ชาวบ้านท่าอุทัย แจงไม่เคยไล่ "แม่ผู้ก่อเหตุ "กราดยิงออกจากหมู่บ้าน

10 ต.ค. 2565  จากรณีที่แม่ของผู้ก่อเหตุ กราดยิงหนองบัวลำภูได้ออกมาเปิดเผยว่า หลังจากนี้หากกลับไปอาศัยอยู่บ้านแล้วมีการขับไล่ไม่ให้อยู่ก็คงไม่มีที่ไปอาศัย ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบชาวบ้านมีการจับกลุ่มคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ไม่เคยมีใครไปขับไล่แม่ของผู้ก่อเหตุ เพราะตั้งแต่เกิดเหตุชาวบ้านยังไม่มีใครพบเห็นหน้าของแม่ และยังไม่ได้มีการพูดคุยกันด้วยซ้ำ

 

อีกทั้งยืนยันว่าไม่มีการไปพูดขับไล่ไม่ให้อยู่ในหมู่บ้านแน่นอน เพราะชาวบ้านก็รู้จักแยกแยะเป็นเรื่องส่วนบุคคล ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านเกิดความเสียหายเป็นกระแสตีกลับ ชาวเน็ตมาต่อว่าชาวบ้านไร้น้ำใจ 

 

 

 

 

 

 

 

โดยชาวบ้านท่าอุทัย รายหนึ่งเปิดเผยว่า ที่แม่ของผู้ก่อเหตุพูดออกไปว่า ชาวบ้านไล่ออกจากหมู่บ้านอาจจะเกิดจากความเครียดกลัวว่าชาวบ้านจะเกลียดและโกรธ ซึ่งชาวบ้านไม่มีใครเคยพูดแบบนั้น ต่างคนต่างก็กำลังยุ่งกับการจัดงานภายในวัด อีกทั้งตั้งแต่เกิดเรื่องยังไม่เคยเห็นหน้าผู้ก่อเหตุ ชาวบ้านที่นี่ก็มีมนุษยธรรมที่รู้จักแยกแยะบุคคลเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเร่องส่วนบุคคลไม่เกี่ยวกับแม่
 

 

ขณะที่ชาวบ้านอีกราย  มองว่า หากแม่ผู้ก่อเหตุพูดแบบนั้นจริง ก็เป็นการสร้างความแตกแยก และสร้างความเสียหายให้กับหมู่บ้านเป็นอย่างมาก เพราะชาวบ้านต่างเห็นใจแม่ผู้ก่อเหตุไม่เคยไล่ออกจากหมู่บ้านแน่นอน ขณะนี้กระแสโซเชียลกลังตีกลับมาที่ชาวบ้านว่าไม่มีมนุษยธรรม ทำให้เสียหายมาก

 

 

 

 

 

ด้านผู้ใหญ่บ้าน ยืนยันว่า ในฐานะผู้นำชุมชน ไม่เคยมีการพูดคุยหรือไล่แม่ผู้ก่อเหตุ หลังจากนี้จะต้องมีการประชุมชาวบ้านถึงแนวทางต่อไป ช่วงนี้ยังไม่มีการประชุมเพราะต่างคนต่างยุ่งอยู่กับการเเตรียมงานศพที่วัดศรีอุทัย ซึ่งจะมีพิธีฌาปนกิจในวันพรุ่งนี้

 

 

 

 

 

 

 

ทั้งนี้ ที่บริเวณด้านข้างเมรุเผาศพของทางวัด  บริษัทสยามเอ็นจิเนียริ่งแอนเทคโนโลยี จำกัด นำโดยนายณรงค์  ใช้บางยาง  กรรมมการผู้จัดการ  ได้นำเอาเตาเผาไฟฟ้าปลอดมลพิษ มาติดตั้งเพื่อที่จะใช้เป็นที่เผาศพที่อยู่ภายในวัดนี้ทั้งหมดจำนวน 9 ศพ ส่วนอีก 2 ศพ ญาติพี่น้องจะนำไปทำการฌาปนกิจเองที่บ้านของตัวเองในพื้นที่ตำบลนาคำไฮอำเภอเมืองหนองบัวลำภู 

 

 

 

นายณรงค์   เปิดเผยว่า วันนี้ได้มีการเตรียมอุปกรณ์ถาดรองรับอัฐิของผู้เสียชีวิตที่จะใช้ทำการฌาปนกิจให้เพียงพอสามารถใช้ทำการฌาปนกิจของผู้เสียชีวิตทั้งหมดได้ครบทั้งหมด ซึ่งเตาเผาที่ใช้นี้จะใช้ไฟประมาณ 220 โวลต์ขนาด 30 เอ็มแปร์ ซึ่งทางนายอำเภอนากลาง ได้ประสานกับทางการไฟฟ้าไว้ให้แล้ว

 

 

 

 

ในการเผาจะใช้เวลาการเผาแต่ละศพ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง  สามารถทำการฌาปนกิจ ให้เสร็จได้ภายในวันเดียว  ซึ่งทีมงานของบริษัทได้เดินทางมาตั้งแต่เมื่อคืนนี้ และเมื่อเช้าที่ผ่านมากำลังติดตั้งด้วยทีมงานประมาณ 20 คนและการมาช่วยงานครั้งนี้เป็นการมาช่วยด้วยการทำบุญกุศลด้วยกันไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น และหลังจากที่ทำการติดตั้งเตาเผาไฟฟ้าเสร็จแล้วทางทีมงานทั้งหมดก็จะไปทำ เตาเผาชั่วคราวที่วัดเทพมงคลพิชัยบ้านหนองด่าน จากนั้นก็จะไปทำเตาเผาชั่วคราวที่บริเวณลานวัดราษฎร์สามัคคีบ้านหนองกรุงศรีต่อไป

 

ส่วนที่วัดราษฎร์สามัคคี  บ้านหนองกุงศรี ได้มีการนำหินคลุกมาเทปรับพื้นที่ เพื่อที่จะเตรียมเป็นสถานที่ฌปานกิจศพทั้งหมด 19 ศพ ภายในวัดแห่งนี้ โดยได้มีชาวบ้านร่วมกับเจ้าหน้าที่ คำนวณแบ่งพื้นที่ ให้เพียงพอต่อการนำศพมาวางเผา ต่อมาได้มี ชาวบ้านผู้เฒ่าผู้แก่และผู้นำหมู่บ้านทีมีความรู้เรื่องการทำพิธีฌปานกิจศพตามแบบความเชื่อของชาวอีสาน นั้น ได้ทำการจุดธูปบอกกล่าว ขอธรณี ในการที่จะทำการเผาศพในพื้นที่ดินบริเวณดังกล่าว

 

ตามปกติแล้ว การจะนำศพไปเผาบริเวณใดในป่าช้านั้น คนภาคอีสาน จะใช้การโยนไข่ ตามป่าช้า หากคนเสียชีวิตต้องการที่จะอยู่ตรงไหนไข่จะแตก หากโยนไข่ไปแล้ว ไม่แตก ก็จะต้องโยนหาจนกว่าจะได้ที่ แต่สำหรับในครั้งนี้ พื้นที่การเผาจะต้องทำในวัด ไม่มีที่โยน จึงได้ใช้วิธีการจุดธูปบอกกล่าวธรณี  ตามพื้นที่ บริเวณที่กำหนดจะเป็นเชิงตะกอนสำหรับการเผาศพ 

 

 

ติดตามข่าวสาร คมชัดลึก อื่นๆ ได้ที่
Facebook - https://www.facebook.com/komchadluek
LineToday - https://today.line.me/th/v2/publisher/100057