ครอบครัวโผกอด พันจ่าเอก กำลังพล "เรือหลวงสุโขทัย หลังรอดชีวิต เหตุอับปางกลางทะเลอ่าวไทย พร้อมเผยวินาทีเอาตัวรอด
22 ธ.ค.2565 จากกรณี เรือหลวงสุโขทัย อับปางกลางทะเลอ่าวไทย พื้นที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังฝ่าคลื่นทะเลคลั่ง จนต้องสละเรือก่อนที่ เรือหลวงสุโขทัย จะอับปางลงในที่สุด ซึ่งกำลังพล บนเรือทั้ง 105 นาย ได้รับการช่วยกลับเข้าฝั่งแล้วทั้งสิ้น 82 นาย มีผู้เสียชีวิต 6 นาย และยังสูญหายอีก 23 นาย
ในส่วนของกำลังพลที่บาดเจ็บเล็กน้อยสามารถเดินทางกลับบ้านได้แล้วซึ่งมีจำนวน 58 นาย เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ ที่ ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย กองเรือยุทธการ ที่อำภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี มีครอบครัวของกำลังพลเดินมารอรับญาติของตนเอง
ครอบครัวศรีสมอ นำโดยนายสอน ศรีสมอ พร้อมด้วยภรรยาและญาติ ๆ ได้เดินทางมาจาก ต.ภูสวนแตง อ.บ้านใหม่ จ.บุรีรัมย์ เพื่อตามหา พันจ่าเอก เสริม ศรีสมอ หนึ่งในกำลังพลที่รอดชีวิต จากเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง
และ ทันทีที่ พันจ่าเอก เสริม ศรีสมอ ได้พบหน้ากับครอบครัว ได้โผเข้ากอดครอบครัว โดยมีน้ำตาคลอพันจ่าเอก เสริม เล่าถึงวินาที เอาตัวรอดจากเหตุเรือหลวงสุโขทัยอัปปาง ว่า เมื่อคลื่นลูกที่สองซัดขึ้นมาที่เรือ ตนเองกับเพื่อนก็ถูกคลื่นซัดตกเรือและเกาะกลุ่มกันเป็นวงกลม พร้อมประคองคนที่ไม่มีชูชีพ
หลังจากนั้นเมื่อเกาะกลุ่มได้ ก็ลอยคออยู่กลางทะเล เพื่อรอความช่วยเหลือ ซึ่งก่อนหน้านั้นทั้งวัน ยังไม่ได้กินอะไร เนื่องจากกระแสคลื่นที่แรงทำให้บนเรือไม่สามารถประกอบอาหารได้
พันจ่าเอก เสริม กล่าวอีกว่า วันเกิดเหตุมีภารกิจแต่คลื่นแรงทำให้ทอดสมอไม่ได้ จึงต้องเดินทางกลับ ทั้งนี้ ตนขอให้ทุกคนปลอดภัย ในส่วนของผู้เสียชีวิตทั้ง 6 นาย มีความสนิทสนมกันเจอกันทุกวัน ขณะที่น้อง ๆ ที่เกาะกลุ่มมาด้วยกันบางคนรอดชีวิต บางคนก็สูญหาย
ส่วนกรณีเสื้อชูชีพที่มีไม่ครบทุกคนนั้น พันจ่าเอก เสริม ยืนยันว่า พลประจำเรือต้องมีชูชีพประจำตัว ส่วนคนที่ไม่มีชูชีพไม่แน่ใจว่า เป็นนาวิกโยธิน และหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง จะมีชูชีพหรือไม่ เพราะมาขอขึ้นเรือไปจังหวัดชุมพร ซึ่งวันที่เดินทางทะเลมีคลื่นแรง แต่เรือรับสภาพได้ คลื่นมาแรงมากตอนเย็น
ในส่วนของสภาพจิตใจขณะนี้ ก็มีความเครียดบ้าง คิดถึงเพื่อนและน้องในทีมที่อยู่บนเรือที่เราเจอหน้ากันทุกวัน ตนเห็นข่าวก็รู้สึกใจหาย
อาทิตย์ กลิ่นทวี ผู้สื่อข่าว อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง