วงจรปิดจับภาพหลานชายป.โทสุดแสบ ลักรถกระบะป้าขาย

 

 

                   ที่ จ.สุพรรณบุรี ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก น.ส.อารีย์ อ่ำทอง อายุ 64 ปีอยู่บ้านเลขที่ 8/1หมู่ 3 ต.เขาพระ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ว่ามีคนร้ายคือหลานชายของตนเองขโมยรถยนต์กระบะไปเมื่อวันที่ 9 ม.ค.2563 หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วแต่ยังจับคนร้ายไม่ได้ จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวหลังใหญ่มีรั้วกำแพงปูนกึ่งรั้วเหล็กที่แน่นหนา พบน.ส.อารีย์ และ น.ส.อุดม อ่ำทอง อายุ 80 ปีเจ้าของบ้านพร้อมหลานชายอยู่ในบ้าน

 

 

 

 

 

 

                 จากการสอบถาม น.ส.อุดม อ่ำทอง อายุ 80 ปีเจ้าของบ้านเล่าด้วยความคับแค้นใจว่าอดีตเคยเป็นเจ้าของโรงสีต่อมาได้เลิกกิจการแล้วมาอยู่บ้านหลังนี้ กับน.ส.อารีย์ น้องสาวและหลานชายชื่อลิขิต อ่ำทอง อายุ 32 ปีซึ่งเป็นลูกชายของน้องสาว และตนได้เลี้ยงดูส่งเสียให้เรียนหนังสือมาตั้งแต่ยังเล็กๆจนจบการศึกษาระดับปริญญาโท จากมหาลัยชื่อดัง หลังจบการศึกษาได้กลับมาอยู่บ้านแต่ไม่ได้ช่วยทำงานอยู่บ้านเฉยๆด้วยความรักหลานตนได้ซื้อรถยนต์อเนกประสงค์ให้ใช้เผื่อไปติดต่อธุระแต่แล้วก็ต้องผิดหวังเนื่องจากหลานชายนอกจากไม่ช่วยทำงานแล้วยังติดการพนันขโมยทรัพย์สินในบ้านทั้งเงินสด ทองรูปพรรณ อาวุธปืนแล้วหนีไปจากนั้นไม่นานหลานเนรคุณก็กลับมากราขอโทษซึ่งตนก็ให้อภัยด้วยความที่รักและเป็นห่วงหลาน

 

 

 

 

 

             ต่อมาเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2562 หลานชายคนนี้ก็ออกลายขโมยรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้ารีโว่สีขาวสี่ประตู ที่จอดไว้ในบ้านด้านหลังกลางวันแสกๆพร้อมเก็บเสื้อผ้าใส่ไว้ในรถก่อนจะขับหนีออกไป หลังก่อเหตุได้นำรถไปขายให้กับเต็นท์รถย่านบางบัวทอง แต่ครั้งนั้นโชคดีที่คน ที่ซื้อรถต่อจากเต็นท์ได้นำรถมาจดทะเบียนโอนย้ายที่สำนักงานขนส่งจังหวัดสุพรรณบุรี ในวันที่ 28 สิงหาคม 2562และญาติซึ่งทำงานที่ขนส่งได้โทรศัพท์มาบอกว่ามีคนนำรถมายื่นเรื่องขอจดทะเบียน ทางญาติจึงดึงเรื่องไว้ตนจึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามไปยึดรถคืนมาได้ส่วนคนที่รับซื้อรถไหวตัวหนีไปได้ กระทั่งวันที่ 9 ม.ค.2563 ช่วงประมาณเที่ยงคืนขณะที่ทุกคนกำลังนอนหลับอยู่ในห้องนอนหลานชายซึ่งเป็นคนร้ายได้ปีนรั้วเข้ามาก่อเหตุใช้หินเจียรไฟฟ้า ตัดกุญแจที่ล็อกประตูเหล็กไว้ก่อนเปิดประตูขับรถหนีไป หลังเกิดเหตุได้นำหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เดิมบางนางบวช  ให้ช่วยติดตามตัวหลานเนรคุณ มาดำเนินคดี

น.ส.อุดม อ่ำทอง อายุ 80 ปีกล่าวอีกว่าฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยเร่งรัดสืบสวนติดตามจับกุมหลานแสบคนนี้มาดำเนินให้ได้ทุกวันนี้ตนอยู่บ้านอย่างหวาดระแวงกลัวว่าเจ้าหลานชายแสบคนนี้จะกลับมาก่อเหตุซ้ำและกลัวจะถูกหลานทำร้ายเนื่องจากที่บ้านมีผู้หญิง

 

 

 

ภาพ/ข่าว ภัทรพล พรมพัก มงคล สว่างศรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุพรรณบุรี