หวิดมีมวยหมู่ เสียงแตกลอกทองหลวงพ่อดำ วัดโคกพระเจดีย์

                                                                                  

 

            กลุ่มชาวบ้านในตำบลโคกพระเจดีย์ รวมตัวไปดูหลวงพ่อดำวัดคู่ชุมชนในวัด หลังทราบข่าวเจ้าอาวาสให้มีการลอกทองพระเก่าออกเตรียมปิดทองคำใหม่ทั้งองค์ แต่เกิดเสียงแตกมีทั้งเสียงสนับสนุนและเสียงคัดค้าน ร้อนถึงเจ้าอาวาสต้องออกมาขอโทษชาวบ้านและจำทำกลับให้เหมือนเดิม ก่อนจะมีการจับตาประเด็นใหม่ วันที่ 22 มกราคม นี้

               วันนี้ 14 มกราคม 2563 เมื่อเวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ที่วัดโคกพระเจดีย์ ต.โคกพระเจดีย์ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ได้มีชาวบ้านรวมตัวกันมาเพื่อมาแสดงความไม่พอใจและขอคำตอบ หลังจากที่ พระมหาเติม เจ้าอาวาสวัดโคกพระเจดีย์ ได้ทำการลอกทองคำเปลวที่ติดไว้ที่ หลวงพ่อดำ พระประทาน พระเก่าแก่ คู่ชุมชนของชาวบ้านอายุ กว่า 724 ปี ที่ตั้งประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถ โดยไม่ได้มีการปรึกษาหารือกับชาวบ้าน โดยทำให้เกิดความเสียหายต่อองค์หลวงพ่อดำ หลายจุด ซึ่งชาวบ้านได้ทยอยเดินทางมาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีชาวบ้านที่คัดค้านขึ้นไปสำรวจที่หลวงพ่อดำก็พบว่าตัวองค์มีการทาสีดำทับองค์หลวงพ่อดำองค์เก่า จึงได้มีการประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครฯ อำเภอนครชัยศรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ หลายสิบคนเข้าควบคุมสถานการณ์ นำโดยนายชัยยุทธ บุญเจริญ ปลัดอาวุโสรักษาการนายอำเภอนครชัยศรี

 

 

 

 

             ต่อมาเมื่อชาวบ้านมีจำนวนมากขึ้นได้มีการแสดงความคิดเห็นที่แตกออกเป็น 2 คือกลุ่มที่คัดค้านเรื่องดังกล่าวมีจำนวนประมาณ 50 คน และฝ่ายที่ให้มีการปฏิสังขรณ์ หลวงพ่อดำ โดยให้มีการลงทองคำแท้ทั้งตัวองค์ กว่า 300 คน ได้เดินทางเข้ามาสนับสนุนแนวคิดของพระมหาเติม เจ้าอาวาส โดยเหตุการณ์ได้เริ่มตรึงเครียดและจะบานปลายเมื่อทั้งสองฝ่ายเถียงกันไม่ลงตัวจนเกิดหวิดมีการยกพวกตะลุมบอน ร้อนถึงเจ้าหน้าที่ที่ต้องระดมกำลังกันเพื่อป้องกันเหตุบานปลาย โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงทางพระมหาเติม เจ้าอาวาสได้ออกมาชี้แจงจึงทำให้มีการตกลงกันบนโต๊ะเจรจา

               ซึ่งในส่วนของ นางติ๋ว (ขอสงวนนามสกุล) พร้อมกับกลุ่มชาวบ้านในตำบลโคกพระเจดีย์ ที่คัดค้านการลอกทองคำเปลวเก่าออกจากหลวงพ่อดำ บอกว่า ตนเองทราบเรื่องมา 2-3 วันก่อนว่าทางวัดนี้ได้มีการลอกทองคำเปลวออกจากหลวงพ่อดำ โดยไม้ได้ปรึกษาใครซึ่งเป็นการกระทำโดยพละการ เนื่องจากหลวงพ่อดำเป็นพระเก่าแก่ที่เป็นที่รักและเคารพของชาวบ้าน ตนเองได้ทราบข่าวก็ได้มาดูก็พบว่าทองถูกลอกออกไปหมดแล้ว สอบถามคนในวัดก็บอกว่า มีชาวบ้านชื่อนายเจริญ ได้เป็นตัวตั้งตัวตีที่จะให้ลอกทองออกแล้วนำไปเคลือบทองคำแบบหลวงพ่อวัดไร่ขิง แต่ก็มีข้อมูลว่ามีการทำแล้วเกิดความเสียหายที่ตัวหลวงพ่อดำ เรื่องนี้ชาวบ้านทราบข่าวแพร่กระจายกันออกไปแล้วก็ถึงกับรับไม่ได้ เพราะความศักดิ์สิทธิของหลวงพ่อดำนั้นเป็นที่เลื่อมใสและช่วยชีวิตให้ชาวบ้านปลอดภัยอยู่ดีกินดีกันมาอย่างยาวนาน มีบางคนถูกรถชนมาอาการสาหัสต้องนอนแน่นิ่งรู้สุกตัวแล้วมากินน้ำมนต์ของหลวงพ่อแล้วฟิ้นก็รอดชีวิตมาถึงวันนี้ด้วย

 

 

 

               ขณะที่นางจัน (ขอสงวนนาสกุล) ชาวบ้านที่ให้การสนับสนุนบอกว่า เรื่องนี้ทราบว่า นายเจริญ เกษตรกรที่จะขอทำการนำทองคำมาปิดทับหลวงพ่อดำใหม่ ได้มามีความตั้งใจที่จะแต่งองค์หลวงพ่อดำให้สวยงามากขึ้นเพราะมีความศรัทธาจริงๆ โดยได้บนบานบอกกับหลวงพ่อดำว่า ถ้าท่านไม่ชอบให้มีการเปลี่ยนแปลงตามที่ได้แจ้งความประสงค์ไว้ขอให้มีการเจ็บปวดที่ร่างกาย ซึ่งรอมา 4 เดือนก็พบว่าปกติ จึงได้บอกกับกำนันผู้ใหญ่บ้าน ซึงไม่ได้มาคุยกับชาวบ้านเพราะความเป็นชาวบ้าน กระทั่งมาเกิดเรื่องมีการขัดแย้งในวันนี้ขึ้น ซึ่งส่วนตัวเองก็เห็นว่าดีท่จะมีการทำให้หลวงพ่อดำสวยงามขึ้น

               โดยนายเจริญ ชาญปรีชา ชาวบ้านผู้ที่จะขอทำการปิดทองหลวงพ่อดำ บอกว่าตนเองมีความศรัทธากับหลวงพ่อดำมาก ซึ่งตลอดอาชีพการเป็นเกษตร ได้ขอหลวงพ่อดำไว้ให้ทำมาค้าขึ้นมีความร่ำรวยแล้วจะมาหุ้มทองให้หลวงพ่อเอาแบบวัดไร่ขิง โดยได้ตกลงกับช่างไว้ว่าจะทำราว 1 แสนกว่าบาท โดยวัดไม่ต้องออกค่าใช้จ่าย ซึ่งชาวบ้านไม่พอใจ ตนเองได้บอกไปกับ สจ.กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าอาวาส แต่ไม่คิดว่าชาวบ้านจะไม่พอใจแบบนี้

               ต่อมา พระมหาเติม เจ้าอาวาสวัดโคกพระเจดีย์ ได้อธิบายเห็นว่าเหตุการณ์เริ่มจะบานปลายจึงได้ลงมาใช้เครื่องขยายเสียงเพื่อชี้แจงในเรื่องดังกล่าว โดยบอกว่า นายเจริญ ได้มาแจ้งไว้ถึงความประสงค์ว่าจำทำเรื่องดังกล่าว ซึ่งตอนแรกก็คัดค้าน แต่ก็ได้รับการขอร้องมาหลายครั้ง ซึ่งมาพิจารณาก็พบว่าไม่น่าจะเสียหาย ทางนายเจริญก็ได้ไปบอกผู้นำชุมชนแล้ว ก็ได้อนุญาตให้ทำ โดยไม่ได้มองว่าไม่เห็นหัวของชาวบ้านและคิดว่าเป็นเรื่องดี เรื่องนี้ทางโยมเจริญไม่ผิดซึ่งก็ต้องขอโทษชาวบ้านกับเหตุการณ์แบบนี้ที่เกิดขึ้น ซึ่งก็จะนำทองคำเปลวที่ลอกออกมากลับไปติดให้หลวงพ่อดำเหมือนเดิม จะได้จบปัญหาในเรื่องดังกล่าว

               ทั้งนี้ก่อนที่ชาวบ้านจะได้มีการรับฟังจนเป็นที่พอใจก่อนแยกย้าย ทางนายเจริญ ได้แจ้งว่า เมื่อไม่สามารถติดทองใหม่ที่หลวงพ่อดำได้ ก็จะทำการเททองหล่อ หลวงพ่อดำอีก 5 องค์ ขึ้นใหม่ ในวันที่ 22 มกราคม นี้ ซึ่งชาวบ้านส่วนที่ไม่พอใจขอจับตาดูว่าทางวัดจะทำให้หลวงพ่อดำกลับมาเป็นแบบเดิมได้หรือไม่และจะกลับมารวมตัวในวันนั้นอีกด้วย ซึ่งจะต้องมีการจับตาจากหน่วยงานรัฐเนื่องจากอาจจะมีเหตุบานปลายที่เกิดขึ้นอีก

 

 

 

 

 

 

ปนิทัศน์ มามีสุข   นส.ปณิดา มามีสุข  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครปฐม