ปส.โชว์จับยานรก 6 คดี ผู้ต้องหา 8 คน ของกลางอีกเพียบ

 

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 13 ก.พ. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.)พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ร่วมกับ พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแถลงผลการจับกุมและสกัดกั้นผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ “ในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว(มาฆบูชา) และวันแห่งความรัก”(วาเลนไทน์)รายสำคัญ 6 คดี ผู้ต้องหา 8 คน ของกลาง ยาบ้า 1,600,000 เม็ด ไอซ์ 1,000 กิโลกรัม, ยาอีหรือเอ็กซ์ตาซี่ 5,000 เม็ด เคตามีน 100 กิโลกรัมกัญชา 600 กิโลกรัม

คดีที่ 1เมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 15.00 น. ตำรวจ บก.ปส.2 ตรวจยึด กัญชา 600 กิโลกรัม รถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ ทะเบียน 1 ฒฬ 9540 กทม. ได้ที่บริเวณวัดบ้านโนนสัง หมู่ 2 ต.โนนสัง อ.กัณทรารมย์ จว.ศรีษะเกษ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าจะมีกลุ่มนักค้ายาเสพติดลักลอบลำเลียงขนกัญชาจากพื้นที่ชายแดนด้าน จว.นครพนมมาส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ตอนใน เฝ้าสังเกตการณ์กระทั่งพบรถยนต์เป้าหมาย เรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น แต่ผู้ขับขี่ได้ขับหลบหนีและนำรถไปจอดทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุแล้วหลบหนีไป เข้าตรวจค้นรถพบกัญชาของกลางซุกซ่อนอยู่ นำส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.2 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2563 เวลาประมาณ 01.00 น. ตำรวจ บก.สกส.บช.ปส. ตำรวจ สภ.แม่เจดีย์ จ.เชียงราย ทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจยึดยาบ้า 1,000,000 เม็ด บรรจุอยู่ในกระสอบปุ๋ย บริเวณป่าละเมาะ ทางเข้าหมู่บ้านขุนลาว ม.7 ต.แม่เจดีย์ใหม่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย

ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าสืบสวนเครือข่ายนักค้ายาเสพติดว่ามีกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติด ซึ่งมีพฤติการณ์เป็นผู้รับงานขนและลำเลียงยาเสพติดจากนายทุนพ่อค้ายาเสพติด โดยจะขนส่งและลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ ต.แม่เจดีย์ใหม่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ส่งมอบให้กับลูกค้าในเขตพื้นที่รอยต่อ ต.แม่เจดีย์ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย - อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ โดยจะใช้เส้นทางถนนหมายเลข 118 สายเชียงใหม่ – ดอยสะเก็ด - อ.เวียงป่าเป้าจ.เชียงราย เพื่อส่งมอบให้กับลูกค้า นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายและเพื่อขยายผลออกหมายจับบุคคลในเครือข่ายและยึดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.มาตราการฯ ต่อไป 

คดีที่ 3 เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2563 ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และทหาร จับกุมนายธีระยุทธ พลพิทักษ์ธรรม อายุ 25 ปี และนายสิทธิชัย ณ เชียงใหม่ อายุ 25 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 600,000 เม็ด รถยนต์กระบะ 1 คัน รถจยย. 1 คัน โทรศัพท์ 3 เครื่อง อาวุธปืนลูกซองยาว พร้อมเครื่องกระสุน 1 กระบอก และอาวุธปืนพกสั้น พร้อมเครื่องกระสุน 1 กระบอก

แจ้งข้อหา“ร่วมกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต" และกล่าวหานายธีระยุทธ เพิ่มเติมว่า “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,นำหรือพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในทางสาธารณะหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต” จับกุมได้หน้าทางเข้าวัดห้วยปลากั้ง ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย ต่อเนื่อง บริเวณถนนบายพาสใหม่ ต.แม่ยาว อ.เมืองจ.เชียงราย

สืบเนื่องตำรวจชุดจับกุมสืบสวนทราบว่านายธีระยุทธฯ จะลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากแนวชายแดนมาเก็บไว้ในพื้นที่ ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย เพื่อรอการส่งต่อเข้าพื้นที่ชั้นในต่อไป กระทั้งพบนายธีระยุทธ กับพวก ขับรถยนต์เข้ามาในพื้นที่ลักษณะมีพิรุธโดยขับวนเวียนสลับจอดและสังเกตรอบบริเวณตลอดเวลา ชุดจับกุมเฝ้าสังเกตการณ์และติดตาม ถึงบริเวณบ้านห้วยปลากั้ง จากนั้นมีกลุ่มบุคคลต้องสงสัยประมาณ 2 - 3 คน เดินออกมาจากบริเวณพุ่มไม้หลังเนินเขาป่าชุมชน ต.แม่ยาว นำกระเป๋าสะพายส่งมอบให้กับกลุ่มนายธีรยุทธ แล้วหลบหนีเข้าไปในป่าชุมชน ได้แสดงตัวตรวจสอบกระเป๋าสะพายพบยาบ้า 600,000 เม็ด จึงจับกุม นายธีระยุทธฯ และนายสิทธิชัยฯ และนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.3 บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีที่ 4 เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2563 ตำรวจ กก.1 บก.ปส.3,ร่วมกับ ป.ป.ส. ศุลกากร, ศรภ.และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองตามโครงการ AITF จับกุมนายสิทธิกร วงษ์ศิลป์ อายุ 24 ปี 

พร้อมของกลาง ยาอีหรือเอ็กซ์ตาซี่ 5,000 เม็ด โทรศัพท์ 1 เครื่อง กล่าวหา“นำยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอีหรือเอ็กซ์ตาซี่) เข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอีหรือเอ็กซ์ตาซี่) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” ได้บริเวณที่ทำการศูนย์คัดแยกไปรษณีย์บางนา ถนนศรีนครินทร์ ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

ก่อนเกิดเหตุ ชุดจับกุมได้รับแจ้งพบพัสดุระหว่างประเทศต้องสงสัยว่าจะซุกซ่อนยาเสพติด ถูกส่งจากประเทศต้นทางเยอรมนี จึงร่วมกันทำการตรวจสอบกล่องพัสดุดังกล่าว พบยาเสพติดประเภท 1 (ยาอีหรือเอ็กซ์ตาซี่) ซุกซ่อนอยู่ในเครื่องนวดฝ่าเท้ายี่ห้อ BEURER จำนวนประมาณ 5,000 เม็ด ตรวจยึดและขยายผลจับนายสิทธิกร วงษ์ศิลป์ พนักงานนำจ่ายของบริษัทรับส่งพัสดุแห่งหนึ่ง ขณะเข้ามารับพัสดุที่ศูนย์คัดแยกไปรษณีย์บางนา ถนนศรีนครินทร์ จากการสอบสวนนายสิทธิกรรับว่าได้ดำเนินการตามคำว่าจ้างของเพื่อน และเคยทำลักษณะดังกล่าวมาแล้ว 1 ครั้ง ได้ค่าจ้างประมาณ 2,000 บาท นำตัวผู้ต้องหาและของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.3 ดำเนินคดีต่อไป 

คดีที่ 5 เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2563 เจ้าพนักงานตำรวจ กก.2 บก.ปส.3,บก.ขส.ร่วมกับ ป.ป.ส.ภาค 5 และทหาร ตรวจยึดยาไอซ์ 100 กิโลกรัม บริเวณข้างถนนหมายเลข 1089 (แม่อาย-ท่าตอน) ต.มะลิกา อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ 

ก่อนเกิดเหตุ ชุดตรวจยึดทราบว่าจะมีกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติด ชนเผ่าอาข่าบ้านป่ากุ๋ย ต.มะลิกา อ.แม่อายจ.เชียงใหม่ ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ แนวชายแดนเมียนมาร์โดยวิธีเดินเท้าเข้ามาในพื้นที่ทางช่องทางป่ากุ๋ย เพื่อส่งมอบให้กับกลุ่มเครือข่ายในห้วงวันที่ 7-8 ก.พ. ร่วมกันติดตามกระทั่งพบกลุ่มชายประมาณ 7-8 คน ถืออาวุธปืนและสะพายกระสอบมายังจุดเกิดเหตุ แสดงตัวขอตรวจค้น กลุ่มชายดังกล่าวได้ยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่และเกิดการยิงปะทะกันประมาณ 5 นาที หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ พบยาไอซ์ 100 ห่อ น้ำหนัก 100 กิโลกรัม บรรจุในกระสอบซึ่งถูกโยนทิ้งไว้บริเวณป่าข้างถนน ส่วนกลุ่มชายดังกล่าว อาศัยความมืดหลบหนีไป ตรวจยึดยาเสพติดและนำส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.3 ดำเนินคดีตามกฎหมาย

แบะคดีที่ 6 เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ต่อเนื่องวันที่ 9 ก.พ.ตำรวจ บก.สกส.บช.ปส, บก.ปส.3, ตำรวจภูธร ภาค 6, ภ.จ.นครสวรรค์ภ.จ.ตาก, ตำรวจศูนย์ควบคุมสั่งการ การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด ภ .5, ทหารค่ายจิรประวัติ ป.4 พัน.4, ป.ป.ส. และด่านศุลกากรแม่สอด ร่วมกันจับกุมนายบุญมี เจริญผล อายุ 71 ปี นายวีระ เจริญผล อายุ 48 ปี น.ส.เพ็ญศรี ผลขำอายุ 52 ปี นายปฏิภาค อาชาปัญญาโชติ อายุ 30 ปี และนายวิปัศย์ ท้าววัฒนากุล อายุ 24 ปี 

พร้อมของกลางยาไอซ์ 900 กิโลกรัม คีตามีน 100 กิโลกรัม

กระบะอีซูซุ สีเทาขาวเขียวเหลือง 1 คัน รถบรรทุกโตโยต้า 1 คัน รถยนต์เชฟโรเลต แคปติวา สีน้ำตาล 1 คัน รถบรรทุกโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ สีเทา 1 คัน และโทรศัพท์ 6 เครื่อง 

กล่าวหาว่า“ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้อนุญาตและร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (คีตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต”

ก่อนเกิดเหตุ ชุดจับกุมได้ติดตามสืบสวนเครือข่ายนักค้ายาเสพติด ว่ามีกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติด ซึ่งมีพฤติการณ์เป็นผู้รับงานขนและลำเลียงยาเสพติดจากนายทุนพ่อค้ายาเสพติด โดยจะขนส่งและลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ อ.พบพระ จ.ตาก โดยใช้รถยนต์บรรทุกลำเลียงไปกับพืชผลทางการเกษตร ส่งมอบให้กับลูกค้า ในพื้นที่ ภาคกลาง และ ภาคใต้ โดยใช้เส้นทาง ถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมาย 1) ช่วง จ.กำแพงเพชร – จ.นครสวรรค์ เข้าสู่พื้นที่ตอนในประเทศ เพื่อส่งมอบให้กับลูกค้า ของผู้ว่าจ้าง เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและได้รับคำสั่งให้ดำเนินการสืบสวนสกัดกั้น จับกุม กลุ่มบุคคลดังกล่าว

 

จนกระทั่งเย็นวันที่ 8 ก.พ.จับกุมนายบุญมีได้ที่บริเวณด่านตรวจ ยาเสพติดพยุหะคีรี เลขที่ 520 ม.3 ต.ย่านมัทรีอ.พยุหะคีรี จว.นครสวรรค์, จับกุมผู้ต้องหาที่ นายวีระและน.ส.เพ็ญศรี ได้ที่บริเวณภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. (บริษัท นันท์ธนารักษ์รุ่งเรืองปิโตรเลียม จำกัด) เลขที่ 111/1 ม.3 ต.ศรีประจันต์ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ของช่วงค่ำวันเดียวกันจับกุมนายปฏิภาคได้ที่บริเวณริมถนน เลียบคลองหลังวัดเกาะ ต.ช่อฟ้า อ.โพธาราม จว.ราชบุรี และจับกุมนายวิปัศย์

 

ได้ที่บริเวณภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. (หจก.สิริเดือนเพ็ญ) เลขที่ 145 หมู่ 4 ถนนโพธาราม - บ้านเลือก ต.บ้านเลือกอ.โพธาราม จ.ราชบุรี ช่วงดึก วันที่ 9 ก.พ พร้อมของกลาง ไอซ์ น้ำหนักประมาณ 900 กิโลกรัม และ คีตามีน น้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม วางซุกซ่อนอยู่ในกระสอบปุ๋ย สีฟ้า และ สีเหลืองภายในกระบะบรรทุก โดยทับไว้ด้วยหัวกะหล่ำปลี อย่างมิดชิดจึงแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาทราบและนำผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายเพื่อขยายผลออกหมายจับบุคคลในเครือข่ายและยึดทรัพย์สิน ตาม พ.ร.บ.มาตราการฯ ต่อไป 

ภาพ/ข่าว. นิศานาถ  สมัครไทย  ทีมข่าวเฉพาะกิจคมชัดลึก