หนุ่มใหญ่อายุวัย59 ปี นอนโกรนก่อนไหลตายในบ้านคู่เขยที่เพิ่งเสียชีวิต เชื่อว่าวิญญาณเขยใหญ่มารับเอาเขยเล็กไปอยู่ด้วย
วันที่ 16 มกราคม 2563 เวลา 10.30 น. พ.ต.ท.ศิริชัย โพธิจักร สว.สอบสวน สภ.ห้วยหลวง อ.เมืองอุดรธานี รับแจ้ง ได้คนเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ หรือไหลตาย ญาติได้นำศพเอาไว้ ที่บ้านพักเลขที่ 287/2 หมู่9 บ้านเชียงพิณ ต.เชียงพิณ อ.เมืองอุดรธานี จากนั้นพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิอุดรส่งเสริมธรรม รุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ พบศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นายอรุณ สีดาห้าว อายุ 59 ปี นอนอยู่กับพื้น โดยมีนางคำพันธ์ ผาจันดา อายุ 58 ปี ภรรยาผู้ตาย นั่งจับมือสามีด้วยความเสียใจน้ำตาคลอ ซึ่งมีญาติพี่น้อง จำนวนมาก อยู่ในบ้าน ต่างพากันเชื่อกันว่าวิญญาณเขยใหญ่ที่ป่วยเสียชีวิตมารับผู้ตายที่เป็นเขยเล็กไปอยู่ด้วย เพราะสองคนนี้เมื่อครั้งมีชีวิตรักและนับถือกันมาก
นางคำพันธ์ ผาจันดา ภรรยาผู้ตาย ให้การว่า เมื่อก่อนสามีมีอาชีพขับรถบรรทุกรับจ้าง และไม่ทำงานมาตั้งแต่ช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา เนื่องจากอายุมากแล้ว ประกอบกับพี่เขยที่มีศักดิ์เป็นเขยใหญ่ มาล้มป่วยแล้วเสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 มกราคม ที่ผ่านมา ขณะที่พี่เขยนอนป่วยรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล สามีก็อาสาไปนอนเฝ้าไข้ทุกคืน เนื่องจากสามีมีความผูกพันธุ์ เคารพรักนับถือเขยใหญ่อย่างมาก หลังจากพี่เขยเสียชีวิต สามีก็ไปช่วยงานศพที่บ้านที่ อยู่ห่างจากบ้านตนเองไป ประมาณ 500 เมตร ตลอดทั้งวันและคืน จนครบ 1 สัปดาห์ ก่อนทำการฌาปนกิจศพไปเมื่อวันที่ 14 มกราคม หลังจากงานศพพี่เขยเสร็จ ตนและสามีก็ยังนอนเป็นเพื่อนพี่สาวเพื่อปลอบใจ หลังจากสูญเสียสามีไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ
โดยเมื่อคืนนี้สามียังร่วมกินหมูกระทะพร้อมกับลูกหลาน และญาติ อย่างสนุกสนานตามปกติ โดยไม่มีลางสังหรณ์บอกเหตุ หรือลางร้าย เลย ก่อนที่สามีจะนอนไหลตาย ซึ่งในตอนเช้าตนและญาติๆ พาพี่สาวไปทำบุญที่วัด และกลับมาบ้านพี่สาวช่วงสาย ยังได้ยินเสียงนอนโกรนของสามี ที่นอนอยู่ภายในบ้านของพี่สาว แต่ผิดสังเกตุสามีเป็นคนตื่นเช้าทุกวัน ทำไมวันนี้ถึงนอนตื่นสาย คิดว่าสามีคงเหน็ดเหนื่อยสะสมจากการมาช่วยงานศพของพี่เขย และตนไม่ได้สนใจ
หลังจากนั้นตนไปทำกับข้าวในครัวจนแล้วเสร็จ ก่อนมาปลุกสามีให้ลุกขึ้นมากินข้าว พบว่าสามีไม่หายใจ และที่มุมปากมีน้ำลายไหลออกมาจำนวนมาก จึงร้องตะโกนบอกญาติๆมาช่วยดู พบว่าสามีเสียชีวิตแล้ว จึงนำศพมาที่บ้านของตนเอง ก่อนแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ
แพทย์ได้ทำการชันสูตรพลิกศพ ตามร่างกายไม่พบบาดแผลถูกทำร้ายแต่อย่างใด เสียชีวิตมาได้มาเกิด2 ชั่วโมง จากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน โดยทางญาติไม่ติดใจการเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน แล้วมอบศพให้นำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
นายกฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว ภูมิภาค จ.อุดรธานี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง