ข่าว

ย้อนไทม์ไลน์ "เรือหลวงสุโขทัย" ออกลาดตระเวน ก่อน อับปาง กลางทะเลอ่าวไทย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ย้อนไทม์ไลน์ "เรือหลวงสุโขทัย" ออกลาดตระเวน ก่อน อับปาง ที่กลางทะเลอ่าวไทย ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา พบมีภารกิจที่ต้องเดินทางไปร่วมงานจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ ที่ ศาลกรมหลวงชุมพรฯ จ.ชลบุรี

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เมื่อ "เรือหลวงสุโขทัย" เกิดเหตุอับปางลงที่กลาง ทะเลอ่าวไทย ขณะที่กำลังลาดตระเวนอยู่บริเวณแบริ่ง 090 ระยะ 20 ไมล์ จากท่าเรือ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์

 

 

โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น สร้างความสนใจให้กับ ชาวโซเชียล อย่างมาก ซึ่งบน ทวิตเตอร์ นั้น ได้มีการอัปเดตและแชร์ข้อมูลที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนเหตุการณ์ "เรือหลวงสุโขทัย" ติด เทรนด์ทวิตเตอร์ ในเวลาอันรวดเร็วในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา

 

กำลังลาดตระเวนบนทะเลอ่าวไทย

 

"เรือหลวงสุโขทัย" กำลังลาดตระเวนอยู่บริเวณแบริ่ง 090 ระยะ 20 ไมล์ จากท่าเรือ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่งผลให้เรือมีอาการเอียง เนื่องจากคลื่นลมแรง ทำให้มีน้ำทะเลบางส่วนไหลเข้าระบบเครื่องไฟฟ้าผ่านท่อไอเสียข้างเรือ จนทำให้เครื่องไฟฟ้าดับ และส่งผลต่อเครื่องจักรใหญ่หยุดทำงาน เป็นเหตุให้เรือไม่สามารถควบคุมได้ และทำให้น้ำเข้าภายในตัวเรืออย่างรวดเร็ว จนทำให้เรือเอียงในเวลาต่อมา

 

 

รับแจ้งขอความช่วยเหลือจาก "เรือหลวงสุโขทัย"

 

เมื่อเวลา 19.00 น. เช็คข้อมูลมีการขอความช่วยเหลือจาก "เรือหลวงสุโขทัย" พิกัดห่างจากฝั่งประมาน 16 ไมค์ทะเล อ่าวไทยพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เบื้องต้นมีน้ำเข้าเรือ จนทำให้เรือเอียง เครื่องยนต์และอุปกรณ์สื่อสารใช้งานไม่ได้แล้ว

 

 

เวลา 20.00 น. จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่ถึงขั้นอับปาง แต่ "เรือหลวงสุโขทัย" เกิดการเอียง เนื่องจากคลื่นลมแรง และจอดอยู่บริเวณชายฝั่ง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่กองทัพเรือได้ส่งเรือที่อยู่ใกล้ที่สุดไปให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

 

อย่างไรก็ตาม มีรายงานเบื้องต้นว่า "เรือหลวงสุโขทัย" เจอคลื่นระดับ 4 (sea state 4) ซึ่งเรือนี้มีคุณค่าทางยุทธการสูง เป็นเรือชั้นคอเวต ต่อจากสหรัฐอเมริกา

 

เรือหลวงสุโขทัย

 

ส่ง เรือหลวงกระบุรี เข้าช่วยเหลือ

 

พลเรือเอก อะดุง พันธ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ กองทัพเรือ ยืนยัน "เรือหลวงสุโขทัย" ไม่ได้อับปาง แต่เกิดการเอียง เนื่องจากคลื่นลมแรง และจอดอยู่บริเวณชายฝั่ง 
อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ล่าสุด เรือหลวงกระบุรี ได้ออกเดินทางไปช่วยเหลือแล้ว เพื่อลำเลียงกำลังพลออกมาก่อน ขณะเดียวกันให้ เรือหลวงภูมิพล และ เรือหลวงอ่างทอง ตามเข้าไปสมทบช่วยเหลือ 

 

นอกจากนี้ ยังให้เฮลิคอปเตอร์ซีฮอวก์ นำเครื่องมือและอุปกรณ์ค้นหา บินไปสำรวจพิกัดให้แน่ชัด เพื่อประสานการช่วยเหลืออีกทาง คาดว่าตจะสามารถช่วยเหลือกำลังพลทั้งหมดได้ 
โดยขณะนี้ทุกคนยังปลอดภัยดี

 

 

"เรือหลวงสุโขทัย" เตรียมร่วมงานจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ

 

เวลา 21.00 น. พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยความคืบหน้าถึงสาเหตุเรือหลวงสุโขทัย ประสบปัญหากลางทะเลว่า เกิดจากเครื่องจักรใหญ่ กับเครื่องจักรช่วย ขัดข้อง ทำให้น้ำย้อนไหลกลับเข้าไปในตัวเรือ ทำให้เรือเอียง 60 องศา ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งสูบน้ำในตัวเรือออก แต่หากไม่สามารถพยุงเรือไว้ได้ อาจจะต้องสละเรือ ในขณะที่กำลังพลบางส่วนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องถูกลำเลียงขึ้นฝั่งเรียบร้อยแล้ว

 

ทั้งนี้ เบื้องต้นได้ส่ง เรือหลวงกระบุรี ที่อยู่ปฏิบัติภารกิจใกล้เคียงกับ "เรือหลวงสุโขทัย" ออกเดินทางไปให้ช่วยเหลือแล้ว นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้สั่งการให้ เรือหลวงภูมิพล เรือหลวงอ่างทอง เดินทางไปให้ความช่วยเหลืออีกทางหนึ่งด้วย  

 

สำหรับ "เรือหลวงสุโขทัย" มีภารกิจที่ต้องเดินทางไปร่วมงานจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือ "องค์บิดาของทหารเรือไทย” เนื่องในโอกาสครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี  ที่บริเวณศาลกรมหลวงชุมพรฯ จ.ชลบุรี

 

เรือหลวงสุโขทัย

 

 

รับการยืนยัน "เรือหลวงสุโขทัย" อับปาง

 

พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ได้ยืนยันว่า เมื่อเวลา 23.30 น. เรือหลวงสุโขทัย ได้จมลงแล้ว หลังพยายามที่จะเข้ากอบกู้สถานการณ์แต่ไม่สำเร็จ เพราะคลื่นลมที่ยังคงแรงมาก ส่วนกำลังพลทั้งหมดปลอดภัย อยู่ในระหว่างการลำเลียงขึ้นบนเรือหลวงกระบุรี

 

 

ปฏิบัติการช่วยเหลือลูกเรือบน "เรือหลวงสุโขทัย"

 

เวลา 02.25 น. สถานการณ์หลัง "เรือหลวงสุโขทัย" ล่ม ในพื้นที่มีเรือที่ทำการช่วยเหลือ จำนวน 5 ลำ ประกอบด้วย เรือหลวงกระบุรี เรือประจวบ 4 (เรือ Tug) เรือประจวบ 5 (เรือ Tug) เรือ Star Energy (เรือน้ำมัน) เรือศรีชัยยา (เรือน้ำมัน)

 

เวลา 02.10 น. ได้ช่วยเหลือกำลังพล "เรือหลวงสุโขทัย" สอ.รฝ. และ นย. ได้แล้ว 73 นาย ในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย และยังคงอยู่ในน้ำ 33 ราย 

 

เวลา 02.15 น. เรือหลวงกระบุรี กำลังเดินทางไปยังท่าเรือบางสะพานเพื่อส่งกำลังพลที่บาดเจ็บ และส่งกำลังพลที่เหลือตรวจเช็คร่างกายที่โรงพยาบาลประจวบ โดยยังคงเหลือเรืออีก 4 ลำในพื้นที่ เพื่อค้นหากำลังพลที่เหลือส่วน เรือหลวงอ่างทอง คาดว่าจะเดินทางถึงพื่นที่เวลา 06.00 น.

 

เวลา 04.00 น. ความคืบหน้าการช่วยเหลือกำลังพล "เรือหลวงสุโขทัย" เบื้องต้นสามารถช่วยกำลังพลที่ลอยคออยู่ในทะเลขึ้นมาได้ 43 คน และนำกำลังพลที่ช่วยขึ้นมาได้เดินทางเข้ามาขึ้นที่ท่าเรือน้ำลึก อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีการเตรียมพร้อม รถพยาบาล และรถของมูลนิธิ ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวมกว่า 30 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่ ฝ่ายปกครองอำเภอบางสะพาน ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยเขต 4 ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แพทย์ พยาบาล  

 

เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่เป็นสีแดง 4 ราย ทั้งขาหัก และเสียเลือดมาก และบาดเจ็บเล็กน้อยสีเหลือง โดยในชุดแรกมีกำลังพลบาดเจ็บรวม 43 ราย นำส่งโรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่เพื่อทำการตรวจรักษาต่อไป

 

เรือหลวงกระบุรี

 

 

ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สร้างความสนใจบน โลกโซเชียล อย่างมาก โดยเฉพาะบน ทวิตเตอร์ ได้มีการแชร์ข้อมูล เกาะติดสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง จนติด เทรนด์ทวิตเตอร์ ในเวลาอันรวดเร็วในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา

 

ทวิตเตอร์

ทวิตเตอร์

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ