ผบช 2 ระบุ1-2 วันนี้ปิดคดีอุ้มเรียกค่าไถ่นักธุรกิจสิงคโปร์
จากกรณีที่นักธุรกิจหนุ่มชาวสิงคโปร์ โดนแก๊งเพื่อนชาวต่างชาติ อุ้มเรียกค่าไถ่ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 9 ม.ค. จากจังหวัดฉะเชิงเทรา แล้วผู้เสียหายสามารถหลบหนีออกมาได้จากพื้นที่ อ.องครักษ์ จ.นครนายก ก่อนที่นายมาร์ค เชง ผู้เสียหาย อายุ 33 ปี สัญชาติสิงคโปร์ ประกอบธุรกิจด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ สร้างแอพพลิเคชั่นสตาร์ทอัพ จะเดินทางเข้าแจ้งความ ระบุว่าถูกนายคิม ไม่ทราบนามสกุล เพื่อนชาวสิงคโปร์ที่เพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่นาน อุ้มตัวไปเรียกค่าไถ่เป็นจำนวน 1 ล้านบาท โดยมีผู้ต้องหาชาวไทยที่มีชื่อถูกเชื่อมโยงอีกหลายคน 1 ในนั้นคือนายชาโน แพมเบอร์เกอร์ ดารานักแสดง ช่อง 3 ที่เป็นเจ้าของรถที่ พานายมาร์ค เชง ผู้เสียหาย ขึ้นรถไปพาไปขังไว้ในห้องพักกลางป่า และยังบังคับให้โอนเงินเข้าบิทคอยน์จำนวนหลายล้านดอลล่าร์ แต่เมื่อตนขัดขืนก็ถูกทำร้ายร่างกายและขู่จะฆ่าตนให้ตาย ก่อนที่นายมาร์ค เชง ผู้เสียหาย จะหนีรอดออกมาได้
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (12 ม.ค.62 ) เวลา 17.00 น. พล.ต.ท. มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ได้เดินทางมาติดตามคดีดังกล่าวยังสถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทราอีกครั้ง เปิดเผยว่า วันนี้มีความคืบหน้าในทางคดีเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตรวจค้นบ้านของผู้ต้องสงสัยรายหนึ่ง และพบพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่เชื่อมโยงในคดีดังกล่าวค่อนข้างมาก อาทิ อุปกรณ์ต่างๆ ที่มีการเตรียมการไว้ เพื่อจับกุมผู้เสียหายไปเรียกค่าไถ่ อย่างชัดเจน โดยชนวนเหตุความขัดแย้งหลังจากชุดสืบสวนภูธรเมืองฉะเชิงเทรา ได้สอบปากคำผู้ต้องหาไปเมื่อวานนี้ ประเด็นยังคงเป็นเรื่องของความขัดแย้งทางด้านธุรกิจ สกุลเงินบิทคอย ที่มีการโอนผ่านกันไปมา
ซึ่งเรื่องนี้ตนเอง ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ชาคริต สวัสดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ทำการสืบสวนในเรื่องของ อิเล็คทรอนิค ทั้งระบบต่างๆ ของการเงิน เรื่องของชาวต่างชาติสิงค์โปร์ ที่นำเงินมา ซึ่งคาดว่าน่าจะทราบผลที่ชัดเจนภายใน 1-2 วันนี้ พร้อมกันนี้จากสอบสวนยังทราบว่า มีผู้ร่วมขบวนการนี้ไม่ต่ำกว่า 3 คน เป็นทั้งคนไทยและชาวสิงค์โปร์ ตามพยานวัตถุต่างๆที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มา ส่วนกรณีที่นายชาโน แพมเบอร์เกอร์ ดารานักแสดง ช่อง 3 เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องนั้น อาจจะ ไม่ทราบถึงการก่อเหตุของผู้ต้องหา หรืออาจจะถูกหลอกให้ขับรถมารับ ซึ่งต้องเชิญตัวมาสอบสวน รวมทั้งตรวจสอบพยานวัตถุ และพยานอิเล็คทรอนิค ถ้าหากมีความเชื่อมโยงก็ต้องถูกดำเนินคดี ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมผู้ต้องหาได้แล้วบางส่วน และมั่นใจในคณะทำงานพนักงานสอบสวนว่า คดีนี้จะจับกุมผู้ต้องหาได้ และติดตามทรัพย์สินที่หายคืน เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย
สราวุฒิ บุญสร้าง ผู้สื่อข่าวภูมิภาคฉะเชิงเทรา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง