ตร.ส่งตัวเสี่ยไฮ้พร้อมลูกน้องคนสนิทไปศาลจังหวัดสระบุรี
วันที่ 26 ธันวาคม 2562 เวลา 09.40 น. ณ สถานีตำรวจภูธรเมืองสระบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสระบุรี ได้นำตัว นายสันติ หรือเสียไฮ้ จึงทองดี อายุ 62ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสระบุรี ที่ 299/2562 ลง 24 ธันวาคม 2562 ผู้ต้องหาที่ 2 นายนิวัฒน์ หรือแจ็ค เฉลิมวัฒน์ อายุ36ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสระบุรี ที่ 297/2562 ลง 24 ธันวาคม 2562 นำตัวส่งส่งศาลจังหวัดสระบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำ 2 ผู้ต้องหาออกจากห้องขัง โดยใส่กุญแจมือแล้วนำขึ้นรถก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา โดยนำส่งศาลจังหวัดสระบุรี
เนื่องจากตามนโยบายรัฐบาลในการปราบปรามอาชญากรรมและผู้มีอิทธิพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , พลตำรวจเอกชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , พลตำรวจเอกสุขาติ ธีระสวัสติ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , พลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งขาติ และ พลตำรวจโทวิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตำรวจภูธรภาค 1 ภายใต้การอำนวยการของ พลตำรวจโทอำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 1 , พลตำรวจตรีเอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และ พลตำรวจตรี ธนายุตม์ วุฒิจรัสรงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ภายใต้การอำนวยการของ พลตำรวจตรีสุภธีร์ บุญศรอง ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 , พันตำรวจเอกชยานนท์ มีสติ รองผู้บังคับการสืบสวน
สอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 , พันตำรวจเอกอภิชาติ วรรณภักดิ์ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 พันตำรวจเอกเลิศชาย จำปาทอง รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 พันตำรวจเอกวรชาติแสนคำ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 และ พันตำรวจเอกวิศิษฏ์ มะอักษร ผู้กำกับการ สืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี ภายใต้การอำนวยการของ พลตำรวจตรีชัยน์วัฒน์ อรัญวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูรจังหวัดสระบุรี, พันตำรวจเอกอมร ศรีทุนะโยธิน รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี, พันตำรวจเอกกิตติสุขสมภักดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูรจังหวัดสระบุรี, พันตำรวจเอกคณบดี เลิศอมรศักดิ์ ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี, พันตำรวจเอกกฤติเดช จันทร์เพร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหนองโดน และ พันตำรวจเอกพารินท จันทร์เลิศ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพระพุทธบาท ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา จำนวน 2 คนได้แก่ ผู้ต้องหาที่ 3 นายสันติ หรือเสียไฮ้ จึงทองดี อายุ 62ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสระบุรี ที่ 299/2562 ลง 24 ธันวาคม 2562 ผู้ต้องหาที่ 2 นายนิวัฒน์ หรือแจ็ค เฉลิมวัฒน์ อายุ36ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสระบุรี ที่ 297/2562 ลง 24 ธันวาคม 2562
ข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย , ร่วมกันทำให้เสียหาย เคลื่อนย้าย ทำลาย ทำให้เสื่อมคำหรือทำให้ไร ประโยชน์ซึ่งศพ ส่วนของศพ โดยไม่มีเหตุอันสมควร , ร่วมกันกระทำการใดๆแก่ศพในประการที่นำจะทำให้การ ซันสูตรพลิกศพหรือผลทางดตีเปลี่ยนแปลงไปเพื่ออำพลางคดี โดยจับกุมตัวได้ช่วงบ่ายของวันที่ 24 ธันวาคม 2562 บริเวณในบริษัท ห้าตาวเคมีภัณฑ์ จำกัด ตำบลพระพุทธบาท อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ผู้ต้องหาทั้งสองนายขอให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาพฤติการณ์กล่าวคือ ด้วยเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2559 นางลั่นทม วงษ์สิงห์ อายุ 57ปื ได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรพระพุทธบาท แจ้งความคนหายเพื่อติดตามตัว นางสาวกลิ่นกษร วงษ์สิงห์ อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นบุตรสาวของตนได้หายตัวไป ไม่สามารถติดต่อได้ตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน 2559
ต่อมาเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2562 ช่วงเช้ามีพลเมืองตีแจ้งเหตุให้พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรหนองโดนว่า มีเหตุพบรถยนต์จมน้ำอยู่กลางคลองชลประทาน ชัยนาท - ปสัก ตำบลบ้านโป้ง อำเภอหนองโดน จังหวัดสระบุรี จึงได้แจ้งผู้บังคับบัญชาทราบและเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถยนต์เก๋งจมอยู่กลางคลองชลประทาน ชัยนาท – ป้าสักตรวจสอบเบื้องตัน พบ หมายเลขทะเบียนที่ติดป้ายค้นหลัง 7ธ 6ต48 กรุงเทพมหานคร ภายในรถยนต์ พบ ดินโคลน ,ผ้าปูที่นอนห่อโครงกระดูกมนุษย์ ซิลิโคน ,เสื้อผ้า เอกสารและบัตรพร้อมสิ่งของต่างๆ เป็นจำนวนหลายรายการผลการตรวจพิสูจน์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้ตรวจพิสูจน์รูปแบบสารพันธุกรรม(DNA) พบว่าชิ้นส่วนโครงกระดูกมนุษย์ที่พบในรถจมน้ำเทียบกับนางลั่นทมฯ (มารดของนางสาวกลิ่นเกษร) มีความสัมพันธ์เป็นมารดาและบุตรกันตามหลักการถ่ายทอดพันธุกรรม99.995% ผลการตรวจสอบรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวปราก ฎชื่อ นางสาวกลิ่นเกสรฯ เป็นผู้ครอบครองรถยนต์ ซิลิโคน , เสื้อผ้าและเอกสารรวมทั้งบัตรต่างๆ ที่ระบุเป็นของนางสาวกลิ่นเกษรฯ อยู่ภายในรถ จึงยืนยันได้ว่าโครงกระดูกที่พบในรถคือนางสาวกลิ่นเกสรฯ และจากการสืบสวนสอบสวนทำให้ทราบข้อเท็จจริงว่า นางสาวกลิ่นเกษรฯ ผู้ตายได้คบหาเป็นสามีภรรยากับนายสันติฯ ต่อมาภายหลังได้มีเหตุขัดแย้งทเลาะวิวาทกันเรื่องความหึงหวงแล้วหายตัวไป จึงนำภาพกล้องวงจรปิดและสอบปากคำพยานบุคคลต่างๆ ทำให้เชื่อว่านำจะถูกฆาตกรรมโดยใช้ผ้าปูที่นอนในออฟฟิศภายในบ้านของนายสันติฯ มัดพันห่อศพผู้ตายไว้ โดยไม่ทราบวิธีที่ทำให้ตายที่แน่ซัด แล้วนำศพผู้ตายมาทิ้งเพื่ออำพรางคดี คณะพนักงานสืบสวน สอบสวนจึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานเสนอต่อศาลจังหวัดสระบุรีขออนุมัติหมายจับนายสันติๆ และนายนิวัฒน์หรือแจ็ค ซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทของนายสันติฯ เป็นผู้ร่วมกระทำความผิดและสามารถติดตามจับกุมตัว ได้ทั้งนี้ ตำรวจภูธรภาค ๑ จะได้ทำการสืบสวนขยายผลดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป พร้อมทั้งยืนยันว่า จะดำเนินมาตรการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและอาชญากรรมอย่างจริงจังและต่อเนื่องเพื่อให้พื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 1 เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาขนอย่างสุดความสามารถตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต่อไป
เกียรติยง อัศวราศรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สระบุรี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง