
แม่ผู้เสียชีวิต เปิดใจหลังถูกลูกเลี้ยงปลิดชีพ
แม่ผู้เสียชีวิต เปิดใจหลังถูกลูกเลี้ยงปลิดชีพ
สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 8 ม.ค.63 พ.ต.ท.คมเดช สุวรรณชาติ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ภูหลวง จ.เลย ได้รับแจ้งจากนายสุรสิทธิ ช่างคำ อายุ 24 ปี ว่า ตนเองได้ยิงและแทงพ่อเลี้ยงจนเสียชีวิต ที่หน้าบ้านเลขที่ 20 หมู่ 10 ต.ภูหอ อ.ภูหลวง จ.เลย เมื่อรับแจ้งได้ประสานไปยังแพทย์ รพ.ภูหลวง กู้ภัยสว่างคีรีธรรม จุดภูหลวง และชุดสืบสาวน เดินทางไปที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตสภาพนอนหงายจมกองเลือด อยู่หน้าบ้านใกล้ต้นไม้ สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้นสีเทา ถูกยิงด้วยอาวุธปืนแก๊ปเข้าที่กลางกระหม่อม 1 นัด และถูกปาดคอด้วยมีพร้าที่คอ 1 แผล ชื่อนายสิริวงค์ ภาณุรักษ์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านวังประทุม ต.เอราวัณ อ.เอราวัณ จ.เลย มีนายสุรสิทธิ ช่างคำ อายุ 24 ปี ลูกเลี้ยงผู้ตายยืนรอมอบตัวพร้อมอาวุธปืนแก๊ปและมีดพับที่ใช้ก่อเหตุ จึงได้นำตัวมาสอบสวนที่ สภ.ภูหลวง ส่วนศพผู้ตายได้นำไปชันสูตรพลิกศพที่ รพ.ภูหลวง และช่วงเวลา 14.00 น. พงส.ได้นำตัวนายสุรสิทธิ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุ ใช้เวลา 15 นาที
มาวันนี้เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 ม.ค.2563 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านของผู้เสียชีวิต ที่ญาติได้นำมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านวังประทุม หมู่ 9 ต.เอราวัณ อ.เอราวัณ มีนางบานเย็น ภานุรักษ์ อายุ 63 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ลูกชายเป็นคนอารมณ์ร้อนก็จริง แต่จะร้อนกับคนที่ทำร้ายก่อนเท่านั้น ส่วนเรื่องที่ว่าลูกชายชอบทำร้ายร่างกายภรรยาประจำ เธอบอกว่าไม่เป็นความจริงเลย เพราะลูกชายของเธอเคยเล่าให้ฟังว่า ทะเลาะกับภรรยาบ่อยจริง แต่เกือบทุกครั้งภรรยาจะเป็นคนเริ่มก่อนตลอด รวมถึงเรื่องการทำร้ายร่างกาย ภรรยาก็เป็นคนเริ่มก่อน จึงทำให้บางครั้งลูกชายของเธออาจจะมีลงไม้ลงมือบ้าง
แต่ทุกครั้งที่ทั้งคู่ทะเลาะกันผ่านไปสักพักก็จะกลับมาคืนดีกันเหมือนเดิม เธอจึงไม่คิดว่าลูกเลี้ยงของลูกชายจะมาก่อเหตุใช้ปืนยิงจนเสียชีวิตแบบนี้ ซึ่งเธอบอกว่าเป็นการทำเกินกว่าเหตุเกินไป เนื่องจากควรที่จะใช้วิธีอื่นเข้าห้าม หรือพูดคุยกันดีดี ไม่ใช่มาทำอะไรแบบนี้ ทั้งนี้เธอยังบอกอีกว่าตอนนี้เธอไม่ได้รู้สึกโกธรแค้นภรรยา และลูกเลี้ยงของผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด เพราะส่วนตัวอยากอโหสิกรรมเพื่อจะให้ลูกชายไปสู่สุขติ แต่ก็รู้สึกเสียใจถ้าภรรยาของลูกชายไม่มาร่วมงานศพ และไม่พาหลานของเธอมาส่งพ่อเป็นครั้งสุดท้าย
สำหรับความคืบหน้าทางคดี พันตำรวจโทคมเดช สุวรรณชาติ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ภูหลวง เจ้าของคดี เปิดเผยว่า หลังจากสอบปากคำผู้ต้องก็ให้การสารภาพเป็นผู้ลงมือจริง จึงแจ้ง 5 ข้อหาคือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ยิงปืนในที่สาธารณะ พกพาอาวุธไปในที่ธารณะ และพกอาวุธมีดไปในที่สาธารณะ จะมีการนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลจังหวัดเลยในช่วงเที่ยงวันนี้
ภาพ/ข่าว บุญชู ศรีไตรภพ นักข่าวภูมิภาค จ.เลย