ข่าว

เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม สุดเสียใจ เห็นวัวล้มตายเกลื่อนคอก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สระบุรี130163 เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม สุดเสียใจ เห็นวัวล้มตายเกลื่อนคอก ด้วยโรคระบาดปากเท้าเปื่อย

 

 

           วันที่ 13 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่หลังทราบข่าวว่ามี โคนมเป็นโรคระบาดปากเท้าเปื่อย ตายกันร่วม 100 ตัว แทบทุกบ้านที่เลี้ยงโคนม ที่ หมู่ 18 ต.ลำพญากลาง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี  พบชาวบ้านผู้เลี้ยงโคนมบางคน บอกว่า รู้สึกเสียใจมากเมื่อต้องเห็นวัวที่เลี้ยงไว้ขาดใจตายลงต่อหน้าต่อตา โดยที่ยังไม่รู้สาเหตุที่ชัดเจน แต่สันนิษฐานว่าเป็นโรคปากเท้าเปื่อย ซึ่งเคยระบาดหนักมาแล้วในพื้นที่ ต.ลำพญากลาง เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว  จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นมาตรวจสอบและแก้ไขปัญหาดังกล่าว และรวมถึงให้คำแนะนำกับผู้เลี้ยงโคนม สร้างความเข้าใจ ร่วมกันต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น  และในวันนี้ เกษตรกรที่เลี้ยงโคนม ที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดปากเท้าเปื่อย จำนวนนับ 10 คน เตรียมเดินทางเข้ากรุงเทพเพื่อยื่นหนังสื่อต่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้หาทางช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมเป็นการด่วน 

เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม สุดเสียใจ เห็นวัวล้มตายเกลื่อนคอก

เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม สุดเสียใจ เห็นวัวล้มตายเกลื่อนคอก

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้พบ นาย ศรีพนม สวาทกลาง อายุ 60 ปี ผู้เลี้ยงโคนม หมู่18 ต.ลำพญากลาง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี  เล่าให้ฟังว่า ตนเองเคยทำไร่ข้าวโพดแต่รายได้ไม่ดี จึงหันมาเลี้ยงโคนมตั้งแต่ พ.ศ.2527  จนถึงปัจจุบัน ได้มีวัวเลี้ยงอยู่ร่วม 250 กว่าตัว  มีบริเวณเลี้ยงประมาณ 30 ไร่ พร้อมที่อยู่อาศัย จนมาถึงวันที่ 2 ธันวาคม 2562   เริ่มมีวัวไม่สบาย ซึ่งน่าจะติดโรคระบาดปากเท้าเปื่อย แทบกันทุกบ้าน ใน ต.ลำพญากลาง  และบางวันล้มตายกันวันละ  4-5 ตัว   ตนเองได้ช่วยดูแลและฉีดยา ช่วยทุกอย่าง แต่ก็ช่วยไม่ได้ จนกระทั้งวัวได้ล้มตายกัน เป็นจำนวน 19 ตัว เป็นจำนวนเงิน 6 แสนกว่าบาท  ซึ่งทำให้ตนเองเสียใจ วัวที่ตายเป็นตัวเมียที่มีราคาถึง 5 หมื่นบาท แต่ต้องกับมาขายในราคาที่ต่ำ ส่วนตัวผู้ขายได้ 1-2 พันบาท และตัวเมียที่ท้องก็ได้ประมาณ 7-8 พันบาท แต่ก็ไม่คุ้มกับค่าเลี้ยงดู จากการที่รีดนม ตามปกติทุกวันจะรีดได้ ตัน 3 ต่อวัน แต่พอติดโรคระบาด ลดเหลือ 360 กิโลกรัมต่อวัน  ที่จะเอาไว้ขายวันต่อวัน แต่ตอนนี้ทั้งหมดเหลือนมอยู่แค่ 800 กิโล    ส่วนผู้ที่มาซื้อนมถ้ารู้ว่า บ้านไหนติดเชื้อโรคระบาดปากเท้าเปื่อย ก็จะใช้วิธีนำยามาตรวจแกว่งในนม ถ้าน้ำนมเหนียวเป็นเม็ด เขาก็ไม่รับซื้อ เขาถือว่าเป็นโรคปากเท้าเปื่อย ก็ต้องนำน้ำนมดังกล่าวไปทิ้ง แต่ถ้านมดีเขาก็รับซื้อไป  ส่วนวัวที่ตายของชาวบ้าน ที่ ต.ลำพญากลางทั้งหมด 56 ตัว  ได้ขายให้กับผู้รับซื้อ

เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม สุดเสียใจ เห็นวัวล้มตายเกลื่อนคอก

 

ซึ่งตนเองก็อยากให้รัฐบาลเข้ามาช่วยซื้อวัวที่ตายแล้ว ของผู้เลี้ยงโคนม  ถ้าไปขายให้โรงฆ่าสัตว์ และโรงฆ่าสัตว์เอาไปขายเนื้อต่อ มันจะมีปัญหาการบริโภคกับประชาชนที่ซื้อไป แต่คนซื้อเขาเต็มใจซื้อ ตนก็ต้องจำใจขาย หากครั้งหน้าเกิดโรคระบาดตนก็อยากให้รัฐบาลเป็นผู้ซื้อ แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะต้องลงพื้นที่ไป ที่ หมู่ 18 ต.ลำพญากลาง อ.หมวกเหล็ก จ.สระบุรี เพื่อจะปูพรหมแก้ไขปัญหาโรคระบาดปากเท้าเปื่อยให้หมดสิ้นไป จึงขอความร่วมมือจากผู้ที่เลี้ยงโคนมทุกคนให้ช่วยเหลือตามที่เจ้าหน้าที่บอก

เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม สุดเสียใจ เห็นวัวล้มตายเกลื่อนคอก  

ภาพ/ข่าว เกียรติยง อัศวราศี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สระบุรี

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ