พบชิ้นส่วนโครงกระดูกเพิ่ม ใกล้กับเก๋งของเซลล์สาวจมน้ำ3ปี

วันที่ 14 ธ.ค. 62  เวลา 11.00 น. ที่ สภ.หนองโดน จ.สระบุรี  พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค1 พร้อม พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ภาค1 และตำรวจจากกองปราบปราม พิสูจน์หลักฐาน ชุดสืบสวน จ.สระบุรี ร่วมประชุมที่ สภ.หนองโดน โดยมี พ.ต.อ.อมร ศรีทุนโยธิน พ.ต.อ.กิตติ สุขสมภักดิ์ ( 2) รองผู้บังคับการตำรวจภูธรสระบุรี  ผกก.สภ.หนองโดน  ผกก.สภ.พระพุทธบาท  พนง.สอบสวนตำรวจภูธร จ.สระบุรี เจ้าของคดี ร่วมประชุม เพื่อเร่งรัดติดตามคดีที่พบโครงกระดูกในซากรถเก๋ง โดยมีเอกสารระบุชื่อ น.ส.กลิ่นเกษร วงษ์สิงห์ ชาว จ.ชัยนาท เป็นบุคคลที่ระบุแจ้งหายไว้ ตั้งแต่ 13 พ.ย. 59 ที่ สภ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี

        ขณะที่ประชุม กำลังตำรวจได้นำชุดประดาน้ำ ของมูลนิธิร่วมกตัญญู 6 คน ลงค้นหาจุดบริเวณที่พบรถจมน้ำ ในท้องที่ หมู่1 ต.บ้านโปร่ง อ.หนองโดน  พบโครงกระดูกมนุษย์จมใต้โคลนในรัศมีที่รถจมน้ำไม่เกิน 2 เมตร น้ำลึกประมาณเมตรเศษ จึงช่วยกันเก็บชิ้นส่วนโครงกระดูก พบเป็นส่วนซี่โครงด้านหลัง แขน และขา ซึ่งชิ้นส่วนขาเกินมา 1 ชิ้น  พบกางเกงชั้นในสตรี (จีสตริง) 1 ตัว  เสื้อยกทรงลายพราง 1 ตัว  สก๊อตเทปสีเขียวหน้ากว้าง 2 นิ้ว ยาวประมาณ 30 นิ้ว  สก๊อตเทปขนาดเดียวกันสีเทาทรงกลม มีเส้นขนมนุษย์สั้นๆติดอยู่ ปะปนอยู่ในโคลน พร้อมด้วยเครื่องปั๊มลม แม่แรง เศษผ้าขาวบางสี่เหลี่ยมผืนผ้าคล้ายผ้าปูโต๊ะมีคราบเลือดติดอยู่ 1 ผืน จึงรวบรวมเก็บไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งจากการพบโครงกระดูกมนุษย์ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ คาดว่าน่าจะมีโครงกระดูกมนุษย์มากกว่า 1 ราย  แต่ต้องรอผลพิสูจน์โดยละเอียดอีกครั้ง  ขณะนี้ จนท.จะลงค้นหาอีก 1 รอบ และรอ พล.ต.ต.ธนายุตม์ ออกจากห้องประชุมเพื่อตรวจจุดเกิดเหตุอีกครั้ง

       ต่อมาบ่ายวันเดียวกัน หลังเสร็จจากการประชุม  พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง รอง ผบช.ภ.1 พร้อมทีมงานได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อตรวจสอบโครงระดูกมนุษย์ และสิ่งของต่างๆ ที่มูลนิธิฯ ลงค้นหาในคลองชลประทานชัยนาท-ป่าสัก จุดที่พบรถและโครงกระดูกเมื่อ 4 วันก่อนเพิ่มเติม โดย รอง ผบช.ภ.1 ได้สั่งการให้พิสูจน์หลักฐานดำเนินการถ่ายภาพเก็บโครงกระดูกพร้อมสิ่งของอื่นๆ รวบรวมไว้เพื่อนำกลับไปตรวจสอบเพิ่มเติม เพื่อความสมบูรณ์ของคดี

       รอง ผบช.ภ.1 เปิดเผยว่าหลังการประชุมในวันนี้ ซึ่งได้มีการระดมทีมงาน ทั้งฝ่ายสืบสวน และสอบสวน ทั้งของ ภาค 1 และ ของ ภ.จว.สระบุรี กองปราบ พิสูจน์หลักฐาน นับว่ามีความคืบหน้ามากแล้ว ในชั้นนี้ตนได้ต่อสายตรง กับ อธิบดีสำนักนิติวิทยาศาสตร์เพื่อขอผลการตรวจ ดีเอ็นเอ ระหว่าง ผู้ตาย กับมารดา ขอผลเร่งด่วนซึ่ง ท่านอธิบดีได้รับปากว่า อีกราว 2 วันคงทราบผล ส่วนในวันนี้ ( 14 ธ.ค.62) อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้ให้ความร่วมมือจัดส่งชุดประดาน้ำมาลงงมค้นหาวัตถุพยานด้านอื่น เพิ่มเติมในจุดที่พบรถยนต์เก๋ง และซากโครงกระดูก และยังพบโครงกระดูกมนุษย์อีกจำนวนมาก ซึ่งพิสูจน์หลักฐานได้เก็บรวบรวมเพื่อนำส่งให้หมอตรวจเปรียบเทียบกับโครงกระดูกที่พบครั้งก่อนว่าใช่คน คนเดียวกันหรือไม่ และชิ้นส่วนมนุษย์ที่พบขนาดจะใหญ่กว่า ซึ่งคาดกันว่าผู้เสียชีวิตมากกว่า 1 คนนั้นเรื่องนี้พิสูจน์ได้ไม่ยาก

        ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังพบซากรถเก๋งและโครงกระดูกมนุษย์นานกว่า 4 วันมาแล้วทางตำรวจแจ้งเพียงว่า ต้องรอผลตรวจ ดีเอ็นเอ ก่อนว่าใช่ น.ส.กลิ่นเกษร ที่แจ้งหายไว้จริงหรือไม่ เท่านั้น จนถึงขณะนี้ คดีมีความคืบหน้าไปมากน้อยแค่ไหน ถึงขั้นเตรียมออกหมายจับได้หรือยัง และได้มีการเรียกผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นเสี่ย ที่อยู่กับผู้ตายเป็นคนสุดท้าย มาพูดคุยบ้าง หรือไม่  พล.ต.ต.ธนายุตม์ ตอบว่า คดีนี้มีตัวละครอยู่แล้ว ขณะนี้ได้เรียกผู้เกี่ยวข้องมาให้ปากคำไปแล้ว 5-6 คนส่วนจะเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไรนั้นอยู่ในสำนวนสอบสวน ส่วนจะเป็นใครนั้นเราต้องดำเนินการแน่นอนอยู่แล้ว ประเด็นต่างๆ แคบลงมากวันนี้ใช้เวลาประชุมกันนานกว่า 3 ช.ม.ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานอีกนิดหนึ่ง

ภาพ/ข่าว เกียรติยง อัศวราศี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สระบุรี