รวบแล้ว หนุ่มเติมน้ำมันด้วยแบงค์กาโม่

               จากกรณีภาพวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ รถยนต์ปิกอัพตอนเดียว สีน้ำเงิน ใส่คอกที่กระบะท้าย มีสติกเกอร์สีขาวปิดทะเบียน เห็นแต่เลข 8100 แต่ไม่เห็นหมวดและจังหวัด มาเพียงคนเดียวเข้ามาเติมน้ำมัน ดีเซลล์จำนวน1,850  บาท เติมเสร็จได้พูดคุยกับเด็กปั้มซักพักก่อนจะขับออกไปอย่างรวดเร็ว สร้างความเดือดร้อนให้กับพนักงานเติมน้ำมัน เพราะต้องจ่ายเงิน 1,850 บาทแทน เหตุเกิดที่ ปั๊ม ปตท. ริมถนนพระรามกิโลเมตร 72 เลขที่ 13/12 หมู่ 6 ตำบลคลองโคน  อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม เมื่อเที่ยงคืน 7 นาที ของวันที่ 7 มกราคม 2563 ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุดพันตำรวจเอกอภิชาต พุทธบุญ ผู้กำกับการ สภ.เมืองสมุทรสงคราม พร้อมพันตำรวจโทสงัด เบ้าแบบดี รองผู้กำกับปราบปราม, พันตำรวจตรีเอนก ขจีจิตร สารวัตรสืบสวน นำกำลังติดตามรถคันก่อเหตุเป็นรถปิกอัพตอนเดียว ยี่ห้ออีซุซุ สีน้ำเงิน ใส่คอกที่กระบะท้าย ทะเบียน  บฉ 3169 สมุทรสงคราม ได้บริเวณริมถนนพระราม 2 ตำบลนาโคก อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร จึงควบคุมตัวนางสำรวย ประพงพันธ์ อายุ 59 ปี ชาวตำบลนางตะเคียน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม มาสอบสวน เบื้องต้น นางสำรวย อ้างว่าผู้ก่อเหตุคือนายชุมพล ประพงพันธ์ อายุ 36 ปี เป็นบุตรชายของตนเองที่ผิดหวังจากความรัก และคิดว่าพ่อแม่ไม่รัก จึงเกิดความเครียดมีอาการทางจิตเวชมักเกิดอาการคลุ้มคลั่งทำอะไรโดยไม่ยั้งคิดบ่อยๆ ที่ผ่านมาไปทำอะไรหรือไปไหนก็ไม่บอก ตนก็ไม่รู้เรื่องมากก่อน ตนเพิ่งจะรู้เรื่องว่าบุตรชายก่อเหตุในครั้งนี้ก็ต้องขอโทษผู้ที่เกี่ยวข้อง และยินดีจะรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด

นายณัฐวุฒิ มั่นหมั่น ผู้บริหารปั้มน้ำมันกล่าวว่า เมื่อทางปั้มทราบว่าผู้ก่อเหตุมีอาการทางจิต ทางปั้มก็ไม่ได้ติดใจเอาความแต่อย่างใด ในส่วนของปั้มก็ไม่ได้เก็บค่าน้ำมันจากเด็กปั้มแต่อย่างใด ซึ่งต้องขอขอบคุณตำรวจที่เร่งติดตามผู้ก่อเหตุมารับผิดชอบโดยเร็ว อย่างไรก็ตามก็ขอฝากประชาชนผู้ใช้รถอย่าขับรถหนีไม่ยอมจ่ายค่าน้ำมัน หรือก่อเหตุแบบนี้ เพราะว่าท่านต้องโดนจับกุมอย่างแน่นอน

 พันตำรวจเอกอภิชาต พุทธบุญ ผู้กำกับการ สภ.เมืองสมุทรสงคราม กล่าวว่า ในกรณีนี้เจ้าทุกข์ได้รับการชดใช้ค่าน้ำมัน จึงไม่ติดใจเอาความ ซึ่งคดีนี้ถือเป็นความผิดส่วนตัว เมื่อเจ้าทุกข์ไม่ติดใจเอาความในทางคดีถือเป็นการสิ้นสุด อย่างไรก็ตามขอเตือนผู้ประกอบการสังเกตรถที่มีเจตนาปกปิดแผ่นป้ายทะเบียน ทำให้ไม่ชัดเจน เกิดความสับสน ให้ไปดูใกล้ๆ และถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานได้เลย เพื่อเป็นหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี

นพพร บุญทนาวงศ์ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสมุทรสงคราม