ผกก.สภ.วัฒนานคร สั่งเฝ้า 24 ชม. "พันเอกกัมพูชา" คลั่งฝ่าด่านเข้าไทย เจ้าตัวยังโวยวายไม่ให้ความร่วมมือ พร้อมแจ้ง 6 ข้อหาหนัก
7 พ.ย.2565 จากกรณี พันเอก ซก บันพอ นายทหารกัมพูชา อายุ 33 ปี ขับรถยนต์ จี๊ป ทะเบียน ประเทศกัมพูชา ฝ่าด่านตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดสระแก้ว จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เข้ามาในราชอาณาจักรไทย เมื่อช่วงค่ำวันที่ 5 พ.ย. 2565 ที่ผ่านมา โดยไม่ผ่านการตรวจอนุญาตจากเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมือง และต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของเจ้าพนักงานตำรวจที่ด่านตรวจความมั่นคง อ.เมืองสระแก้ว โดยมีอาวุธปืน
ต่อมา เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. วานนี้ (6 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันบุกเข้าชาร์จจับกุมตัว พันเอก ซก บันพอ ได้พร้อมอาวุธปืนพกสั้น แบบออโตเมติก ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ ซีแซด รุ่น พี-07 และกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 17 นัด หลังปิดล้อมนานกว่า 17 ชั่วโมง และตรวจยึดของกลางรถยนต์ ยี่ห้อ จี๊ป สีดำ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.วัฒนานคร ดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นทราบเพียงว่า พันเอก ซก บันพอ เกิดจากความเครียดจากปัญหาส่วนตัว ทะเลาะกับภรรยาที่ประเทศกัมพูชา
หลังควบคุมตัว พันเอก ซก บันพอ ได้แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัว ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลวัฒนานคร ก่อนคุมตัวมาคุมขังไว้ที่ห้องควบคุมผู้ต้องหาของ สภ.วัฒนานคร ในช่วงเวลาประมาณ 18.00 น.เศษ โดยมี พ.ต.อ.สาธิต มิตรรัก ผู้กำกับการ สภ.วัฒนานคร เข้าควบคุมอย่างใกล้ชิด ซึ่งต้องใช้เจ้าหน้าที่เกือบ 10 นาย ในการพาตัวเข้าไปห้องขัง เพราะตัว พันเอก ซก บันพอ โวยวายและร้องตลอดเวลา พยายามจะงัดและดึงประตูห้องขังไว้
โดยเบื้องต้นพันเอก ซก พันบอ ไม่ยินยอมให้การหรือพูดคุยกับพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด และดูภาพความเคลื่อนไหวของผู้ต้องหาตลอด 24 ชม. หากต้องนำตัวมาสอบสวนต้องใช้เจ้าหน้าที่อย่างน้อย 4 นาย สำหรับการดำเนินคดี ทางผู้บังคับบัญชาให้ประสานกับทางการกัมพูชา ซึ่งได้รับการตอบกลับจากทางกัมพูชาว่า ให้ดำเนินคดีฝั่งไทยตามกฎหมายให้เรียบร้อยก่อน จึงส่งกลับประเทศกัมพูชา
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.สาธิต ผู้กำกับการ สภ.วัฒนานคร เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนยังคงตั้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหารายนี้ 6 ข้อหา ตามที่ผู้บังคับบัญชาได้แถลงไป ประกอบด้วย
1.ฐานหลบหนีเข้าเมืองตาม พรบ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ฐานเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง เขตท่าสถานี หรือท้องที่ที่กำหนด
2.ต่อสู้ หรือขัดขวางเข้าพนักงานซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยมีอาวุธ ตาม ป.อาญา ม.138 , 140 วรรคท้าย
3.ขับรถในทางโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียวอันอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน พรบ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ม.43(2),(4),
4.ทำให้เสียทรัพย์ตาม ป.อาญา ม.358
5.มี,ทำ,สั่งนำเข้าซึ่งอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ม.7,8,8ทวิ,72วรรคแรก,72 ทวิวรรคสอง, ป.อาญา 371
6. ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว ม.392
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ด่านความมั่นคง จ.สระแก้ว ซึ่งตั้งขึ้นตามคำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อรองรับการประชุมผู้นำเอเปคและเทศกาลลอยกระทง ยังคงตั้งด่านตรวจค้นรถที่สัญจรผ่านจังหวัดสระแก้วเป็นปกติ
ส่วนด่านผ่านแดนถาวรระหว่างไทย-กัมพูชา ที่บริเวณด่านผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว และด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ยังเปิดด่านให้คนไทย กัมพูชา และนักท่องเที่ยว สามารถผ่านข้ามแดนได้ปกติเช่นกัน ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับประเทศเพื่อนบ้านแต่อย่างใด
ธนภัท กิจจาโกศล จ.สระแก้ว
คมชัดลึก ยังมีเนื้อหาสาระอื่นๆ ดูเพิ่มเติมได้ที่
Website - www.komchadluek.net
LineToday - https://today.line.me/th/v2/publisher/100057
ข่าวที่เกี่ยวข้อง