ภรรยา 2 ครอบครัวยังมึนชายวัย 56 ขับรถเก๋งเหยียบชนเพื่อนบ้านจนเสียชีวิต รอคำตอบจากผู้ก่อเหตุ ล่าสุดยังไม่มอบตัว
จากกรณีคนร้ายเป็นชายวัย 56 ปี ขับรถเก๋งถอยหลังตั้งลำ ก่อนเหยียบคันเร่ง พุ่งชนเพื่อนบ้านดับคาที่ ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ล่าสุดวันที่ 26 ม.ค.2563 นางปานกมล รัศมี อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 199/336 หมู่ 3 ต. คลองสวนพลู อ. พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ภรรยานายสุพรรณ์ ญาติบรรนทุง อายุ 55 ปี ผู้เสียชีวิต จากเหตุถูกนาย ไพบูลย์ ส่างสาร อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 199/337 ผู้ก่อเหตุ ซึ่งอยู่บ้านติดกันขับรถเก๋ง Toyota Altis สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ฆท 6564 กรุงเทพฯ ชนจนเสียชีวิตขณะทำความสะอาด และ รดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้าน เปิดเผยว่า อยู่หมู่บ้านนี้มา 8 ปี ก็เป็นเพื่อนบ้านๆติดกัน ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับนายไพบูลย์ จริงๆ แล้วก็เป็นเพื่อนบ้านที่ดี ส่วนตัวสามี ก็นานๆ จะกลับมาบ้าน เพราะว่าทำงานอยู่ที่เชียงใหม่ แต่ที่ผ่านมา สามีมีปัญหา เรื่องการตั้งของกีดขวาง บริเวณหน้าบ้าน ทำให้กระทบกระทั่งกันบ้างแต่ไม่คิดว่า จะเป็นสาเหตุ ที่ต้องมาขับรถพุ่งชนจนสามีตนเองเสียชีวิต และตอนนี้ตนเองยังไม่ได้บอกลูกชายว่าพ่อเสียชีวิต โดยในวันนี้ จะเดินทางไปรับศพสามี ที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี เพื่อมาบำเพ็ญกุศล ที่วัดเสนาสนารามราชวรวิหาร อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
ทางด้านครอบครัวส่างสาร ทั้งภรรยาและลูกสาว ของผู้ก่อเหตุมารอที่สถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ว่าอยู่บ้านหลังนี้มาประมาณ 10 ปี ยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหาทะเลาะกัน กับบ้านผู้เสียชีวิต ไม่เคยมีปัญหาเรื่องที่จอดรถ และปัญหาเรื่องราวตากผ้าแน่นอน แต่เมื่อคืนก่อนเกิดเหตุก็ไม่ได้อยู่บ้าน และปกติก็ไม่ค่อยคุยสามีอยู่แล้ว เพราะสามีเป็นคนไม่ค่อยพูด ส่วนมากต่างคนต่างอยู่ จึงไม่รู้จริงๆว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น มาทราบอีกครั้งว่ารถคันเกิดเหตุสามีตัวเองเป็นคนขับ และบอกอีกว่าสามีไม่มีโรคประจำตัวใดๆ ไม่เคยต้องกินยา จึงไม่ทราบสาเหตุจริงที่แท้จริง ตอนนี้ไม่ขอพูดอะไรมาก ขอให้รอฟังจากปากเจ้าตัวเอง
ทั้งนี้ยังกล่าวอีกว่า ตอนนี้เครียดสถานการณ์หลังจากนี้ ทั้งตัวเองและลูกสาวจะถูกสังคมตัดสินว่าอย่างไร เพราะไม่รู้เรื่องราวและสาเหตุที่เกิดขึ้น ที่สำคัญบ้านอยู่ติดกันกับผู้เสียชีวิตด้วย แต่หลังจากนี้ถ้าเกิดทราบว่าตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่ไหนก็จะเดินทางไปร่วมงานศพด้วย พร้อมเผยว่าอยากให้สามีมอบตัว และให้ต่อสู้ไปตามกระบวนการกฎหมาย และในวันนี้ยังไม่รู้จริงๆว่าจะกลับ ไปนอนที่บ้าน ภายในหมู่บ้านกรุงศรีซิตี้ หรือว่าจะพาลูกสาวไปนอนที่บ้านพักข้าราชการที่ทำงานอยู่ดีเพราะไม่รู้มองหน้าญาติผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกันยังไง
ภาพ-ข่าว เกียรติยศ ศรีสกุล ผอ.ภาคกลาง-ตะวันตก คมชัดลึก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง