สาวปล่อย "เงินกู้" เสียรู้แก๊ง18 มงกุฎ หลอกให้โอนค่ากู้เงิน สูญ 1.8 ล้าน | คมชัดลึก

12 พ.ย.2565  ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลบางพูด อำเภอปากเกร็ด  จังหวัดนนทบุรี นายรณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วย  น.ส.อชิรญาน์ หรือเจน  (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี  ผู้เสียหาย ซึ่งมีอาชีพปล่อยเงินกู้   

 

โดย น.ส.เจน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าได้ขอให้ทางทนายรณรงค์ ช่วยติดตามคดีหลังตนเองถูกมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินไปจำนวน 1.8 ล้านบาท และได้แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ. เทพสถิต จังหวัดชัยภูมิแล้ว แต่คดีไม่มีความคืบหน้าหลังผ่านไปเกือบ 2 เดือน

 

 

 

 

 

 

โดย ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา ตนเองให้ได้เห็นเพจ ๆ หนึ่งโพสต์ข้อความว่า หากใครจะกู้เงินดอกถูกมากเพียงแค่ 0.4% ใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว ตนเองจึงทักไป ต่อมาได้มีนางสาวนภมาศ (สงวนนามสกุล)  แจ้งตอบกลับมาแนะนำตัวกับตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของบริษัท แห่งหนึ่ง และให้ตนส่งรายละเอียดการเดินบัญชีเพื่อทำเรื่องขอกู้เงินจำนวน 400,000 บาทที่ตนต้องการกู้ เพื่อให้กับสามีที่เป็นอดีตนายตำรวจไปซื้อวัวควายทำไร่นาที่จังหวัดชัยภูมิ

 

กระทั่งต่อมาเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2565 นางสาวนภมาศ ได้แจ้งกลับมาที่ตนว่าบัญชีตนเองมีเงินหมุนเวียนเข้าออกดี  สามารถกู้ได้ถึง 3,200,000 บาท แต่ต้องวางเงินก่อน 10% คือ 32,000 บาท และให้ตนโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเกียรตินาคิน ของนางสาวณัฐพร (สงวนนามสกุล)  ตนจึงโอนให้ไป จากนั้นนางสาวนภมาศ แจ้งกลับมาว่าระบบ AI ไม่สมบูรณ์ทำให้เรื่องไม่ผ่านถ้าจะต้องให้ผ่านต้องโอนเงินเข้ามาใหม่อีกตนก็หลงเชื่อ

 

 

 

 

ซึ่งตลอดระยะเวลาไม่ถึง 1 เดือนครึ่ง ตนได้โอนเงินให้กับนางสาวนภมาศไปเป็นเงินจำนวน 1.8 ล้านบาท ส่วนที่ต้องโอนไปเยอะ ครั้งละ 30,000 ถึงแสนห้า เพราะตนเองอยากได้เงินคืนตั้งแต่ที่โอนไปครั้งแรกแต่ก็ถูกใช้คำพูดชักชวนหว่านล้อมให้โอนเงินเข้ามาเรื่อย ๆไม่อย่างนั้นจะไม่ได้ยอดเงินกู้ 3.2 ล้านบาทตามที่เขาเสนอมา ทั้ง ๆ ที่ตนทำเรื่องกู้เพียงแค่ 4 แสนบาทเท่านั้นเอง จึงอยากให้ทนายรณณรงค์ ช่วยเหลือติดตามเงินที่ถูกหลอกไปกลับคืนมาให้ด้วย

 

 

 

 

 

ด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวผ่านมาแล้ว 2 เดือน คดียังไม่มีความคืบหน้า ต้องฝากไปถึงผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ให้ช่วยเร่งรัดคดี คนชัยภูมิโดนหลอกไป 1.8 ล้าน ซึ่งเป็นเงินจำนวนไม่น้อย 

 

 

 

 

แล้วจะให้ผู้เสียหายกลับไปชัยภูมิแจ้งความยูทูปเบอร์รายหนึ่ง ซึ่งแนะนำให้ผู้เสียหายรู้จักกับแก๊งต้มตุ๋นปล่อยเงินกู้ เพราะเป็นมันนี่โค๊ด รับโฆษณามาของคอลเซ็นเตอร์ ต้องรับผิดชอบตรงนี้ด้วย ความผิดเรื่องของการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ คอลเซ็นเตอร์อยู่ต่างประเทศแต่ยูทูปเบอร์อยู่เมืองไทย เตรียมเงินมาคืนให้ดี เพราะตอนนี้ไม่รู้ว่ากี่ราย เอาคืนจากยูทูปเบอร์ รายนี้ เพราะอยู่เมืองไทย คอลเซ็นเตอร์อยู่ต่างประเทศมันยาก และบัญชีม้าก็ต้องดำเนินคดีให้หมด

 

 

 

 

จึงอยากฝากว่าหากจะไปกู้เงินไม่มีธนาคารหรือสถาบันการเงินไหนในประเทศไทยที่ให้เอาเงินไปค้ำประกันเงินตัวเอง ถ้าเจออย่าไปกู้ อันนี้ขอกู้แค่ 400,000 บาท แต่เสียไป 1.8 ล้านบาท นับว่าเสียหาย โดยเฉพาะเป็นคนปล่อยกู้แต่มาโดนซะเอง

 

 

สุรสิทธิ์ สินประเสริฐ   จ.นนทบุรี