ยื่นหนังสือต่อ ผกก.สภ.ปราสาท เพื่อเป็นคนกลางเจรจา

วันนี้(3 พ.ย.2562)ผู้สื่อข่าวรายงาน เวลา 12.30 น. ที่ สภ.ปราสาท จ.สุรินทร์ กรณีกลุ่มราษฎรจากพื้นที่ อ.พยุห์ อ.อุทุมพรพิสัย, อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ และ พื้นที่ อ.เมือง, อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ได้ยื่นหนังสือร้องทุกข์ แก่ พ.ต.อ.คารม บุญสด ผกก.สภ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา พร้อมได้เน้นย้ำให้ทาง ผกก.สภ.ปราสาท เร่งติดตามนายทุน ผู้ถูกร้องเรียนเข้าให้การแก่เจ้าหน้าเพื่อสืบหาข้อเท็จจริง และเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่กลุ่มราษฎรให้เร็วที่สุด

ทางด้าน พ.ต.อ.คารม บุญสด ผกก.สภ.ปราสาท จ.สุรินทร์ กล่าวกับทีมข่าวว่า ชาวบ้านหลายพื้นที่ใน จ.สุรินทร์ และ จ.ศรีสะเกษ กว่า 50 ราย ยังคงโทรศัพท์เข้ามาสอบถามอย่างถึงความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง และยังคงขอฝากให้เจ้าหน้าที่อย่าทิ้งประชาชน ที่สำคัญเพื่อต้องการให้เป็นตัวกลางในการดำเนินการเจรจาตกลง และตรวจสอบสัญญา กรณี กลุ่มชาวบ้านดังกล่าวได้ทำสัญญากู้ยืมเงินจาก นายทุน ในเขตพื้นที่ อ.ปราสาท ว่าเป็นธรรมถูกต้องหรือไม่ โดยขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดตามคดีอย่างใกล้ชิด และเร่งด่วน โดยทางตำรวจได้ทำหนังสือเรียกตัวไปถึงผู้ถูกกล่าวหา ที่เป็นนายทุนในพื้นที่ อ.ปราสาท เพื่อให้มารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ และเพื่อแจ้งให้รับทราบข้อกล่าวหา คือร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ และปล่อยดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด ภายในสัปดาห์นี้ และจะมีการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปให้เร็วที่สุด

ล่าสุดวันนี้กลุ่มชาวบ้านคน ต.เทนมีย์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ และ คน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ พร้อมด้วยกลุ่มชาวบ้านกว่า 20 คน ได้เดินทางมาที่ สภ.ปราสาท เพราะทราบว่าผู้ถูกกล่าวหาจะเดินทางมาที่ สภ.ปราสาท เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาประมาณ 14.00 น. จนกระทั่งเวลานี้ยังไม่มีวี่แววที่จะเข้ามา กลุ่มชาวบ้านบอกว่าที่มาเพื่อจะมาพบพร้อมกับคุยกับผู้ถูกกล่าวหาว่าตนจะขอชำระในเงินจำนวนที่ตนกู้เท่านั้น

พ.ต.อ.คารม บุญสด ผกก.สภ.ปราสาท กล่าวว่า พฤติการณ์ของ นายถิรเดช หรือนายธนินสิชณ์ หรือนายสมศักดิ์ ผู้ถูกร้องเรียน คือ เรื่องของการทำสัญญาเงินกู้ แล้วไม่ได้รับความเป็นธรรมนั้น โดยก่อนหน้านี้ ได้มีราษฎรมาร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว กับนายทุนคนนี้ เป็นจำนวนมาก ที่ สภ.ปราสาท ถึงพฤติการณ์ ในการกระทำก่อนที่จะทำสัญญากับราษฎร โดยขบวนการจะมีนายหน้าไปติดต่อกับชาวบ้านผู้ที่ต้องการใช้เงิน ซึ่งนายหน้ากลุ่มดังกล่าวพบว่าก็เป็นพวกเดียวกันกับ นายทุน แล้วนายหน้าดังกล่าว ก็จะขอโฉนดที่ดินของผู้ที่จะกู้เงินมา โดยบอกว่า จะนำโฉนดที่ดินดังกล่าวมาค้ำประกันเงินกู้ แต่พอมาถึง ก็จะแจ้งกับผู้ที่จะกู้ว่าต้องทำเป็นสัญญาจำนอง กับนายถิรเดช ซึ่งจะทำเป็นว่าตัวเองทำหนังสือมอบอำนาจให้กับผู้กู้ ไปทำสัญญาเอง โดยมีนายหน้าเป็นคนพาผู้เสียหายไปยังที่สำนักงานที่ดิน เพื่อทำสัญญา โดยในระหว่างการทำสัญญาผู้เสียหาย จะไม่รู้เรื่องเลย โดยนายหน้าจะเป็นผู้ดำเนินการทุกอย่างกับสำนักงานที่ดิน เมื่อทำเสร็จแล้ว ก็นำมาให้ผู้เสียหายเซ็นชื่อโดยที่ไม่ได้ดูใบสัญญา แล้วมอบเงินให้ผู้เสียหายตามที่ขอกู้ ซึ่งพบว่าบางรายก็ได้ไม่ครบ โดยนายหน้าบอกว่าหักเป็นค่าดำเนินการ โดยผู้เสียหายเองก็ไม่ได้เห็นรายละเอียดในสัญญา ต่อมาปรากฏว่ากลายเป็นสัญญาขายฝาก โดยที่ผู้เสียหายไม่รู้มาก่อน ซึ้งรู้เพียงว่าตนเองทำสัญญาจำนองกับนายถิรเดช เพียงเท่านั้น

พ.ต.อ.คารม บุญสด ผกก.สภ.ปราสาท กล่าวต่อไปว่า ผู้เสียหายบางรายที่ทำสัญญาขายฝากกับนายถิรเดชฯ และได้จำนวนเงินตามที่ตนเองได้ทำไว้ในสัญญาจริง แต่เมื่อครบสัญญาแล้ว จะนำเงินมาเพื่อไถ่ทอน แต่กลับพบว่านายถิรเดชฯ บ่ายเบี่ยงไม่ให้ผู้เสียหายมาไถ่ถอน โดยอ้างว่าตนเองไปต่างประเทศบ้าง ไปธุระต่างจังหวัดหลายวันบ้าง จนวันครบสัญญาขายฝาก ใบโฉนดจึงตกเป็นของนายถิรเดชๆ ต่อมาวันหลังผู้เสียหายได้นำเงินมาเพื่อไถ่ถอนอีก แต่นายถิรเดชๆ ได้เรียกค่าไถ่ถอนเป็นเงินเกินราคาที่ตนเองเคยขายฝากเป็นจำนวนมากกว่าเท่าตัว ซึ่งต่อมาผู้เสียหายมาทราบทีหลังว่าถูกนายถิรเดชฯ หลอก เนื่องจากนายถิรเดชฯ ได้นำโฉนดที่ติของผู้เสียหายไปค้ำประกันเงินกับนายทุนอื่นอีกเป็นทำตัว เมื่อผู้เสียหายนำเงินมาเพื่อไถ่ถอนจึงพยายามบ่ายบียงไม่ให้ไถ่ถอน เพราะโฉนดที่ดินดังกล่าวไม้ได้อยู่กับนายถิรเดชฯซึ่งพฤติกรรมแบบนี้ นายถิรเดช กับพวก ได้หลอกกระทำกับผู้เสียหายเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดศรีสะเกษ

ภาพ/ข่าว: รมิตา สิงหเสรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดสุรินทร์