ข่าว

"ครูปรีชา" ร้องศาลไต่สวน-ลงโทษ "ทนายตั้ม"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ครูปรีชา" มอบทนายยื่นคำร้องให้ศาลไต่สวนและมีคำสั่งลงโทษ "ทนายตั้ม" ฐานละเมิดอำนาจศาล กรณีนำคลิปเสียงไปเผยแพร่ในเฟซบุ๊กและทำหาย

 

            จากกรณีที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายความประชาชน และทนายความทางฝ่าย ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ หมวดจรูญ คู่กรณีของ นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี จ.กาญจนบุรี ปมคดีหวย 30 ล้าน ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยระบุว่า ซีดีคลิปเสียงครูปรีชา จำนวน 4,500 คลิป ที่ ปอท.ดึงมาจากการใช้ข้อมูลโทรศัพท์ของครูปรีชากับทุกๆคู่สนทนาได้หายไป หลังจากที่ทนายตั้มขอคัดลอกคลิปเสียงในแผ่นซีดีที่ทาง ปอท.ได้จัดส่งมายังศาล เพื่อรวมไว้ในสำนวน โดยทนายตั้มได้ระบุว่าหายที่บริเวณตลาดพื้นที่ตำบลตลาดกระทุ่มแบน นั้น

 

            ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ 3 พ.ค.61 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบครูปรีชา ที่บ้านพักเลขที่ 143/22 บ้านทุ่งนาซ.5 หมู่ 3 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยครูปรีชา เปิดเผยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า คลิปเสียงดังกล่าวเป็นหลักฐานในกระบวนการยุติธรรม และเป็นหลักฐานในเรื่องของคดีความ ซึ่งการที่ทนายษิทรา ซึ่งเป็นนักกฎหมาย เป็นทนายความ นำเอาคลิปเสียงดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อสาธารณชนด้วยการโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก และยังอ้างว่าได้ทำแผ่นซีดีคลิปเสียงดังกล่าวหายไป ตนจึงได้มอบหมายให้นายสุพัฒน์ อดุลย์ศิริอังกูร ทนายความส่วนตัว ไปยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดกาญจนบุรี ขอให้ศาลไต่สวน และมีคำสั่งลงโทษทนายษิทรา ฐานละเมิดอำนาจศาล ในการกระทำของนายษิทรา ดังกล่าว ซึ่งศาลได้นัดไต่สวนในเร็วๆ นี้

 

 

            ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าทนายษิทรา จะเป็นคนที่รู้ดีที่สุดว่าได้ทำซีดีหายจริงหรือไม่ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นยังชี้ให้เห็นข้อเท็จจริงด้วยว่า การที่ทนายษิทรา ระบุว่าได้นำแผ่นซีดีดังกล่าวใส่กระเป๋าไว้ ก่อนจะทำตกหล่นหายไป ก็เป็นการตอกย้ำว่า การที่ลอตเตอรี่ของตนหล่นหายนั้นเป็นเรื่องจริง และมีคนที่เก็บลอตเตอรี่ได้จริง หากมีการนำคลิปเสียงดังกล่าวไปเผยแพร่ ก็จะต้องผ่านกระบวนการของศาล เพราะเป็นหลักฐานของกระบวนการยุติธรรม โดยต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย เพราะถือเป็นการละเมิดศาลและละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

 

 

            คลิปเสียงดังกล่าว ถูกระบุว่า เป็นของตน แต่ตนยังไม่ได้ฟัง จึงไม่ทราบว่าเป็นคลิปของใครบ้าง ต้องขอฟังก่อน จึงจะตอบได้ว่าเป็นเสียงของตนหรือของใครกันแน่ ซึ่งทราบว่าทางทนายฝ่ายตนก็ได้ไปรับคลิปเสียงดังกล่าวมาแล้ว

 

 

            “อยากฝากบอกผู้ที่รู้ว่าตัวเองกำลังละเมิดสิทธิของผู้อื่น ก็ขอให้หยุดการกระทำดังกล่าวเสีย เพราะเป็นสิ่งที่ไม่ดี ในสังคมไทยถ้ามีคนแบบนี้อยู่จำนวนมาก สังคมก็จะมีแต่ความวุ่นวาย ซึ่งความวุ่นวายไม่ได้เกิดจากฝ่ายเรา ดังนั้นขอให้คิดและทบทวนให้ดีด้วยว่า สิ่งที่ตัวเองทำอยู่นั้นได้ละเมิดสิทธิของผู้อื่นอยู่หรือไม่ และเมื่อเราถูกละเมิด เราก็ต้องใช้สิทธิตามกฎหมาย ก็จะต้องมีการฟ้องร้องกันต่อไป”

 

 

 

 

            ครูปรีชา กล่าวต่ออีกว่า หลักฐานที่ตนเตรียมไว้สำหรับต่อสู้ในชั้นศาลมีทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ หลักฐานที่เป็นเอกสาร และบุคคลที่เป็นประจักษ์พยาน ซึ่งบุคคลดังกล่าวเป็นบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ และเห็นว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรมในหลายๆ เรื่อง บุคคลเหล่านั้นจึงพร้อมที่จะมาเป็นพยานในศาลให้ ซึ่งมีหลายคนยังไม่เคยถูกพนักงานสอบสวนสอบปากคำเลยก็มี ซึ่งถือเป็นบุคคลสำคัญที่ทางทนายวรยุทธ บุญวงษ์ใส ได้มาจากการลงพื้นที่ไปสอบถาม ตรวจสอบ และสำรวจด้วยตัวเอง จนได้พบกับพยานดังกล่าวที่จะมาเป็นพยานปากเอก ที่จะบอกได้ว่า เรื่องจริงคือลอตเตอรี่เป็นของตน และตนทำหล่นหายจริง

 

 

            อย่างไรก็ตาม จนถึงตรงนี้ตนมั่นใจว่าลอตเตอรี่เป็นของตน อีกทั้งประจักษ์พยานยังยืนยันว่า ลอตเตอรี่ชุดดังกล่าวมีคนเก็บได้จริง และพยานบางคนยังเล่าให้ทนายฟังด้วยว่า ผู้ที่เก็บลอตเตอรี่ได้ยังเดินมาถามด้วยว่า “ลอตเตอรี่ของใครหล่น ยังไม่ออกรางวัล” ดังนั้นบุคคลเหล่านี้จึงพร้อมที่จะเป็นพยาน เพราะเห็นเหตุการณ์จริง ดังนั้นทุกอย่างในสิ่งที่เรามีจริง เห็นจริง หล่นหายจริง ตนจึงพร้อมที่จะเข้าสู่ศาลทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา

 

 

"ครูปรีชา" ร้องศาลไต่สวน-ลงโทษ "ทนายตั้ม"

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ