทำพิธีเผา คล้ายกับงานศพของคน ซึ่ง นายวาสุกี บอกว่า รักเจ้าคิงคองมาก นอนกอดทุกคืน ทั้งนี้ตนเองซื้อมาในราคา 50,000 บาท ส่วนความเสียหายทั้งในบ้าน รวมทั้งวัตถุดิบ หอย หมึก ที่เสียหายเกือบ 200,000 บาท ตนเองอยากให้ผู้ประกอบการรับผิดชอบทั้งหมด ไม่ต้องการอะไรเพิ่มเติมขอให้ทำกลับมาเหมือนเดิม

 

เรือบรรทุกน้ำมันระเบิด

 

 

โดย : นพพร บุญทนาวงศ์

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ