ข่าว

แม่ร่ำไห้หนัก ลูกชายซิ่งจยย.ชนเสาไฟฟ้าดับ

แม่ร่ำไห้หนัก ลูกชายซิ่งจยย.ชนเสาไฟฟ้าดับ

16 ธ.ค. 2562

หนุ่มวัย 18 ปีขับรถชนเสาไฟดับคาที่ แม่ใจสลายหลังทราบข่าว เตือนไม่รู้จักจำว่าแล้วสุดท้ายต้องจบชีวิตแบบนี้

เมื่อเวลา 06.40 น. ของวันที่ 16 ธันวาคม 2562 ร.ต.อ.ณัฐวุฒิ มณีกาศ พนักงานสอบสวน สภ.พระธาตุช่อแฮ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เหตุรถจักรยานยนต์ชนเสาไฟฟ้า มีผู้เสียชีวิต บริเวณ ถนนเชื่อมหมู่บ้านหัวฝาย ต.กาญจนา กับบ้านดง ม.4 ต.สวนเขื่อน จึงประสานสายตรวจตำบลสวนเขื่อน ร่วมกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากสมาคมอาสาสมัครกู้ภัยจังหวัดแพร่ ร่วมตรวจสอบ

แม่ร่ำไห้หนัก ลูกชายซิ่งจยย.ชนเสาไฟฟ้าดับ

 

แม่ร่ำไห้หนัก ลูกชายซิ่งจยย.ชนเสาไฟฟ้าดับ

 

 

          เมื่อไปถึงบริเวณที่เกิดเหตุพบชาวบ้านจำนวนมากมุงดู บริเวณริมถนนพื้นที่ม.4 บ้านดง ต.สวนเขื่อน อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอลด้า สีดำสภาพด้านหน้าพัง ล้มอยู่และมีร่างผู้เสียชีวิต นอนถูกรถทับอยู่ ต่อมาทราบชื่อคือ นายชยาทิต  ทองชู อายุ 18 ปี บ้านเลขที่ 59/1 ม.3 ต.สวนเขื่อน อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ นอนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

สอบถามนางยวง  ละฝาย อายุ 71 ปี ชาวบ้านอยู่บ้านใกล้และพบศพ เล่าว่า เมื่อคืนเวลาประมาณ ตี 1 ได้ยินเสียงรถขับมาด้วยความเร็ว เหมือนกับว่าชนอะไรสักอย่าง จากนั้นก็มีเสียงสุนัขเห่า จึงคิดว่าน่าจะรถชนแต่ด้วยดึกแล้วจึงไม่ได้ออกมาดู ต่อมาเมื่อเช้าตนไปตลาด เห็นพ่อค้าขายหวยมุงดูจึงเดินเข้ามาดูก็พบว่ามีรถชนจริงจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191

 

แม่ร่ำไห้หนัก ลูกชายซิ่งจยย.ชนเสาไฟฟ้าดับ

ทางด้านนางอริศรา  ทองชู แม่ของผู้เสียชีวิต หลังทราบข่าวการเสียชีวิตของลูกชายก็ขับขี่รถจักรยานยนต์มาดูด้วยความโศกเศร้า และเสียใจ และบ่นว่า บอกแล้วสักวันลูกจะต้องอยู่ในสภาพแบบนี้ เพราะบอกไม่รู้กี่ครั้งเรื่องการขี่รถเร็ว และได้เล่าว่าเมื่อคืนเวลาประมาณ ตี 1 กว่าได้มีคนโทรศัพท์โทรเข้าเบอร์ตนเองถามว่าลูกชายเข้าบ้านแล้วหรือยังเพราะสลับรถของตนซึ่งตนก็พยามยามติดต่อลูกไม่ได้ โดยล่าสุดติดต่อครั้งสุดท้ายเวลาประมาณ 18.00 น. ว่าจะเข้าบ้านเลยไหม จะได้ทำแซนวิสให้ แต่เข้าบอกว่า ยังไม่รู้จะเข้าบริษัทที่ทำงานก่อน จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่ออีกเลย เพราะติดต่อไม่ได้ สำหรับรถที่ชนนั้นก็ไม่ใช่รถของเขาเอง เป็นของคนอื่นที่ขับมาผิดเพราะคาดว่าลักษณะรถเหมือนกัน เสียบกุญแจเปิดได้คงขับออกมาเลย 

 

 

 ทางด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างของผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรที่รพ.แพร่ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง ในที่เกิดเหตุตรวจสอบพบร่องรอยการเกิดเหตุเป็นทางยาวประมาณ  5 เมตรก่อนถึงจุดเกิดเหตุ คาดว่าจะขับรถเสียหลักประกอบกับบริเวณจุดดังกล่าว ไม่มีไฟส่องสว่าง มืดมากเวลาตอนกลางคืน ซึ่งบริเวณจุดดังกล่าวเคยมีผู้เสียชีวิตในลักษณะเดียวกันนี้ 1 ราย และได้ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุไม่มีทรัพย์สินทางราชการเสียหาย และเป็นที่น่าเสียใจ รถจักรยานยนต์ที่เกิดเหตุ ประกันภัย พรบ.ขาดได้ ประมาณ 1 เดือน จึงอยากประชาสัมพันธ์ถึงความสำคัญของ พรบ.รถ หากเกิดเหตุ อาจเป็นอีก 1 ตัวช่วย สำหรับท่านและครอบครัวหรือคู่กรณีได้ อีกด้วย

ภาพ/ข่าว กัญญสร ถิ่นทิพย์ นักข่าวภูมิภาค จ.แพร่