ข่าว

ลูกไล่แม่ออกจากบ้าน อบต.เผยสุดเศร้า ต้องพึ่งศาลช่วยเท่านั้น

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คืบหน้า ลูกชายไล่แม่ออกจากบ้าน หวังสมบัติพ่อที่เสียชีวิต ด้าน สมาชิก อบต รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ หลังพี่น้องทะเลาะกัน ต้องพึ่งศาล ว่าใครจะเป็นผู้จัดการมรดก

 

 

            กรณีนางปุ่น สีสุพันธ์ อายุ 75 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 1 บ้านหัวบึง หมู่ 1 ตำบลบึงพะไล อำเภอแก้งสนามนาง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านไม้เก่าสองชั้น โดยหน้าบ้านได้มีการเขียนข้อความติดฝาผนังบ้านว่า เรียนนายอำเภอศูนย์ดำรงธรรม อำเภอแก้งสนามนาง ที่เคารพดิฉันนางปุ่น สีสุพันธ์ เดือดร้อนมาก ลูกไล่ออกจากบ้าน ลูก 2 คนบอกแม่ปุ่นว่า สมบัติของพ่อเขาไม่ให้ซักอย่าง น่าสงสารแม่ปุ่นนะครับ จึงสร้างความหดหู่ให้กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก

ลูกไล่แม่ออกจากบ้าน อบต.เผยสุดเศร้า ต้องพึ่งศาลช่วยเท่านั้น

ลูกไล่แม่ออกจากบ้าน อบต.เผยสุดเศร้า ต้องพึ่งศาลช่วยเท่านั้น

นายทองคำ จันคำ อายุ 55 ปี สมาชิก อบต.บึงพะไร เปิดเผยว่า  หลังเกิดเหตุการณ์ลูกชายและแม่เฒ่า มีปัญหาเรื่องทรัพย์สินหลายรายการของพ่อที่เสียชีวิตไป เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2554 ด้วยโรคมะเร็งตับ ทำให้ชาวบ้านมีการวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนานา ซึ่งไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอีก และอยากให้พูดคุยแต่เท่าที่ทราบ ไม่สามารถพูดคุยกันได้ จนต้องมีการแจ้งความกันเกิดขึ้น และเกิดปัญหาบานปลายหลายอย่าง อีกทั้ง ลูกชายคนโตก็พยายามจะเข้าไปซ่อมแซมบ้านพักเพื่อให้แม่อาศัยอยู่ แต่ก็ถูกลูกอีกคนห้ามสร้าง จึงทำให้มีการทะเลาะกับช่าง และมีการข่มขู่ ห้ามซ่อมแซมเด็ดขาด โดยอ้างว่าเป็นสมบัติของตนเอง ส่วนนิสัยของน้องชาย ที่ยึดสมบัติพ่อ ก็เป็นคนปกติ ไม่ใช้เป็นคนหาเรื่องใคร แต่ก็ไม่ทราบเหตุผลลึกๆว่ามีปัญหาเพราะอะไรกันแน่ หลังจากนี้ต้องพึ่งศาล ในการตัดสิน ว่าใครจะเป็นผู้จัดการมรดก

ลูกไล่แม่ออกจากบ้าน อบต.เผยสุดเศร้า ต้องพึ่งศาลช่วยเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวพยายามสัมภาษณ์ ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ข้างเคียง แต่ก็ไม่มีใครกล้าให้สัมภาษณ์ เพราะไม่อยากยุ่งกับเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากมองว่าเป็นปัญหาภายในครอบครัว น่าจะตกลงกันได้ แต่ที่ผ่านมาก็ค้างคา มาหลายปี ยังหาที่จบไม่ได้ ในส่วนของ นาย กระมล สุจริต กำนันตำบลบึงพะไล ก็ยังไม่สามารถติดต่อสอบถามเหตุการณ์ได้ เนื่องจากเป็นคนในพื้นที่ และชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ

ลูกไล่แม่ออกจากบ้าน อบต.เผยสุดเศร้า ต้องพึ่งศาลช่วยเท่านั้น

ณัฐพงศ์ อรชร/ข่าวนครราชสีมา 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ