“ลูกชาย” ชวนชายเร่ร่อนมากินเหล้าในบ้าน พอเมาได้ที่พยายามข่มขืนแม่วัย 85 ปี พิการขาขาด โชคดีหลานชายช่วยทัน ก่อนถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์จนอ่วม
เมื่อเวลาประมาณ 15:00 น. ของวันนี้(24 พ.ย.65) เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีเหตุชายเมาสุราพยายามจะข่มขืนคนพิการขาขาด ชาวบ้านได้ช่วยกันจับตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ ขอให้เจ้าหน้าที่รีบมาตรวจสอบโดยด่วน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นภายในบ้านของนางนางช้อง คำเพ็ชร อายุ 85ปี ซึ่งพิการเป็นโรคเบาหวานมีขาเพียงข้างเดียว ในพื้นที่หมู่8 ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.จันทบุรี
เมื่อเจ้าหน้าที่สายตรวจไปถึงที่เกิดเหตุก็พบว่า ชาวบ้านช่วยกันควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ เป็นชายอายุประมาณ 40 ถึง 50 ปี สวมเสื้อแขนยาวสีดำทับเสื้อยืดด้านในสีเทาและสวมรองเท้าแตะ ได้รับบาดเจ็บมีแผลบริเวณศีรษะและที่ข้อมือขวา จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้มาปฐมพยาบาลเบื้องต้น
จากนั้นจึงควบคุมตัวไปสอบสวน ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรีเบื้องต้นผู้ก่อเหตุอยู่ในอาการมึนเมา ถามตอบไม่รู้เรื่องว่าเป็นใครมาจากไหน
สอบถามผู้อยู่ในเหตุการณ์คือ นายธีรวัฒน์ คำเพ็ชร อายุ 29 ปีเป็นหลานชายของยายวัย85 ปี เล่าว่า ตนเองได้ยินเสียงยายร้องให้ช่วยจึงวิ่งออกมาดูพร้อมกับตะโกนว่าใครทำอะไรยายกูว่ะ จากนั้นผู้ก่อเหตุก็วิ่งสวนออกมา ตนเองจึงต่อยผู้ก่อเหตุจนล้มหัวฟาดพื้น จากนั้นจึงมีคนวิ่งมาช่วยกันจับตัวเอาไว้ และโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ให้มารับตัวผู้ก่อเหตุ
นายธีรวัฒน์ กล่าวว่า ตัวเองพยายามสอบถามผู้ก่อเหตุว่าเป็นใครมาจากไหนแต่ก็ไม่เป็นผลเนื่องจากผู้ก่อเหตุเมาจนไม่ได้สติไม่รู้ว่าตนเองมาจากไหน ส่วนผู้ที่นั่งดื่มสุราด้วยเป็นลูกของยายชื่อนายจเร คำเพ็ชร หรือหนูอายุ 50 ปี ก็เมาจนไม่รู้เรื่องเช่นกัน
ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นชายเร่ร่อน มักอาศัยหลับ-นอน อยู่ในหมู่บ้านใกล้เคียง แต่ไม่รู้ว่าเข้ามานั่งดื่มสุรากับลูกชายของยายได้อย่างไร และวันนี้นั่งดื่มสุรากันเป็นวันที่สองแล้วพอเมาสุราได้พยายามข่มขืนคุณยายต่อหน้าลูกชายของคุณยายที่นั่งดื่มสุราอยู่ด้วยกัน
ส่วนทางด้านผู้เสียหายคือ นางช้อง คำเพ็ชร อายุ 85 ปี เล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ทั้งสองคนนั่งดื่มสุรากันอยู่ภายในห้องส่วนยายก็นั่งดูหนังฟังวิทยุ อยู่ข้าง ได้ยินเสียงของผู้ก่อเหตุคุยกับลูกชายของตนเองว่าจะเข้ามาข่มขืนยายจึงร้องให้คนช่วยหลานชายได้ยินจึงเข้ามาช่วย
ด้านผู้ก่อเหตุตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรีนำตัวไปสอบสวนแต่ก็ไม่ได้ผล เนื่องจากผู้ก่อเหตุไม่สามารถให้ข้อมูลได้เพราะอยู่ในอาการมึนเมาอย่างหนัก จึงนำตัวไปสงบสติอารมณ์ในห้องขัง รอจนกว่าจะมีสติรู้ตัวจึงจะนำตัวออกมาสอบสวนและแจ้งข้อหาอีกครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง