กองทัพเรือ เร่งค้นหาลูกเรือ"ร.ล. สุโขทัย"อีก 33 นาย ที่อับปางกลางทะเล

19 ธ.ค.2565  ความคืบหน้ากรณี เรือหลวงสุโขทัย อัปปางลงในทะเลอ่าวไทย บริเวณ พื้นที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์  ห่างจากชายฝั่ง 19 ไมล์ทะเล ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 18 ธ.ค. 2565 ที่ผ่านมา เนื่องจากทะเลมีคลื่นลมแรง ทำให้สภาพเรือเอียงจมทะเล 80% กระทั่งต่อมาเรือทั้งลำได้อับปางลง ในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ขณะที่การช่วยเหลือลูกเรือที่ประสบภัย จำนวน 106 นาย หน่วยงานในพื้นที่ อ.บางสะพาน ได้ระดมกำลังช่วยเหลืออย่างเต็มที่ 

 

ล่าสุด มีลูกเรือที่ประสบเหตุ เดินทางถึงท่าเรือน้ำลึกบางสะพาน โดยมากับเรือหลวงกระบุรี จำนวน 48 นาย และเรือบรรทุกสินค้าศรีไชยา สามารถช่วยเหลือมาได้อีก 20 นาย และของท่าเรือประจวบฯ สามารถช่วยเหลือได้อีก 4 นาย รวมลูกเรือที่ปลอดภัยแล้ว 73 ราย

 

 

 

 

 

 

สำหรับลูกเรืออีกที่ยังไม่พบนั้น ขณะนี้ทางกองทัพเรือได้ส่ง รล.อ่างทอง​ รล.ภูมิพล​ รล.กระบุรี​ ออกค้นหาลูกเรืออีก 33​ ราย อย่างเร่งด่วนแล้ว โดยได้ออกจากท่าเรือบางสะพานมุ่งหน้าไปจุดที่ เรือหลวงสุโขทัย อับปางกลางทะเลอ่าวไทยแล้ว เพื่อให้การช่วยเหลือลูกเรือที่ยังลอยคออยู่กลางทะเล ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น ภาวะคลื่นลมในทะเลยังทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง

 

สำหรับเรือหลวงสุโขทัย เป็นเรือชั้นคอร์เวต หมายเลข 442 สังกัดหมวดเรือที่ 1 กองเรือฟริเกตที่ 1 กองเรือยุทธการ ประจำการเมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2530 สร้างโดยบริษัท ทาโคมา โบ๊ตบิลดิ้ง ที่เมืองทาโคมา รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา (เรือชุดเดียวกับ เรือหลวงรัตนโกสินทร์ หมายเลข 441) 

 

ติดตั้งระบบอาวุโยุทโธปกรณ์ และระบบอำนวยการรบได้ทั้ง 3 มิติ ได้แก่ การป้องกันภัยทางอากาศ สงครามผิวน้ำ และสงครามปราบเรือดำน้ำ

 

 

 

 

คุณสมบัติมีระวางขับน้ำปกติ 840 ตัน เต็มที่ 960 ตัน กว้าง 9.6 เมตร ยาว 76.8 เมตร สูง 26.82 เมตร โดมโซนาร์ 4.5 เมตร ใช้เครื่องจักรใหญ่ดีเซลจำนวน 2 เครื่อง กำลัง 7,268 แรงม้า เครื่องไฟฟ้าจำนวน 4 เครื่อง ความเร็วมัธยัสถ์ 18 นอต สูงสุด 24 นอต ระยะปฏิบัติการสูงสุด 3,568 ไมล์ทะเล

 

ภารกิจหลักของเรือหลวงสุโขทัย คือ การปราบเรือดำน้ำ การลาดตระเวนตรวจการณ์ การคุ้มกันกระบวนเรือ การสนับสนุนการยิงฝั่ง ภารกิจรอง สนับสนุนภารกิจกองทัพเรือ

 

 

 

นอกจากนี้ ยังมีรายงานจาก ปภ.สุราษฎร์ธานี ว่าเมื่อช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. วานนี้ (18 ธ.ค.2565)  ได้รับแจ้งว่าชาวบ้านในพื้นที่หาดกำนัน ต.พุมเรียง อ.ไชยา พบเห็นพลุขอความช่วยเหลือจากเรือขนาดใหญ่ที่ลอยลำอยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 2 ไมล์ทะเล

 

 

 

 

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบพบเป็นเรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต ประเภทการใช้บรรทุกตู้สินค้า บรรจุไม้ยางพารา จำนวน 36 ตู้ และลูกเรือ 9 คน ออกเดินทางออกจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2565 เวลา 06.44 น. มุ่งหน้าไปยังท่าเรือแหลมฉบัง ถูกคลื่นสูงประมาณ 3 - 4 เมตร ซัด ทำให้โซ่รัดตู้คอนเทนเนอร์ขาด เรือเสียการทรงตัว และจมลงบริเวณทะเลอ่าวไทย ในพื้นที่อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี

 

 

 

เบื้องต้นลูกเรือและกัปตันทั้งหมด 9 คน อาศัยเรือยางชูชีพ เข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย และได้รับการช่วยเหลือนำส่ง ร.พ.ไชยา แล้ว

 

 

 

 

 

ปริพรรห์ รชตธรรมกุล จ.ประจวบคีรีขันธ์