ข่าว

พ่อร่ำไห้แทบขาดใจ โผกอดศพลูกชายวัย 18 ปีไม่ยอมห่าง

พ่อร่ำไห้แทบขาดใจ โผกอดศพลูกชายวัย 18 ปีไม่ยอมห่าง

29 ธ.ค. 2562

พ่อร่ำไห้แทบขาดใจ โผกอดศพลูกชายวัย 18 ปีไม่ยอมห่าง

(29 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 21.30 น.กลาคืนที่ผ่านมา (28 ธ.ค.) ร.ต.อ.ธวัชชัย ศรีใหม่ รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุรถ จยย.ชนกับรถยนต์กระบะบนถนนเลียบทางรถไฟ ท้องที่หมู๋ 6 ต.มะม่วงสองต้น  อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ทำให้มีผู้เสียชีวิตคาที่ 1 ศพ รับแจ้งแล้วจึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.อภิชาต คชเวช รอ ผกก.(สอบสวน) เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยประชาร่วมใจ รีบรุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ท่ามกลางไทยมุงที่แห่มามุงดูเหตุการณ์นับร้อยคน

            บนถนนฝั่งเลนขาเข้าเมืองพบถยนต์กระบะยี่ห้อเชฟโรเลต ตอนครึ่ง สีบอนซ์เงิน ทะเบียน ผจ-1203 นครศรีธรรมราช กระจกหน้าติดสติกเกอร์ “ STauto Sound Hatyai” ด้านหน้าขวาพังเสียหายยับเยิน ดวงไฟแตกกระจายไปที่บริเวณ  ห่างออกไปประมาณ 20 เมตรพบศพนายอธิภัทร์ ดำบาน หรือ “มอส” อายุ 18 ปี 17/3 หมู่ 6  ต.มะม่วงสองต้น อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ไม่ไกลจากจุดที่เกิดเหตุมากนัก  นอนหงายบนพื้นถนนฝั่งขาเข้าตัวเมืองนครศรีธรรมราช สภาพศพคอหัก ศราะแตก แขนขาหักเละ ห่างจากศพประมาณ  40 เมตรพบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีดำ ทะเบียน คขจ-185 นครศรีธรรมราช ล้มคว่ำอยู่ริมถนนฝั่งขาออกเมือง สภาพพังเสียหายเป็นเศษเหล็ก โดยมีเศษวัสดุ ชิ้นส่วนทั้งของรถยนต์และรถ จยย.ฉีกขาดแตกหักตกกระจายเกลื่อนถนน

พ่อร่ำไห้แทบขาดใจ โผกอดศพลูกชายวัย 18 ปีไม่ยอมห่าง

พ่อร่ำไห้แทบขาดใจ โผกอดศพลูกชายวัย 18 ปีไม่ยอมห่าง

 

ในขณะที่เจ้าหนาที่ตำรวจทำแผนที่ในที่เกิดเหตุและรอแพทย์ รพ.เวร รพ.มหาราชเดินทางมาร่วมชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้ที่หน่วยกู้ภัยจึงได้นำผ้าห่อศพมาคลุมปิดศพไว้เพื่อป้องกันการอุจาดตา เนื่องจากมีผู้คนมามุ่งดูเป็นจำนวนมาก และมีรถขับผ่านไปมาตลอดเวลา ในขณะนั้นได้มีชายวัยประมาณ 50 ปี (ขอสงวนชื่อ)เดินเข้ามาเปิดดูศพก่อนจะทรุดลงนั่งบนพื้นถนนกอดศพร้องห่มร้องให้ ทราบในเวลาต่อมาว่าชายคนดักล่าวเป็นพ่อของผู้ตาย ได้นั่งกอดศพร้องให้คร่ำครวญไม่ยอมห่างศพ และพยายามดึงมือศพลูกชายขึ้นมาจูบเป็นที่น่าเวทนาแก่ผู้พบเห็น จนเวลาผ่านไปประมาณ 20 นาที แพทย์เวร รพ.มหาราช จึงเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่จึงให้ญาติ ๆ เข้าไปนำชายคนดังกล่าวออกจากศพเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และแพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างสะดวก ก่อนมอบศพให้ญาติ ๆ นำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

            พ่อของผู้ตาย กล่าวว่า น้องมอส บุตรชายเป็นนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคนครศรีธรรมราช ชั้น ปวช.2 กำลังจะขึ้นชั้น ปวช. 3 ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ก่อนเกิดเหตุน้องมอส และเพื่อน ๆ ได้มีการจัดงานวันเกิดให้น้องชาย โดยสั่งหมู่กระทะมารับประทานกันที่บ้านตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ จากนั้นน้องมอส ได้มาขออนุญาตตนว่าจะชวนกันไปเที่ยวห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพล่าซ่า นครศรีธรรมราช และบอกว่า “พ่อผมไปเที่ยวแป๊บเดียวกลับ” ก่อนจะพากันขับรถ จยย.หลายคันตามหลังกันออกมาจากบ้าน จนกระทั้งมีเพื่อนบ้านโทรศัพท์ไปบอกว่าน้องมอสประสบอุบัติเหตุรถ จยย.ชนประสานงากับรถยนต์กระบะในบริเวณดังกล่าว ตนจึงรีบเดินทางมายังที่เกิดเหตุเมื่อพบศพลูกชายนอนเสียชีวิตกลางถนนมันเหมือนหัวใจของตนเองหลุดลอยไปด้วย หมดเรี่ยวแรง ทรุดกองกับพื้นถนนกอดศพน้องมอสร้องให้คร่ำครวญอย่างสุดรักสุดอาลัยดังกล่าว และเรื่องการขับรถ จยย.กับเด็กวัยรุ่นสมัยนี้มันอันตรายจริง ๆ อย่างน้อยการจากไปของน้องมอสก็น่าจะเป็นอุทาหรณ์เตือนใจพ่อแม่รวมทั้งวัยรุ่นทั้งหลายที่ชอบขับรถ จยย.ซิ่งด้วยความเร็วได้เป็นอย่างดี

 

พ่อร่ำไห้แทบขาดใจ โผกอดศพลูกชายวัย 18 ปีไม่ยอมห่าง

พ่อร่ำไห้แทบขาดใจ โผกอดศพลูกชายวัย 18 ปีไม่ยอมห่าง

ในขณะที่นายเล็ก (นามสมมุติ ) อายุ 17 ปีเพื่อนของนายอธิภัทร์ หรือ มอส ผู้ตายกล่าวว่าหลังจากร่วมรับประทานหมูกระทะฉลองวันเกิดน้องชายของนายอธิภัทร์ หรือ มอส ผู้ตายแล้วได้ชวนกันไปขับรถ จยย.ไปเที่ยวแถวหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่า โดยขับตามหลังกันมา 4-5 คัน มีเพื่อนคนหนึ่งขับนำหน้า นายอธิภัทร์ หรือ มอส เป็นคันที่ 2 และตนเป็นคันที่ 3 เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุมีรถยนต์กระบะวิ่งอยู่ข้างหน้า 1 คันเพื่อนคันหน้าสุดเร่งเครื่องขับแซงผ่านไปได้ ในขณะที่นายอธิภัทร์ หรือ “มอส” และตนก็เร่งเครื่องตามขึ้นมาเพื่อจะแซงรถยนต์ที่วิ่งอยู่ข้างหน้าเช่นกัน เป็นจังหวะเดียวกันรถยนต์กระบะคู่กรณีวิ่งสวนทางมาด้วยความเร็วสูงนายอธิภัทร์ หรือมอส ที่ขับแซงขึ้นไปเห็นว่าคงแซ.ไม่พ้นจึงตัดสินใจเบรกอย่างกระทันหันจนรถ จยย.หมุนส่วนท้ายฟาดออกกินเลนขวาจึงถูกรถยนต์กระบะคู่กรณีพุ่งชนเข้าบริเวณด้านท้ายอย่างจังจนรถ จยย.หมุนคว้างกระเด็นไปหลายตลบ นายอธิภัทร์ หรือมอส พลัดตกจากรถเสียชีวิตคาที่ โดยโชคดีที่ตนเบรกได้ทันอย่างหวุดหวิด

            ผู้สื่อข่าวรายงานว่าต่อมาคนขับรถยนต์กระบะได้เดินทางเจ้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนที่ สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยให้การในเบื้องต้นว่ากำลังขับรถเข้าเมืองนครศรีธรรมราช เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุได้มีรถ จยย.ขับ  ซิ่งแข่งกันมาด้วยความเร็วสูงและเร่งเครื่องแซงรถยนต์ที่วิ่งอยู่ด้านหน้าก่อนจะเสียหลักกินเลนขวาเข้ามาอย่างกระชันชิดจนตนเบรกไม่ทันพุ่งชนอย่างจังดังกล่าว ส่วนที่ต้องหลบหนีจากที่เกิดเหตุเนื่องจากเกรงว่าจะถูกญาติ ๆ ของผุ้เสียชีวิตบันดาลโทสะทำร้ายร่างกายเอาได้ จึงต้องเลี่ยงหลบหนีออกมาเสียก่อนและเดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุเบื้องต้นจากร่องรอยการชนว่ารถ จยย.น่าจะขับกินเลนขวาเพราะมีร่องรอยจุดชนบนพื้นถนนอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวนจะได้สอบสวนรายละเอยดของเหตุการณ์รถชนกันในครั้งนี้อย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งนายอธิภัทร์ หรือมอส นับเป็นผู้เสียรายที่ 2 ในช่วง 7 วันอันตรายเทศกาลปีใหม่ จังหวัดนครศรีธรรมราช.

พ่อร่ำไห้แทบขาดใจ โผกอดศพลูกชายวัย 18 ปีไม่ยอมห่าง

 

 

พ่อร่ำไห้แทบขาดใจ โผกอดศพลูกชายวัย 18 ปีไม่ยอมห่าง

ภาพ/คลิป  ศูนย์ข่าวนคร ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช

ยุทธนะ  เตมะศิริ นครศรีธรรมราช