ผู้การฯ จ.ราชบุรี จ่อหมายเรียก "ส.ต.ท.หญิง" ทำร้ายร่างกายอดีต "ทหารรับใช้" หลังสอบผู้เสียหาย มั่นใจผู้ถูกกล่าวหา ยังอยู่ในพืันที่ และจะมาพบตามหมายเรียก ขณะบ้านพักปิดเงียบหลายวันแล้ว
19 ส.ค.2565 พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีที่ อดีตทหารหญิง ผู้เสียหาย ซึ่งเคยเป็นทหารรับใช้ ถูกนายจ้าง เป็นตำรวจ ยศ ส.ต.ท. สังกัดตำรวจสันติบาล และยังอ้างตัวว่าเป็นภรรยา สว. ทำร้ายร่างกาย เป็นเวลานานกว่า 2 ปี โดยได้เข้าขอความช่วยเหลือ จาก "กัน จอมพลัง" และเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ ส.ต.ท.หญิง คนดังกล่าว ว่า
ในส่วนของการการดำเนินคดีในเบื้องต้น กรณีการทำร้ายร่างกาย ยังต้องรอผลการตรวจทางแพทย์ก่อนว่าเป็นการทำร้ายร่างกายสาหัสหรือไม่ และจากการสอบปากคำ มีการสอบปากคำฝั่งผู้เสียหายไปทั้งหมด 4 ปากแล้ว คือตัวของผู้เสียหาย พ่อ แม่ และน้าของผู้เสียหาย แต่เนื่องจากมีประเด็นที่ต้องสอบปากคำผู้เสียหายโดยละเอียดมาก เพื่อนำมาพิจารณาองค์ประกอบความผิด จึงต้องนัดหมายมาสอบปากคำอีกครั้งในช่วงเย็นวันนี้ ขณะที่ ช่วงเช้าได้เชิญทีมสหวิชาชีพ มาหารือเพื่อกำหนดแนวทางในการซักถามเพื่อเสียหายเพิ่มเติมแล้ว และเมื่อสอบปากคำแล้วจะนำมาคัดกรองผู้เสียหายอีกครั้งว่าเป็นเหยื่ออย่างไร
ทั้งนี้ จากการสอบปากคำเบื้องต้น พบว่า เข้าข่ายความผิดเรื่องการทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ แต่ยังต้องรอความเห็นแพทย์ ถ้าแพทย์ลงความเห็นว่า ทำร้ายร่างกายสาหัส ก็จะต้องแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม รวมถึงจะต้องพิจารณาว่านอกจากความผิดทางอาญาแล้ว จะเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.การค้ามนุษย์ ด้วยหรือไม่
ส่วนการไปตรวจค้นบ้านพักของผู้ถูกกล่าวหา นั้น จะต้องสอบปากคำผู้เสียหายเพิ่มเติมก่อน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงทั้งหมดและพิจารณาข้อกล่าวหาก่อน
ส่วนกระแสข่าวที่ว่า ผู้ถูกกล่าวหาคือ ส.ต.ท.หญิง มีการติดต่อเข้ามาเพื่อพบตำรวจนั้น เบื้องต้น ยังไม่มีการติดต่อเข้ามาทุกช่องทาง หรือติดต่อขอเข้ามาพบ ทั้งนี้ ทราบแล้วว่า ผู้ก่อเหตุ ทำงานที่ไหนอย่างไร แต่ต้องรอกระบวนการสอบสวนเสร็จสิ้นก่อน
พล.ต.ต.ปิติ ยืนยันว่า ในส่วนของการดำเนินคดีตรงไปตรงมา ไม่ได้มองว่าผู้ถูกกล่าวหาเป็นตำรวจ หากเป็นตำรวจ ก็จะมีความผิดตามวินัยตำรวจ ซึ่งจะมีโทษหนักขึ้นกว่าคนปกติอีกชั้น และตำรวจไม่ได้กังวลว่า ผู้ถูกกล่าวหาจะหลบหนี แต่รอแค่กระบวนการสอบปากคำผู้เสียหายแล้วเสร็จเท่านั้น โดยเมื่อสอบปากคำเสร็จสิ้นแล้ว จะสามารถออกหมายเรียกได้ทันที
และ เชื่อว่าเมื่อมีหมายเรียก ผู้ถูกกล่าวหาจะเข้ามามอบตัวเพื่อต่อสู้คดีตามข้อเท็จจริง และมั่นใจเช่นกันว่าเมื่อมีหมายเรียก ตำรวจจะสามารถติดต่อประสานกับ ผู้ถูกกล่าวหาได้แน่นอน เพราะผู้ถูกกล่าวหา อาศัยอยู่ในจังหวัดราชบุรี ก็มีความคุ้นเคยกับตำรวจบางนายอยู่บ้าง จึงเชื่อว่า ผู้ถูกกล่าวหาพร้อมที่จะเข้าพบพนักงานสอบสวน โดยจะเข้ามาพบก่อนมีหมายเรียกหรือหลังมีหมายเรียกเท่านั้น ทั้งนี้ ยังสามารถติดต่อกับผู้ก่อเหตุได้และเชื่อว่ายังอยู่ในจังหวัดราชบุรี
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สังเกตการณ์ บริเวณบ้านพัก ในตำบลโคกหม้อ อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งทราบว่า เป็นบ้านพักของ ส.ต.ท.หญิง รายดังกล่าว ลักษณะเป็นอาคาร 2 ชั้น มีประตูเหล็กทึบปิดไว้ ไม่พบว่ามีใครอยู่ภายในบ้าน จากการสอบถามคนข้างบ้าน ให้ข้อมูลว่า บ้านหลังดังกล่าวปิดเงียบมาหลายวันแล้ว และเพิ่งเห็นข่าว จึงทำให้รู้ว่า มีเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายกันขึ้น เพราะปกติจะเจอแต่น้องผู้หญิงที่เป็นทหารมาซื้อของที่ร้าน แต่ก็แต่งตัวมาอย่างมิดชิด จึงไม่เห็นร่องรอยอะไร และน้องก็ไม่เคยมาเล่าอะไรให้ฟัง
ติดตาม คมชัดลึก คลิก
Instagram: https://www.instagram.com/komchadluek_online/
Line: https://lin.ee/qw9UHd2
เช็กรายชื่อศิลปินเข้าชิง "คมชัดลึก ลูกทุ่ง Awards 2565" ใครคือ 6 Candidate กับ 8 สาขา Popular Vote ได้ที่นี่
( https://awards.komchadluek.net/# )
ข่าวที่เกี่ยวข้อง