ปะทะเดือด "เขาตะเว" วิสามัญบีอาร์เอ็น 5 ศพ! ปูพรมล่า-ตั้งด่านสกัด
จนท.ปะทะเดือดคนร้ายดับ 5 ศพ หลังเปิดยุทธการกดดันบนเขาตะเว นราธิวาส ยึดอาวุธปืนสงคราม กระสุนและอุปกรณ์ยังชีพจำนวนหนึ่ง แม่ทัพภาค 4 สั่งไล่ล่า-ตั้งด่านสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มผู้ก่อเหตุหลบหนีลงมาจากเทือกเขา
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ปะทุขึ้นอีกครั้ง เมื่อเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมนราธิวาสได้สนธิกำลังร่วม 3 ฝ่ายเข้าบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มคนร้ายและเกิดการปะทะกันขึ้นบริเวณเขาตะเว บ้านไอสะเตียร์ หมู่ 8 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เบื้องต้นพบผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต บางส่วนหลบหนีไปได้ พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนสงครามและอุปกรณ์ส่วนหนึ่งได้
ร.ต.อ.กอบเกียรติ มณีโชติ ร้อยเวร สภ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งจาก ฉก.พท.48 อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 10.15 น. ว่า มีเหตุปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารพราน กับแนวร่วมขบวนการแบ่งแยกดินแดน บีอาร์เอ็น โดยฝ่ายตรงข้ามเสียชีวิตจำนวน 5 ศพ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.เจาะไอร้อง และกำลังเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และชุดเก็บกู้ระเบิด นำกำลังเข้าไปยังที่เกิดเหตุ
เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ไปถึงเชิงเขา ไม่สามารถเข้าไปยังที่เกิดเหตุได้ เนื่องจากกำลังจาก ฉก.ทพ.48 ยังคงปิดล้อมเทือกเขา และยังอยู่ระหว่างปฏิบัติการไล่ล่า ปิดล้อม พื้นที่เทือกเขาตะเวทั้งหมด และมีการส่งเฮลิคอปเตอร์ติดกันชิพบินร่วมปฏิบติการกับกองกำลังภาคพื้น เพื่อติดตามแนวร่วมที่ยังคงหลบหนีในพื้นที่
รายงานข่าวแจ้งว่า ปฏิบัติการดังกล่าว พ.อ.ทรงเดช สุกนุ้ย ผบ.นปพ.ร่วมนราธิวาส ได้สนธิกำลัง 5 ชุดปฏิบัติการขึ้นพิสูจน์ทราบแหล่งหลบซ่อนตัวและแหล่งพักพิงของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงบนเทือกเขาตะเว ช่วงบริเวณบ้านไอสะเตียร์ โดยเปิดยุทธการส่งกำลังกดดันไล่ล่ากลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงตั้งแต่ในช่วงคืนที่ผ่านมา
จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบบุคคลต้องสงสัย จำนวน 7-8 คน กระจายกำลังอยู่บนเทือกเขา เจ้าหน้าที่จึงได้จัดกำลังซุ่มเฝ้าสังเกตการณ์ฝ่ายตรงข้าม เมื่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเห็นเจ้าหน้าที่ จึงได้ส่งสัญญาณและใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ เปิดฉากยิงปะทะกันเป็นระลอกๆ นานกว่า 20 นาที
ข่าวแจ้งว่า หลังสิ้นเสียงปืนเจ้าหน้าที่จึงได้เคลียร์พื้นที่ พบกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต 5 คน พร้อมทั้งได้ตรวจยึดอาวุธปืนได้จำนวน 6 กระบอก แยกเป็น อาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 5 กระบอก และอาวุธปืนเอชเค 33 จำนวน 1 กระบอก พร้อมด้วยกระสุนปืนและอุปกรณ์ยังชีพในป่าจำนวนหนึ่ง
โดยกำลังเจ้าหน้าที่อีกส่วนหนึ่งได้ติดตามไล่ล่ากลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่สามารถอาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไปได้ พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าเคลียร์พื้นที่จุดเกิดเหตุ และตรวจสอบกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เสียชีวิตทั้ง 5 คน ว่าเป็นบุคคลใดบ้าง และมีประวัติในทำเนียบแฟ้มบุคคลที่ก่อเหตุความมั่นคงพื้นที่ใดบ้าง
ด้าน พล.ต.สมดุลย์ เอี่ยมเอก ผบ.ฉก.นราธิวาส กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.รมน.ภาค 4 สั่งการให้กำลังทหารพรานจาก ฉก.พท.45, 48 และ 49 สนธิกำลังเข้าปฏิบัติการในเทือกเขาตะเว ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เนื่องจากสายข่าวแจ้งว่า มีกำลังของขบวนการบีอาร์เอ็นเคลื่อนไหวอยู่บนเทือกเขาตะเว จึงส่งกำลังเข้าปิดล้อม
จนเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 กุมภาพันธ์ กำลังส่วนหน้าซึ่งลาดตระเวนถึงเทือกเขาบ้านไอสะเตียร์ หมู่ 8 ถูก แนวร่วมขบวนการบีอาร์เอ็นเปิดฉากยิงใส่ก่อนที่จะแยกย้ายกันหลบหนี โดยเจ้าหน้าที่ทั้ง ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้สนธิกำลังไล่ล่าปิดล้อมเพื่อ ติดตามคนร้าย
รายงานข่าวแจ้งว่า กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ประกาศมิให้ชาวบ้านในพื้นที่เข้าไปในเทือกเขาตะเว และเทือกเขานางจันทร์ เพื่อหาของป่า ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยมีการส่งกำลังทหารพรานเข้าลาดตระเวนเพื่อค้นหาแนวร่วมขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น
จนในที่สุดปฏิบัติการครั้งนี้ประสบความสำเร็จ สามารถพบกลุ่มแนวร่วมประมาณ 8 คน ที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ และเปิดฉากยิงปะทะจนฝ่ายบีอาร์เอ็นเสียชีวิต 5 ศพ ยึดอาวุธปืนได้ 6 กระบอก และ พล.ท.พรศักดิ์ได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุด้วยตนเอง
ขณะที่ พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรในแต่ละโรงพักที่มีเขตพื้นที่รอยต่อกับ อ.เจาะไอร้อง ตั้งจุดตรวจจุดสกัด เพื่อตรวจสอบกลุ่มบุคคลที่ขับขี่ยานพาหนะทุกชนิดผ่านไปมา เป็นการสกัดกั้นไม่ให้สมาชิกของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงแอบนำยานพาหนะมารับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่หลบหนีลงจากเทือกเขา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง