รถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกกะลาปาล์มเต็มคันเบรกแตกเทกระจาดกลาง 4 แยกตลาดแม่กลอง เฉียดป้อมจราจรแค่นิดเดียว มีรถจักรยานยนต์เสียหาย 6 คัน
เหตุเกิดเมื่อตอนบ่ายวันนี้ เวลา 15.30 น. วันที่ 6 เม.ย. 2564 ภาพวงจรปิดบันทึกภาพขณะรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ บรรทุกกะลาปาล์มเต็มคัน วิ่งมาบนถนนทางเข้าเมืองสมุทรสงคราม ถึงที่เกิดเหตุเป็น 4 แยกใจกลางตลาดแม่กลอง เขตเทศบาลเมืองสมุทรสงครามซึ่งเป็นย่านชุมชน และยังมีป้อมตำรวจ จราจร สภ.เมืองสมุทรสงครามอยู่ริมถนนบริเวณ 4 แยก รถที่วิ่งมาด้วยความเร็วได้เสียหลักเสียหลักเทกระจาดกลาง 4 แยก และพุ่งเข้าไปเฉียดป้อมตำรวจจราจรที่ภายใน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนั่งพักร้อนคุยกันอยู่ 4-5 นาย ต่างโดดหนีออกจากป้อมด้วยความตกใจ
หลังเกิดเหตุ ร.ต.อ.นิภัทร กอสกุล พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงคราม เข้าตรวจสอบพบรถบรรทุกคันดังกล่าว หัวลากทะเบียน 89-5054 นครปฐม สภาพเทกระจาดกะลาปาล์มเกลื่อนพื้นถนน โดยมีรถจักรยานยนต์เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียหาย 4 คัน และรถจักรยานยนต์ประชาชนเสียหายอีก 2 คัน ส่วนลูกพ่วง ทะเบียน 89-5055 นครปฐม จอดอยู่ปกติ ส่วนคนขับ นายศรายุทธ กล้าหาญ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่ 10 ตำบลห้วยหมอนทอง อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม บาดเจ็บจุกแน่นที่หน้าอก เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม รีบนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าสมุทรสงคราม
เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งเล่าว่า ขณะที่กำลังนั่งรอปฏิบัติหน้าที่อยู่ในป้อมจราจร ได้ยินเสียงดังผิดสังเกต เมื่อหันมาดูฏ้พบรถพ่วง 18 ล้อ พุ่งมาเกือบชนป้อมจราจรที่พวกคนนั่งกันอยู่หลายคน พร้อมกล่าวว่า ถ้าพุ่งมาถึงป้อมทุกคนก็คงหนีกันไม่ทันแน่
ขณะที่ คนขับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่ง บอกว่า ขณะกำลังรอผู้โดยสาร เห็นรถพ่วงคันดังกล่าวขับตรงเข้ามาด้วยความเร็วเป็นช่วงลงสะพานและเป็นทางโค้งขวา หัวลากเริ่มเอียงๆ และพลิกตะแคงเทกระจาด ซึ่งจากการพูดคุยกับคนขับบอกว่ารถเบรคไม่อยู่
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายศรายุทธ ขับรถพ่วง 18 ล้อ ขนกะลาปาล์มเต็มคัน จากท่าเรือไฟซันด์ ในตำบลบางจะเกร็ง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม จะไปส่งลูกค้าที่จังหวัดนครปฐม ขณะขับด้วยความเร็วถึงที่เกิดเหตุสันนิษฐานว่าเบรคแตกจึงไม่สามารถควบคุมรถได้ ทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว โชคดีที่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ทั้งที่บริเวณดังกล่าวอยู่ในตลาดแม่กลองซึ่งเป็นย่านชุมชน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
นพพร บุญทนาวงศ์ ผู้สื่อข่าว จ. สมุทรสงคราม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง