ข่าว

ไทม์ไลน์ช่วยลูกเรือ เรือหลวงสุโขทัย ตั้งแต่คลื่นซัดถึงอับปางลากยาว 11 ชม.

ไทม์ไลน์ช่วยเหลือกำลังผลบน เรือหลวงสุโขทัย ตั้งแต่คลื่นเริ่มซัดตัวเรือจนถึงอับปาง ลากยาวกว่า 11 ชั่วโมง ยังคงมีกำลังพลจำนวน 31 นายลอยคออยู่กลางทะเล

สำหรับเหตุการณ์ "เรือหลวงสุโขทัย" ประสบเหตุน้ำเข้าเรือจนเกิดการเอียง เนื่องจากคลื่นลมแรง ขณะทำการลาดตระเวน อยู่บริเวณแบริ่ง 090 ระยะ 20 ไมล์ จากท่าเรืออำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยบริเวณดังกล่าวมีคลื่นลมแรง 

 

 

ส่งผลให้  "เรือหลวงสุโขทัย" เอียงจนทำให้มีน้ำทะเลบางส่วนไหลเข้าระบบเครื่องไฟฟ้าผ่านท่อไอเสียข้างเรือ ทำให้เครื่องไฟฟ้าดับส่งผลต่อเครื่องจักรใหญ่หยุดทำงาน ซึ่งผลจากเครื่องจักรใหญ่และเครื่องจักรช่วยหยุดทำงานดังกล่าว 

เป็นเหตุให้ไม่สามารถควบคุม "เรือหลวงสุโขทัย" ได้ และส่งผลให้น้ำเข้าภายในตัวเรืออย่างรวดเร็วจนทำให้เรือเอียงและอับปางลงในที่สุด โดยขณะนี้หลายหน่วยงานได้ระดมกำลังเพื่อช่วยเหลือ และค้นหาลูกเรือทั้งหมดตั้งแต่ระยะแรกที่เริ่มจมขณะนี้เหลือลูกเรืออีก 31 คนที่ต้องค้นหาอย่างต่อเนื่อง 
 

สำหรับไทม์ไลน์การเข้าช่วยเหลือลูกเรือหลังจากที่ "เรือหลวงสุโขทัย" อับปางกลางทะเลในเวลา 23.30 น. ดังนี้  

 

18 ธันวาคม 2565 

-กองทัพเรือได้สั่งการให้เรือรบและอากาศยานของกองทัพเรือ ประกอบด้วย เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือหลวงกระบุรี เฮลิคอปเตอร์จำนวน 2 เครื่อง พร้อมชุดป้องกันความเสียหายและกู้ภัยเรือ เร่งให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน นอกจากนี้ได้ประสานหน่วยภายนอกเข้าร่วมให้การช่วยเหลือ 


-เวลา 20.40 น.  เรือหลวงกระบุรี ได้เดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุและพยายามเข้าเทียบ "เรือหลวงสุโขทัย" เพื่อส่งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่และช่วยเหลือกำลังพลจำนวน 106 นาย แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากคลื่นลมยังคงรุนแรง ต่อมาเรือหลวงสุโขทัย มีอาการเอียงมากขึ้นและได้จมลงเมื่อเวลา 

 

-เวลา 00.12 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่มีเรือลากจูงเอกชนจากท่าเรือบางสะพานจำนวน 2 ลำ และเรือน้ำมัน “STRAITS ENERGY” ได้เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุ เพื่อให้การสนับสนุนในการช่วยเหลือ ซึ่งเรือหลวงกระบุรี  เรือน้ำมัน “STRAITS ENERGY”เรือลากจูงทั้ง 2 ลำ ได้ดำเนินการช่วยเหลือกำลังพล 

 

-เวลา 01.04 น. เฮลิปคอปเตอร์แบบ Seahawks จำนวน 2 ลำ ได้เดินทางมาถึง พร้อมทั้งทำการปล่อยแพช่วยเหลือลงทะเล จำนวน 8 แพ ทั้งนี้เรือต่าง ๆ สามารถให้การช่วยเหลือกำลังพลขึ้นมาจากน้ำได้แล้ว 73 นาย โดยอยู่บนเรือหลวงกระบุรี จำนวน 47 นาย เรือลากจูง จำนวน 4 นาย เรือน้ำมันศรีไชยา จำนวน 20 นาย และเรือน้ำมัน “STRAITS ENERGY” จำนวน 2 นาย

 

วันที่ 19 ธันวาคม 2565

-เวลา 07.00 น. เรือหลวงกระบุรี ได้ออกเรือเดินทางจากท่าเรือบางสะพานไปยังพื้นที่เกิดเหตุเพื่อสนับสนุนการค้นหาและช่วยเหลือ ร่วมกับเรือหลวงอ่างทอง รวมถึงอากาศยานแบบ Dornier และเฮลิปคอปเตอร์แบบ Seahawks ที่กำลังเร่งดำเนินการค้นหา กำลังพลทั้งหมดและเตรียมการในการกู้เรือหลวงสุโขทัยต่อไป

 

อย่างไรก็ตามขณะนี้ ยังคงมีกำลังพลจำนวน 31 นายที่ลอยคออยู่ในทะเล ซึ่งเรือทั้งหมดที่อยู่ในพื้นที่กำลังเร่งดำเนินการค้นหาและช่วยเหลือต่อไป  ทั้งนี้เรือหลวงกระบุรี เรือลากจูง และเรือน้ำมัน “ศรีไชยา” ได้นำกำลังพลที่ได้รับการช่วยเหลือแล้ว 71 นาย เดินทางไปยังท่าเรือบางสะพานเรียบร้อยแล้ว

 

โดยมีกำลังพลจำนวน 11 นาย รักษา ณ โรงพยาบาลบางสะพาน ส่วนกำลังพล จำนวน 40 นาย เดินทางไปยังศูนย์พักพิง สำหรับกำลังพลที่ขึ้นมาจากเรือน้ำมัน “ศรีไชยา” จำนวน 20 นาย ได้เดินทางไปยัง โรงพยาบาลบางสะพาน เพื่อตรวจร่างกายและคัดแยกต่อไป 
  

 

กองทัพเรือ โดย กองเรือยุทธการ ได้ตั้ง ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย  ขึ้นมาทำหน้าที่ในการประสานการปฏิบัติ  เพื่อเร่งดำเนินการในการให้ความช่วยเหลือกำลังพลและกู้ภัยเรือหลวงสุโขทัย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของกำลังพลเป็นสำคัญ ทั้งนี้ญาติพี่น้องของกำลังพลประจำเรือ สามารถติดสอบถามได้ที่ ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยหมายเลขโทรศัพท์ 038 182 435 และ 084 002 3554 โดยล่าสุดมียอดกำลังพลที่ได้รับการช่วยเหลือแล้ว จำนวน 75 นาย  สำหรับรายละเอียดการปฏิบัติเพิ่มเติม สำนักงานโฆษกกองทัพเรือ จะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป 

 

 

ที่มา: กองทัพเรือ Royal Thai Navy 

ข่าวยอดนิยม