หมอร้องศูนย์ดำรงธรรม ถอย "รถหรูป้ายแดง" เกือบ 3 ล้าน รถไม่ตรงปก ขับไปซ่อมไป
หมอหอบหลักฐาน ร้องศูนย์ดำรงธรรม ถอยรถหรูป้ายแดง ราคาเกือบ 3 ล้าน ได้รถไม่ตรงปก ขับไปซ่อมไป วอนทุกฝ่ายเห็นใจหากไม่เปลี่ยนรถขอเงินคืนก็ยังดี เพราะไม่กล้าใช้รถอีกแล้ว เนื่องจากขับอยู่ดีๆรถดับเองได้
23 พ.ย.2565 ที่ศูนย์ดำรงธรรม ชั้น 1 ศาลากลาง จ.ขอนแก่น นายปัญญา (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ทันตแพทย์ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ใน จ.กาฬสินธุ์ นำหลักฐานเข้าร้องเรียน ขอความเป็นธรรมกับนายกิตติพงษ์ เบี้ยวโกฏิ ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมขอนแก่น เพื่อเรียกร้องให้บริษัทรถยนต์ชื่อดัง หรือผู้แทนจำหน่ายฯ ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ หลังได้ซื้อรถในราคา 2.99 ล้านบาท แต่กลับได้รถที่ไม่ตรงปก รถมีปัญหาขัดข้องและชำรุด ต้องส่งซ่อมมาอย่างต่อเนื่อง จนเกือบเกิดอุบัติเหตุขณะขับขี่มาแล้วเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา
นายปัญญา เปิดเผยว่า ตนตัดสินใจซื้อรถยนต์คันดังกล่าว โดยทำการศึกษารายละเอียดและข้อมูลของรถค่ายยุโรปรุ่นนี้มาอย่างต่อเนื่อง ด้วยยี่ห้อที่เป็นที่น่าเชื่อถือ และรถมีระบบความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่เผยแพร่ในหลายประเทศทั่วโลก จึงตัดสินใจซื้อ ในราคา 2.99 ล้านบาท จากโชว์รูมที่กรุงเทพฯ ซึ่งยอมรับว่ามีการศึกษารถคันนี้มากับ 3 บริษัท ทั้งที่กรุงเทพ และ ขอนแก่น
โดยบริษัทฯของค่ายรถคันนี้ได้ให้ข้อเสนอสูงสุด จึงตัดสินใจวางเงินจองและทำสัญญาซื้อ โดยทำการจองรถเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา และนัดรับส่งมอบรถกันในเดือน ก.ค. แต่ทางบริษัท ฯได้ขอเลื่อนส่งมอบรถไปในเดือน ต.ค. โดยระบุว่ารถไม่ผ่านการตรวจสอบ จนกระทั่งเดือน ส.ค.บริษัทฯได้โทรมาว่าจะส่งมอบรถ จึงตัดสินใจรับรถและนัดรับมอบรถกันที่จ.ขอนแก่น โดยรับรถสีดำ ป้ายแดง ในวันที่ 8 ก.ย. 2565
ต่อมาเมื่อวันที่ 1 พ.ย. รถเริ่มเกิดปัญหาครั้งแรก คือระบบเปิด-ปิด รถใช้งานไม่ได้ และสายต่อระบบชาร์จไฟของรถถอดไม่ได้ จึงแจ้งไปที่บริษัทฯแม่ ซึ่งทางบริษัทฯ ได้มายกรถไปซ่อมที่ศูนย์ซ่อมขอนแก่น โดยระบุว่าเกิดจากระบบแบตเตอรี่ และเข้าทำการซ่อมตามปกติ โดยนัดรับรถกลับคืนในวันที่ 9 พ.ย. ซึ่งตน ได้เดินทางมารับรถที่ขอนแก่น และขับกลับไปทำงานที่ จ.กาฬสินธุ์ทันที
และที่กำลังขับออกจากขอนแก่น ได้ประมาณ 70 กม. จู่ ๆ ระบบแจ้งเตือนรถก็แสดงขึ้น เครื่องยนต์ก็ผ่อนแรง แอร์ดับ ตนเห็นท่าไม่ดี จึงตัดสินใจขับรถเข้าช่องทางด้านซ้าย โดยในจังหวะที่จะถึงช่องทางซ้ายสุดรถก็หยุดอย่างกระทันหัน ท่ามกลางความตกใจของผมและครอบครัวอย่างมาก เพราะหากรถหยุดอยู่กลางถนนขณะขับ คงเกิดอุบัติเหตุเป็นแน่
ซึ่งเมื่อรถหยุดก็ได้แจ้งทางบริษัทฯ ตามใบรับประกัน ศูนย์ฯก็มายกรถกลับมาซ่อมที่ขอนแก่น อีกครั้ง ซึ่งตนและครอบครัวกลัวมากเพราะไม่มั่นใจในระบบรถและความปลอดภัยของรถคันนี้แล้ว และก็คิดว่าหากส่งรถซ่อมอีกแล้วกลับมาใช้อีกคงเกิดอันตรายแน่ จึงประสานไปยังบริษัทฯ เพื่อขอคืนรถ เปลี่ยนรถ หรือขอเงินคืน”
นายปัญญา กล่าวอีกว่า ทุกคนที่ซื้อรถยี่ห้อดัง ราคาแพง ที่หลายคนการันตีว่ามีมาตรฐานความปลอดภัยและสะดวกสบายระดับโลก แต่มาเจอเหตุการณ์ 2 ครั้งพร้อมกันใน 1 เดือน ทั้งที่เป็นรถใหม่ป้ายแดง และไม่มีใครมาแสดงความรับผิดชอบ ตนจึงต้องออกมาต่อสู้และเรียกร้องในสิทธิของการเป็นผู้บริโภค ซึ่งตนได้ยื่นข้อเสนอไปที่บริษัท ฯ ทั้งในส่วนของบริษัท ฯ แม่ บริษัท ฯที่จำหน่ายรถให้กับตนเองและศูนย์ซ่อมที่ขอนแก่น ก็ถูกบ่ายเบี่ยง ไม่มีความชัดเจนใด ๆ และได้รับคำตอบว่าบริษัทฯไม่สามารถรับข้อเสนอจากลูกค้าได้และขอตรวจสอบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากตัวรถ,การใช้งาน หรือการซ่อม
ซึ่งวันนี้ศูนย์ได้ประสานมาให้ตนเองมารับรถที่ซ่อมเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งก็เข้าใจศูนย์ว่าทำตามหน้าที่ตนเองก็คงไปรับมาก่อนและไม่กล้าขับรถคันนี้อีกแล้วเพราะกังวลเรื่องความปลอดภัยและไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใด ๆเกิดขึ้นมาอีก จึงตัดสินใจเข้าร้องเรียนหน่วยงานของรัฐคืนความชอบธรรมให้กับผู้บริโภคและร้องเรียนต่อสื่อมวลชนเพื่อช่วยเป็นกระบอกเสียงสะท้อนถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยเฉพาะบริษัท ฯ รถรายใหญ่ระดับโลกให้ได้มาแสดงความรับผิดชอบกับลูกค้าด้วย
ด้านนายกิตติพงษ์ เบี้ยวโกฎิ ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมขอนแก่น กล่าวว่า ได้ทำการตรวจสอบเอกสารหลักฐานการร้องเรียนรวมทั้งการดำเนินการตามขั้นตอนการรับเรื่องของศูนย์ดำรงธรรมเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะมีการสอบสวนและเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมพูดคุยตามขั้นตอนการดำเนินงานของศูนย์ ฯ ต่อไป
พรพรรณ เพ็ชรแสน ศูนย์ข่าวภาคอีสาน