ข่าว

บุกมุดมุ้งจับ2ผัวเมียขายน้ำมะพร้าว โดน4ข้อหาหนัก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตำรวจมุดมุ้งบุกจับสองผัวเมียขายน้ำมะพร้าวเมืองคอน-ลูกสาวร้องจ้าหาพ่อแม่อย่างน่าสงสาร โดน4ข้อหาหนัก

 

 

                 จากกรณีที่นายวชิระ พูลช่วย  หรือบูม อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที 40/136 ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมญาติ ๆ เดินทางเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือจากศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช เนื่องจากนายวัชชิระ นำเด็ก ๆ ซึ่งเป็นญาติ ๆ และลูกหลานของคนในชุมชนอายุระหว่าง 12-17 ปีเดินทางไปขายน้ำมะพร้าวเพื่อหารายได้เสริมช่วยเหลือจุนเจือครอบครัวในช่วงปิดเทอมตามแหล่งชุมชนและแหล่งท่องเที่ยวใน จ.ภูเก็ต  แต่ถูกเจ้าหน้าที่ พม.จังหวัดภูเก็ตจับกุม โดยระบุว่าเป็นการค้ามนุษย์และใช้แรงงานเด็กโดยผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตามหลังจากคุมตัวตนพร้อมเด็ก จำนวน 5 คนส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.ภูเก็ต ทางพนักงานสอบสวนยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีกับตนและปล่อยตัวนายวัชชิระ มาชั่วคราวแต่ทางเจ้าหน้าที่ พม.ได้กัดตัวเด็ก ๆ ทั้ง 5 คนเอาไว้ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย.2562 ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

บุกมุดมุ้งจับ2ผัวเมียขายน้ำมะพร้าว โดน4ข้อหาหนัก

บุกมุดมุ้งจับ2ผัวเมียขายน้ำมะพร้าว โดน4ข้อหาหนัก

บุกมุดมุ้งจับ2ผัวเมียขายน้ำมะพร้าว โดน4ข้อหาหนัก

บุกมุดมุ้งจับ2ผัวเมียขายน้ำมะพร้าว โดน4ข้อหาหนัก

 

 

 

                    (11 พ.ย.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวานนี้ (10 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายจับบุกจับกุมนายวชิระ หรือบูม พูลช่วยพร้อมเมียที่บ้านพักในซอยปากโพธิ์ ชุมชนคูขวาง เขต 3 ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นชุมชนแออัดชาวบ้านปลูกบ้านอยู่บนที่คูเมืองเก่า ซึ่งเป็นสาธารณะ โดยจับกุมได้ในช่วงเช้าตรู่ในขณะที่ทั้งสองอยู่บ้านพร้อมลูกสาว 2 คน ๆ โตอายุ 3 ขวบ คนเล็กอายุ 9 เดือนและยังดื่มนมแม่อยู่  เจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายจับ ในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์และแรงงานเด็ก ฯรวม 4 ข้อหาหนัก พร้อมควบคุมตัวสองผัวเมียไปดำเนินคดีที่ สภ.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต โดยนายวชิระ ได้ชี้แจงว่าก่อนหน้านี้ได้รับหมายเรียกให้ไปพบพนักงานสอบสวน สภ.ป่าตอง ในวันที่ 11 พ.ย. 2562 ซึ่งในตอนสายของวันนี้ (10 พ.ย.) ตนและเมียนักก็เตรียมตัวเดินทางไปพบพนักงานสอบสวน แต่เจ้าหน้าที่กลับมีหมายจับบุกเข้าจับกุมตนถึงบ้านเสียก่อน

            โดยนายวชิระ พร้อมเมียรักซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับได้นำบุตรสาว 2 คนฝากไว้กับนางถวิล หิริพันธ์ อายุ 57 ปี และนายสมบัติ พูลช่วย อายุ 52  ซึ่งเป็นป้าและพ่อของนายวชิระ  โดยหนูน้อยทั้งสองร้องให้จ้าเป็นที่น่าเวทนาสงสารแก่เพื่อนบ้านที่มามุงดูกันเป็นจำนวนมากและวิพากวิจารณ์การที่สองผัวเมียถูกจับกุมในครั้งนี้อย่างกว้างขวาง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายวชิระ พร้อมเมียรักขึ้นรถยนต์ของเจ้าหน้าที่เดินทางมุ่งหน้าไป จ.ภูเก็ตต่อไป

            ต่อมาในช่วงเย็นของวันเดียวกัน (10 พ.ย.) นายสมบัติ นางถวิล และญาติ ๆ ได้มารวมตัวกันเพื่อเดินทางไป จ.ภูเก็ต โดยใช้รถยนต์ของญาติ ๆ จำนวน 2 คัน โดยนำลูกสาวทั้งสองคนของนายวชิระ ร่วมเดินทางไปด้วยคาดว่าจะถึง จ.ภูเก็ตประมาณเที่ยงคืนของวันเดียวกัน และจะพักบ้านญาติใน จ.ภูเก็ต เพื่อเข้าเยี่ยมนายวชิระ และเมียในเช้าวันที่ 11 พ.ย. 2562 ต่อไป

            นายสมบัติ พ่อของนายวชิระ เปิดเผยว่า เดิมนายวชิระ บุตรชายมีเมียและอาศัยอยู่ จ.ภูเก็ต มีลูกกับเมียคนแรก 2 คน หลังจากแยกทางเลิกรากันนายวชิระ จึงเดินทางกลับบ้านมาอาศัยอยู่กับตนและออกทำงานรับจ้างแบกกระสอบปูนลงจากรถบรรทุกร่วมกับตนและได้เมียใหม่จนมีลูกสาวอีก 2 คน นายวชิระ จึงหันมาขายน้ำมะพร้าวตามหน้าโรงเรียน ตลาดนัดและสถานบันเทิง จนมีพ่อแม่ ผู้ปกครองนำบุตรหลายมาฝากนายวชิระ ให้เด็กทำงานหารายได้มาจุนเจือครอบครัวด้วย เนื่องจากเด็ก ๆ ครอบครัวแตกแยก ฐานะยากจน และไม่ได้เรียนหนังสือโดยนายวชิระ ได้แบ่งรายได้ให้คนละ 100-200 บาท/วัน จนกระทั้งปิดเทอมนายวชิระ และภรรยา จึงเดินทางไปขายน้ำมะพร้าวที่ จ.ภูเก็ต ทางพ่อแม่ ผู้ปกครองเด็กในชุมชนได้มาขอร้องให้นายวชิระ นำเด็ก ๆ จำนวน 5 คน อายุ 12-17 ปี 8 เดือนไปขายน้ำมะพร้าวที่ จ.ภูเก็ตด้วยเพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัวที่ฐานะยากจนแร้นแค้น  ในจำนวนนี้มีหลานของนางจำปา แก้วคง อายุ 59 ปีอายุ 15 ปี 8 เดือน ที่ต้องหารายได้เพื่อสมัครเรีนต่อ กศน.ในช่วงเปิดเทอมรวมอยู่ด้วย นายวชิระ จึงตกลงนำเด็กทั้ง 5 คนไปชวยขายน้ำมะพร้าวให้ค่าจ้างวันละ 400 บาท และจะโอนเงินค่าจ้างให้กับพ่อแม่ ผู้ปกครองที่ จ.นครศรีธรรมราชอย่างต่อเนื่องและจะขายน้ำมะพร้าวที่ จ.ภูเก็ตคราวละ 10 วันและจะพากันกลับมาขายในจังหวัดนครศรีธรรมราช 7 วัน

บุกมุดมุ้งจับ2ผัวเมียขายน้ำมะพร้าว โดน4ข้อหาหนัก

บุกมุดมุ้งจับ2ผัวเมียขายน้ำมะพร้าว โดน4ข้อหาหนัก

บุกมุดมุ้งจับ2ผัวเมียขายน้ำมะพร้าว โดน4ข้อหาหนัก

บุกมุดมุ้งจับ2ผัวเมียขายน้ำมะพร้าว โดน4ข้อหาหนัก

 

 

                  “ตนไม่เข้าใจเรื่องการค้ามนุษย์ แต่ยอมรับว่านำเด็กไปช่วยขายน้ำมะพร้าวจริง เพราะต้องการชวยเหลือเด็ก ๆ และครอบครัว พ่อแม่ ผู้ปกครองเด็กเป็นผู้พามาฝากฝังและอนุญาตให้ทุกคนไปขายน้ำมะพร้าวกับนายวชิระ ไม่มีการกักขัง บังคับขู่เข็ญ ทุบตีทำร้ายร่างกายตามที่เจ้าหน้าที่ระบุเลย ทั้งหมดอยู่กันเหมือนพี่น้องเหมือนญาติ ๆ สามารถสอบถามชาวบ้านในชุมชนได้ทุกคนถึงพฤติกรรมของนายวชิระ แต่หากกฎหมายระบุว่าการใช้หรือจ้างให้เด็กอายุไม่ถึง 18 ปีทำงานทุกชนิดเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ตนก็พูดไม่ออก ไม่รู้จะพูดอย่างไร”

            นายสมบัติ กล่าวอีกว่า ในเรื่องคดีก็ไม่รู้จะสู้กับเจ้าหน้าที่ในชั้นศาลได้อย่างไร และไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งพาใครได้ ตนสงสารนายวชิระ เป็นอย่างมาก เขาชอบช่วยเหลือผู้อื่น โดยเฉพาะเด็กเพราะในช่วงเด็ก ๆ เขาเคยลำบากยากไร้แร้นแค้นมาก่อน  โดยหากตำรวจควบคุมตัวส่งอัยการและอัยการส่งฝากขังที่ศาลภูเก็ต ตนและญาติ ๆ จะยื่นคำร้องขอประกันตัวนายวชิระ และเมีย ซึ่งยังไม่รู้ว่าต้องใช้หลักทรัพย์ประกันตัวเท่าไหร่โดยจะขอเช่าหลักทรัพย์บริเวณหน้าศาลในการยื่นประกันตัวต่อไป

ในขณะที่นางถวิล หิริพันธ์ ป้าของนายวชิระ กล่าวว่า ตนสงสารนายวชิระ และเมียเป็นอย่างมาก รวมทั้งลูก 2 คนโดยเฉพาะนเล็กอายุ 9 เดือนยังดื่มนมแม่อยู่และร้องให้งอแงตลอดเวลา ซึ่งเรื่องนี้ตนอยากจะร้องขอความเป็นธรรมให้กับนายวชิระ และเมียด้วย  หากทั้งสองติดคุกในคดีค่ามนุษย์และใช้แรงงานเด็กเขาว่ามีโทษสูงกว่า 10 ปี ตนต้องทนเลี้ยงลูก 2 คนของนายวชิระ ไปตามมีตามเกิดซึ่งก็กลัวเหมือนกันว่าลูกของนายวชิระ จะเติบโตขึ้นมาและกลายเป็นปัญหาสังคมเหมือนเด็ก ๆ ในชุมชนที่ครอบครัวแตกแยก เด็ก ๆ ขาดความอบอุ่นกลายเป็นปัญหาสังคมต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด เช่นเดียวกับเด็ก 5 คนที่ไปขายน้ำมะพร้าวกับนายวชิระ ซึ่งจริง ๆ  แล้วในสังคมยังมีเด็ก ๆ ที่ครอบครัวแตกแยก ฐานะยากจนกลายเป็นปัญหาในสังคมอีกจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการแถลงข่าวของ พล.ต.ท.จารุวัฒน์  ไวศยะ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ขัดแย้งกับข้อเท็จจริงหลายประการ และเป็นการมองโลกสวยเกินไป เพราะในความเป็นจริงการบังคับกฎหมายตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กไม่สามารถดำเนินการได้อย่างแท้จริง อีกทั้งในทางปฏิบัติเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงก็ไม่สามารถช่วยเหลือ ดูแลและครอบครัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ซึ่งกรณีที่ ผช.ผบ.ตร.ระบุว่าเริ่มต้นมาจากอ้างว่ายากจนไม่มีงานทำ แต่วันนี้มีคนต่างชาติเข้ามาทำงานในบ้านเรา 3.8 ล้านคน  แต่ทำไมคนไทยไม่ทำงาน และต้องให้เด็กมาทำงาน ซึ่งได้ ฝากพัฒนาสังคม ฯ และบ้านเด็ก ฯ ไปแสวงหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้แล้ว  เพราะหากเดือดร้อนจริง ๆ ไม่ไหวจริง ๆ ให้ไปหาพัฒนาสังคมฯ เพราะรัฐบาลมีนโยบายในการช่วยเหลืออยู่แล้ว ทั้งหางานให้ทำและหางบประมาณส่งเด็กไปเรียนหนังสือ ดังนั้นพ่อแม่ต้องเลือกแนวทางที่ถูกต้อง ไม่ใช่อ้างว่าไม่มีเงิน เอาเด็กเป็นตัวประกัน มาขายของดึก ๆ ดื่นๆ บางคนต้องทำงานถึงตีสอง เป็นต้น ผช.ผบ.ตร. มองโลกสวยเกินไปอย่างกับว่าสังคมไทยมีกลไกของหน่วยงานภาครัฐที่สามารถแก้ไขทุกปัญหาได้ทุกอย่าง

ซึ่งจากการที่นายวชิระ เข้าร้องเรียนของความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนและศูนย์ดำรงธรรมเพื่อขอความช่วยเหลือจากการถูกจับกุม จนเมื่อสื่อมวลชนนำเสนอข่าวจนนายกรัฐมนตรีสั่งการให้ตรวจสอบช่วยเหลือแต่กลับกลายเป็นว่าตำรวจระดับ ผช.ผบ.ตร.ลงมาคุมคดีนี้ด้วยตนเองจนมีการออกหมายจับและติดตามจับกุมตัว ทั้ง ๆ ที่ตอนเจ้าหน้าที่ พม. นำตัวนายวชิระ ส่งพนักงานสอบสวนทางพนักงานสอบสวนไม่ได้ตั้งข้อหาและปล่อยตัวนายวชิระเนื่องจากพยานหลักฐานยังไม่เพียงพอ  จนเมื่อมีการนำเสนอข่าวทางสื่อมวลชนทำให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต้องรีบเร่งในการรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับนายวชิระ พร้อมเมีย รวมมั้งมีการขยายผลไปจับกุมการใช้แรงงานเด็กในรายอื่น ๆ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ต้องหาค้ามนุษย์และใช้แรงงานเด็กดังกล่าวอย่างละเอียดด้วย.

บุกมุดมุ้งจับ2ผัวเมียขายน้ำมะพร้าว โดน4ข้อหาหนัก

บุกมุดมุ้งจับ2ผัวเมียขายน้ำมะพร้าว โดน4ข้อหาหนัก

บุกมุดมุ้งจับ2ผัวเมียขายน้ำมะพร้าว โดน4ข้อหาหนัก

บุกมุดมุ้งจับ2ผัวเมียขายน้ำมะพร้าว โดน4ข้อหาหนัก

ภาพ/คลิป  ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช

ยุทธนะ  เตมะศิริ นครศรีธรรมราช/รายงาน

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ