เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับผู้ที่ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวอย่างเฉียบขาดไม่เว้นทุกกรณี ตัวอย่างหนุ่มฝ่าฝืนคำสั่งเคอร์ฟิวขับรถจักรยานยนต์จากอ.รัตภูมิไปยังอ.หาดใหญ่ ถูกเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายปกครองและตำรวจจับกุมทำทีไม่พอใจ สุดท้ายถึงกับร้องไห้โฮและทรุดตัวก้มลงกราบอ้อนวอนไม่ให้
ที่จ.สงขลา ทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจได้คุมเข้มพื้นที่ในช่วงเวลาเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา4ทุ่มจนถึงตี4 โดยไม่ละเว้นทุกกรณี และทางผู้ว่าราชการจ.สงขลาได้มีคำสั่งให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดทุกกรณี โดยมีตัวอย่างของชายคนหนึ่งอายุ35 ปี ซึ่งขับรถจักรยานยนต์ออกมาในช่วงเวลาเคอร์ฟิวประมาณ5 ทุ่มครึ่งจากอ.รัตภูมิไปยังอ.หาดใหญ่ และถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอหาดใหญ่ ตำรวจสภ.ทุ่งตำเสา พร้อมกำลังอส. ชุดปฏิบัติการขุนพิทักษ์ตำบลฉลุง และทสปช. ซึ่งตั้งจุดตรวจอยู่บนถนนเพชรเกษมหาดใหญ่-รัตภูมิสายเก่า บริเวณปากทางเข้าหมู่บ้านฉลุง เรียกตรวจค้นเพราะฝ่าฝืนเคอร์ฟิว
โดยทีแรกชายคนนี้มีท่าทีขึงขังเหมือนกับไม่พอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่และเมื่อสอบถามก็ไม่มีเหตุจำเป็นอะไรที่ถึงขั้นจะต้องเดินทาง แต่สุดท้ายก็ถึงกับร้องไห้โฮและทรุดตัวก้มลงกราบอ้อนวอนเจ้าหน้าที่ขอให้ปล่อยตัวเพราะไม่อยากถูกจับ แต่แม้ว่าจะกราบขอโทษแต่เจ้าหน้าที่ก็จำเป็นต้องควบคุมตัวส่งสภ.ทุ่งตำเสา
ดำเนินคดีตามกฎหมายโดยไม่ละเว้นเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับคนอื่นและไม่ส่งผลต่อการควบคุมโรคโควิด19 ที่กำลังระบาดหนักอยู่ในขณะนี้ และถูกแจ้งข้อหากระทำผิดฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ห้ามออกนอกเคหสถานโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน มีโทษจำคุกไม่เกิน2 ปี ปรับไม่เกิน4 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
นภาลัย ชูศรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สงขลา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง