ชาวบ้านผวาผีน้อย หลังมีข่าวใช้พื้นที่ รพ.ป่าโมกเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยง
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 7 มีนาคม 2563 ที่โรงพยาบาลป่าโมก อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ชาวบ้านในพื้นอำเภอป่าโมก จำนวนกว่า 100 คน เดินทางมารวมตัวที่หน้าโรงพยาบาลป่าโมก เพื่อถามหาความจริงหลังมีข่าวลือว่าจะมีการนำตัวผีน้อยที่กลับจาก 2 เมืองดัง ในประเทศเกาหลีใต้ มารวมตัวเพื่อเฝ้าระวังกักกันโรคในพื้นที่อำเภอป่าโมก และใช้โรงพยาบาลป่าโมก เป็นที่รักษาผู้ที่ป่วย โควิด - 19 ซึ่งชาวบ้านจำนวนมากรู้สึกหวาดผวา กลัวว่าจะติดเชื้อโรคเดินทางมาถามความจริง ว่าจะทำให้ชาวหวาดวิตกกังวลกลัวอันตราย จึงได้เดินทางมาถามหาความจริงจากผู้เกี่ยวข้อง โดยมี พ.ต.อ.เสวก เอี่ยมมงคล ผกก.สภ.ป่าโมก นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคอยควบคุมดูแล และร่วมชี้แจ้งความจริงร่วมกับทางเจ้าหน้าที่พยาบาลโรงพยาบาลป่าโมก
ด้าน นาย พรเทพ บุญประดับ อายุ 42 ปี ประธานชุมชนตำบลป่าโมก เล่าให้ฟังว่า ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับทราบข่าวมาว่า จะมีการใช้พื้นที่ในอำเภอป่าโมก เฝ้าระวังผีน้อย และใช้โรงพยาบาลป่าโมก ทำการรักษาไวรัส โควิด - 19 แล้วเกิดวิตกกังวล จึงรวมตัวมาถามหาความจริงที่โรงพยาบาลป่าโมก และชาวบ้านไม่ยอมให้พื้นที่ในอำเภอป่าโมก เป็นสถานรับเฝ้าระวังผีน้อยที่กลับมาจากประเทศเกาหลีใต้อย่างเด็ดขาด ส่วนทางด้าน นาง สมคิด คล้ายสิทธิ อายุ 72 ปี ประธานชุมชนย่อย 10 ที่แสดงความชัดเจน ไม่ต้องการให้พื้นที่ในตำบลป่าโมก เป็นสถานที่เฝ้าระวังผีน้อยที่กลับจากประเทศเกาหลีใต้
เบื้องต้นชาวบ้านได้เรียกร้องให้ทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลป่าโมก และผู้ว่าราชการจังหวัด ออกมาชี้แจงความจริง แต่เนื่องด้วยติดงานราชการ ทาง นางสาวนวพร จิรังกร เจ้าหน้าที่พยาบาลโรงพยาบาลป่าโมก จึงได้ออกมาชี้แจ้งให้ชาวบ้านได้ทราบเบื้องต้นว่า ทางพื้นที่ในตำบลป่าโมก และโรงพยาบาลป่าโมก ไม่ได้รับผีน้อยที่กลับจาก 2 เมืองดังเกาหลีใต้ อย่างแน่นนอน ซึ่งทางรัฐบาลได้ใช้พื้นที่ของทางหน่วยทหารเป็นที่ใช้เฝ้าระวัง ส่วนผีน้อยที่เดินทางกลับจากประเทศเกาหลีใต้จากเมืองอื่นนั้น ที่มีการเฝ้าระวังเบื้องต้นจากประเทศเกาหลีใต้มาแล้ว 14 วัน หากเดินทางกลับมาสู่ภูมิเลาเนาก็ต้องทำการเฝ้าระวังอีก 14 วัน และหากมีผู้ป่วยในพื้นที่เกิดติดเชื้อไวรัสขึ้นก็ต้องดูแลไม่สามารถปฏิเสธการรักษาได้ โดยจะมีการประชุมจากผู้บริหารและทางผู้ว่าราชการจังหวัดอีกครั้ง ในวันจันทร์ และพร้อมชี้แจงให้ชาวบ้านทราบอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งชาวบ้านพอใจแยกย้ายกันเดินทางกลับบ้านไป
ภาพ/ข่าว : ศุภเสกข์ แสงตระการ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.อ่างทอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง