เปิดกล้องล่า 2 โจรแสบ ขโมยกระเป๋าสาวเกาหลีถึงบ้าน ทิ้งรองเท้าแตะไว้ให้ดูต่างหน้า
วันที่ 17 มกราคม 2563 เวลา 15.00 น. ศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทองสภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งมีคนร้ายเข้าไปก่อเหตุ ขโมยกระเป๋านักท่องเที่ยวที่บ้านพัก ภายในซอย ศรีสุนทร เขตเทศบาลนครอุดรธานี จากนั้นร.ต.อ.พิทักษ์ พรหมวงษ์ซ้าย รอง.สวป สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สาย 191 รุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮ้าส์ 2ชั้น เลขที่173/8 พบ น.ส.ซูยอน ฮา 43 ปี ชาวเกาหลี ยืนรอให้การด้วยอาการตกใจ ว่าตนเดินทางมาเที่ยวบ้านเพื่อนคนไทย ชาวจ.อุดรธานี ได้เพียง2วัน โดยบ้านหลังนี้เป็นของเพื่อนผู้หญิงชาวไทย โดยในช่วงเกิดเหตุ ตนอยู่บ้านเพียงลำพังคนเดียว ส่วนเพื่อนออกไปทำธุระนอกบ้าน โดยตนอยู่ที่ห้องครัวหลังบ้าน แต่ประตูหน้าบ้านไม่ได้ล็อคเพียงแต่ใช้แม่กุญแจคล้องประตูเอาไว้
โดยตนกำลังนั่งปลอกเปลือกมะนาวเพื่อทำการแปรรูปมะนาว เตรียมนำกลับไปฝากแม่ที่ประเทศเกาหลี โดยตนได้วางกระเป๋าสะพายลายดอกไม้ ไว้ที่เก้าอี้พลาสติกสีเทา ในห้องรับแขก จากนั้นตนได้ยินเสียงเหมือนมีคนเดินเข้ามาในบ้าน ที่แรกตนคิดว่าเพื่อนกลับมาจากทำธุระเสร็จแล้ว ไม่นานก็ได้ยินเสียงคนเดินออกไปจากตัวบ้าน ตนจึงเดินไปส่องมาดู พบว่ามีชายเดินออกไปจากบ้านพร้อมกระเป๋าสะพายของตน แล้วมีชายอีกคนนั่งอยู่ที่รถจยย.
จากนั้นตนจึงรีบวิ่งออกไป พร้อมกับเรียกให้ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงช่วย แต่ชายทั้ง2คนขี่รถจยย.หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งภายในกระเป๋าสะพาย มีธนบัตรไทย มีเงินอยู่ประมาณ 8,000 บาท,พาสปอร์ตประเทศเกาหลี ,ใบขับขี่นานาชาติ,บัตรเครดิต และ เอกสารสำคัญหลายอย่าง ถูกคนร้ายขโมยไป ซึ่งคนร้ายได้ถอดรองเท้าแตะสีเหลือง1คู่ทิ้งไว้หน้าบ้านเอาไว้ให้ดูเจ็บใจ
ร.ต.อ.พิทักษ์ พรหมวงษ์ซ้าย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นภาพจากการวงจรปิดของบ้านใกล้เคียงสามารถบันทึกภาพ ชายวัยรุ่นอายุประมาณ 20-25ปี คนขับจยย. สวมเสื้อยืดสีดำ คลุมด้วยเสื้อแขนยาวสีดำแขนสีเทา นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ สวมร้องเท้าแตะน้ำสีเหลือง คนนั่งซ้อนท้าย สวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงขาสั้นสีครีม สวมร้องเท้าแตะสีดำ ทั้ง2คนรูปร่างผอม ทรงผมสั้นเกียน
คนร้ายทั้งสองคนได้ขี่รถจยย.ซ้อนท้ายกันมา ผ่านหน้าบ้านที่เกิดเหตุในช่วงเวลา 14.56น. ซึ่งรองเท้าแตะสีเหลืองที่คนร้ายถอดทิ้งไว้ เป็นรองเท้าของคนร้ายที่ขับรถจยย. ซึ่งคาดว่าคนร้ายจะขี่รถจยย.ตระเวนก่อเหตุหาบ้านหลังไหน ไม่ได้ล็อคกุญแจ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางเพื่อหาเบาะแสคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายกฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว ภูมิภาค จ.อุดรธานี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง