วอนช่วยเหลือ "น้องรุ่งฟ้า" วัย 10 ขวบป่วยเป็นโรคหัวบาตรหรือหัวแตงโมแต่กำเนิด -อาศัยอยู่ในครอบครัวยากจนพ่อวอนขอแพมเพิส นมจืดและเสื้อผ้าเด็กในขณะที่ธารน้ำใจยื่นมือช่วยเหลือยอดเงินบริจาคกว่า 40,000 บาท
(5 ต.ค.) ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม สมาคมสื่อมวลชนจังหวดนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งขอควาช่วยเหลือ ด.ญ รุ่งฟ้า เมฆาวรรณ อายุ 10 ขวบ อาศัยอยู่113/6 หมู่ 2 บ้านโคกเหรียง ต ท่าศาลา อ ท่าศาลา จ นครศรีธรรมราช ซึ่งป่วยเป็นโรคหัวบาตรหรือโรคหัวแตงโม ซึ่งเกิดมาจากความผิดปกติที่มีน้ำในโพรงสมองมากเกินไป ครอบครัวมีฐานะยากจน คุณพ่อไม่ได้ทำงานเพราะต้องดูแลน้อง ส่วนคุณแม่มีอาชีพรับล้างจาน รับจ้างงานทั่ว ๆ ไปมีรายได้ครั้งละ 300 บาท ไม่เพียงพอกับรายจ่าย และในปัจจุบันครัวครัวจึงลำบากเดือดร้อนไม่น้อย จึงอยากวิงวอนหน่วยราชการที่เกี่ยวของรวมทั้งผู้บุญช่วยบริจาคแพมเพิส เสื้อผ้าเด็กและนมจืด ให้น้องรุ่งฟ้า หนูน้อยหัวแตงโม
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบพบนายสมบัติ เมฆาวรรณ อายุ 58 ปี พ่อของน้องรุ่งฟ้ากำลัง ป้อนข้าวและปรนนิบัติดูแลน้องรุ่งฟ้าอยู่ในบ้านซึ่งเป็นบานปูนหลังเล็ก ๆ ที่ก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ และนายสมบัติ ยังต้องรับภาระเลี้ยงดูหลานชาย อายุ 5 ขวบอีก 1 คน ในขณะที่นางอุไร ช้างดำ อายุ 48 ปีแม่ของน้องรุ่งฟ้าออกไปรับจ้างทั่วไปนอกบ้านมีรายได้วันละ 300 บาท แต่หากวันไหนไม่มีงานรับจ้างก็จะไม่มีรายได้ ภายในบ้านมีเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านมีเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นไม่กี่ชิ้น ส่วนโททัศน์ โทรศัพท์มือถือและตู้เสื้อผ้าภายในบ้านเป็นของบุตรสาวของตนที่นำบุตรชายอายุ 5 ขวบ ซึ่งเป็นหลานของตนมาฝากเลี้ยงซื้อมาให้
นายสมบัติ เมฆาวรรณ เปิดเผยว่า ตนอยู่กินกับนางอุไร จนมีบุตรด้วยกัน 3 คน คนโตเป็นผู้ชายไปทานรับจ้างต่างจังหวัด คนที่ 2 เป็นผู้หญิงอายุ 26 ปี แต่งงานแยกครอบครัวไปแล้ว และคนที่ 3 คือน้องรุ่งฟ้า ที่ป่วยเป็นโรคหัวบาตร หรือหัวแตงโม เพราะมีน้ำในโพรงสมองมากเกินไป ต้องนอนติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ในปัจจุบันบ้านของตนมีผู้อาศยอยู่รวมกัน 4 คน ประกอบด้วยตนและนางอุไร น้องรุ่งฟ้า และหลานชายอายุ 5 ขวบ ซึ่งเป็นลกของบุตรสาวของตนที่นำมาฝากเลี้ยงเนื่องจากบุตรสาวและสามีต้องออกไปทำงาน แต่ได้แวะเวียนมาดูแลช่วยเหลือครอบครัวตนอย่างต่อเนื่อง
สำหรับน้องรุ่งฟ้า ที่ป่วยเป็นโรคหัวบาตรหรือหัวแตงโมมาแต่กำเนิด สาเหตุน่าจะมาจากก่อนหน้านี้ตนและนางอุไร ภรรยาขทำงานรับจ้างก่อสร้าง ซึ่งต้องทำงานหนักมาตลอด และในขณะที่กำลังตั้งท้องน้องรุ่งฟ้า ภรรยาของตนยังทำงานก่อสร้างรับหน้าที่กวนปูนจนใกลถึงวันคลอด แพทย์ได้ทำการตรวจครรภ์ภรรยาองตนและแจ้งว่าเด็กในท้องผิดปกติ เป็นโรคหัวบาตรหรือหัวแตงโม จนกระทั้งคบกำหนดคลอดภรรยาจึงหยุดงานก่อสร้างและได้เข้าโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช โดยแพทย์ระบุง่าไม่สามารถคลอดเองได้ตามปกติ จึงต้องทำการผ่าตัด และพบว่าน้องรุ้งฟ้าเกิดมาด้วยขนาดศรีษะที่โตผิดปกติ เพราะเป็นโรคหัวบาตรหรือหัวแตงโม เนื่องจากน้ำในสมองมากเกินไป หลังจากแพทย์อนุญาตให้ภรรยาและน้องรุ่งฟ้ากลับมาพกฟื้นที่บ้านได้ จึงมาอยู่บ้าน โดยตนไม่ได้ออกไปทำงานเพราะป่วยเป็นโรคต่อมลูกหมากโตจึงและต้องรับภระในการเลี้ยงน้องรุ่งฟ้าอย่างใกล้ชิด ในขณะที่นาอุไร ภรรยาต้องออกไปทำงานหารายได้มาเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว
ในปัจจุบันครอบครัวได้รับความเดือดร้อน อยู่กันอย่างยากลำบาก เพราะรายได้จากภรรยาที่ออกไปทำงานนับจ้างเพียงคนเดียวไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย และได้เบ้ยงยังชีพผู้พิการอีกเดือนละ 800 บาท อย่างก็ตามเมื่อ 3-4 วันที่ผ่านมาได้มีเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยใน อ.ท่าศาลา มาพบและเห็นสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวตน จึงนำเรื่องาวพร้อมภาพไปโพสต์ขอความช่วยเหลือในโลกออนไลน์ มีผู้ใจบุญบริจาคแพมเพิส นมจืด และเสื้อผ้ามาให้น้องฟ้าจำนวนหนึ่ง และยังผู้ใจบุญได้บริจาคเงินผ่านบัญชีของตนมาช่วยเหลือในขณะนี้มียอดเงินบริจาคประมาณ 40,000 บาท ตนต้องกราบขอบพระคุณผู้ใจบุญทุกคนทุกท่าให้ยื่นมือเขามาช่วยเหลือน้องรุ่งฟ้า และครอบครัวของตน หากผู้ใจบุญท่านใดจะบริจาคเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมสามารถโอนเงินช่วยเหลือได้ที่บัญชีธนาคารออมสิน ชื่อบัญชีนายสมบัติ เมฆาวรรณ ธนาคารออมสิน สาขาท่าศาลา เลขบัญชี 0-202-6526-4935 โดยตนจะใช้ข่ายเงินทุกบาท ทุกสตางค์ที่ผู้บุญบราคมาให้อย่างประหยัดและเกิดประโยชนสูงสุด
ผู้สื่อข่าวายงานว่าสำหรับเด็กแรกเกิดที่เป็นหัวบาตรหรือหัวแตงโม เป็นความผิดปกติชนิดหนึ่งที่สามารถเกิดได้กับเด็กทารก มีสาเหตุมาจากความผิดปกติที่มีน้ำในโพรงสมองมากเกินไป และจะพบได้ 1 ใน 1,000 คน.
ภาพ/คลิป ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช
ข่าว ยุทธนะ เตมะศิริ นครศรีธรรมราช
ข่าวที่เกี่ยวข้อง