"พล.ต.ปราโมทย์" ประณามกลุ่มก่อเหตุ "คาร์บอมบ์" พื้นที่ชุมชน หวังผลถึงชีวิต

23 พ.ย.2565  ความคืบหน้าเหตุคนร้าย ลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ ภายในแฟลตตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส ล่าสุด พลตรี ปราโมทย์ พรหมอินทร์   รองผู้อำนวยการ รักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า ลงพื้นที่เกิดเหตุลอบวางระเบิดบริเวณบ้านพักข้าราชการ สภ.เมืองนราธิวาส เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดเหตุ คาร์บอมบ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับมาที่ กอ.รมน.ภ.4 ส่วนหน้า ให้เร่งรัดในการให้การช่วยเหลือเยียวยา รวมถึงเรื่องการใช้มาตรการทางกฎหมาย และยังได้กำชับถึงการยกระดับการรักษาความปลอดภัยให้มั่นใจว่าในพื้นที่มีความปลอดภัยสูงสุด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ล่าสุด พลโทศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการใน 3 เรื่อง คือ เรื่องการช่วยเหลือเยียวยา ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาสำรวจความเสียหาย ทั้งในเรื่องของชีวิตและทรัพย์สิน เพื่อนำไปสู่การให้ความช่วยเหลือเยียวยา ให้เป็นไปตามระเบียบการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ ยังได้กำชับในเรื่องการเร่งรัดการฟื้นฟูความเสียหาย เพื่อให้กลับคืนสู่สภาวะปกติ  

 

ทั้งนี้  เมื่อวานนี้ พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่หลังจากเกิดเหตุ ได้กำชับเรื่องการปูนบำเหน็จความดีความชอบ เป็นกรณีพิเศษให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียชีวิต 

ในส่วนของการบังคับใช้กฎหมาย กับผู้ที่ก่อเหตุ ตั้้งแต่เกิดเหตุเมื่อวานนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้หน่วยในพื้นที่เข้ามาควบคุมที่เกิดเหตุ และวันนี้ พิสูจน์หลักฐานได้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน จากการตรวจสอบเบาะแสคนร้ายในเบื้องต้น  คนร้ายได้มีการนำระเบิดแบบแสวงเครื่อง ประกอบอยู่ในแก๊สหุงต้ม ขนาด 15 กก. บรรจุไว้ในรถยนต์ปิคอัพและขับมาจอด ณ จุดเกิดเหตุ และมีการจุดชนวนระเบิดด้วยการตั้งเวลา

 

 

 

 

ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบเบาะแสของรถยนต์คันดังกล่าวแล้ว และเนื่องจากรถยนต์คันดังกล่าวไม่ได้เป็นรถที่ถูกแจ้งหาย ไม่ใช่รถที่ถูกโจรกรรม หรือปล้นมา ทำให้รถคันดังกล่าวรอดพ้นจากการเฝ้าระวังของเจ้าหน้าที่ได้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบเบาะแสของผู้ครองครองรถยนต์คันดังกล่าวแล้ว  อยู่ระหว่างขยายผลเพื่อเชื่อมโยงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้อย่างไร

 

 

 

 

 

ส่วนมาตรการเร่งด่วนในการยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัย ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้มีการปรับแผนในการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ อย่างเข้มงวดตั้งแต่มีการประชุมเอเปค  แต่คนร้ายยังได้อาศัยช่องว่างมาลงมือก่อเหตุ แม่ทัพภาคที่ 4 จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วย ยกระดับการรักษาความปลอดภัย อยู่ในขั้นสูงสุด โดยเฉพาะการจัดชุดปฏิบัติการในพื้นที่ ทำการลาดตระเวนแบบไม่เป็นเวลา ที่สำคัญคือการเฝ้าระวังพื้นที่เปราะบาง พื้นที่เป้าหมาย พื้นที่เศรษฐกิจ แหล่งชุมชน  ให้มีความเข้มงวดมากขึ้น 

 

 

 

สำหรับการก่อเหตุของคนร้าย ไม่อยากให้มองว่าเป็นการตอบโต้ในการบังคับใช้กฎหมาย เพราะดูจากลักษณะในการก่อเหตุคนร้ายได้มีการวางแผนมาเป็นอย่างดี ตั้งแต่ในเรื่องของการนำรถยนต์เข้ามาก่อเหตุ การวางแผนในการก่อเหตุในที่พักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ซึ่งจุดที่คนร้ายเข้ามาก่อเหตุ จะเห็นได้ว่าคนร้ายมุ่งหวังทำลายชีวิต  เพราะจุดที่คนร้ายก่อเหตุ นอกจากมีข้าราชการตำรวจแล้ว ยังมีครอบครัว และประชาชน รวมถึง จุดเกิดเหตุอยู่ตรงข้ามโรงเรียนประจำจังหวัด ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีนักเรียนจำนวนมากการก่อเหตุ นอกจากจะมีเรื่องของการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินแล้ว ยังนำมาในเรื่องของการสร้างความตื่นตระหนกส่งผลกระทบทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม  ซึ่งการกระทำในลักษณะนี้ ย่อมส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและเสถียรภาพของรัฐบาล 

 

ในส่วนของคนร้าย ที่ลงมือก่อเหตุในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้เป็นกลุ่มขบวนการ แต่เบื้องหลังของการก่อเหตุ ต้องขอเวลาในการตรวจสอบ ซึ่งยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง  ไม่ว่าจะเป็นประเด็นทางการเมือง หรืออุดมการณ์ของกลุ่มผู้ก่อเหตุ หรือแม้กระทั่งในเรื่องของเหตุแทรกซ้อน  ซึ่งหลังจากนี้จะได้เร่งรัดในการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อนำไปสู่การติดตามคนร้าย 

 

 

 

 

พล.ต.ปราโมทย์ ยังกล่าวอีกว่า การก่อเหตุของคนร้ายที่เลือกลงมือในย่านชุมชน และอยู่ในเขตที่ใกล้กับสถานศึกษาซึ่งถือว่าเป็นพฤติกรรมที่สมควรถูกประนาม เพราะนอกจากที่จะเกิดความสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สินแล้ว ยังสร้างความตื่นตระหนก ของนักเรียน ซึ่งล่าสุด โรงเรียนนราสิกขาลัย ได้สั่งหยุดเรียนเป็นเวลา 2 วัน 

 

 

 

 

ในส่วนของการก่อเหตุที่เกิดขึ้นในช่วงของการประชุมเอเปค ตั้งแต่การลอบยิง และลอบวางระเบิด ในพื้นที่ อ.จะแนะ  การลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหาร เป็นเหตุให้เสียชีวิตไป 1 นาย ถัดมามีการวางระเบิดปั๊มน้ำมัน ที่ปัตตานี  ต่อมามีการวางระเบิดเสาไฟฟ้าแรงสูง ที่จังหวัดยะลา  และเกิดเหตุ คาร์บอมบ์ ที่แฟลตตำรวจ ล้วนแต่เป็นเหตุการณ์ที่ต่อเนื่อง ในช่วงของการประชุมเอเปค และหลังการประชุม ซึ่งก็เป็นข้อสังเกตของหน่วยงานด้านความมั่นคง เพราะในช่วงที่ผ่านมา ได้รับการแจ้งเตือนว่ามีความพยายามในการก่อเหตุในช่วงดังกล่าว  ซึ่งที่ผ่านมา ทาง กอ.รมน. ภาค 4  ส่วนได้ ได้พยายามควบคุมพื้นที่ ส่วนจะสรุปเบื้องหลังของการก่อเหตุที่ผ่านมา และครั้งล่าสุด ต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบอีกครั้ง