ข่าว

เช็กอาการ "ภาวะสมองล้า" กับสาเหตุที่เกิด และวิธีรักษา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เมื่อ "สมอง" ถูกใช้งานอย่างหนักต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะทำให้ระบบประสาทเสียสมดุล จนเกิด "ภาวะสมองล้า" เช็กเลยอาการที่ต้องสังเกตมีอะไรบ้าง

เมื่อ "สมอง" ถูกใช้งานอย่างหนักต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะทำให้ระบบประสาทเสียสมดุล จนเกิด "ภาวะสมองล้า" (Brain Fog Syndrome) หากเป็นบ่อยอาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว

 

 

ภาวะสมองล้า (Brain Fog Syndrome) คือ ภาวะเครียดโดยไม่รู้ตัวจากการที่สมองถูกใช้งานอย่างหนักเป็นระยะเวลานาน ซึ่งอาจเกิดจากความเร่งรีบที่จะทำงานให้เสร็จ การพักผ่อนน้อย หรือการทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นานเกินไป ทำให้สารสื่อประสาทในสมองซึ่งเป็นสารเคมีที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อข้อมูลสัญญาณไฟฟ้าระหว่างเซลล์ของระบบประสาทเสียสมดุล ประสิทธิภาพการทำงานของสมองจึงแย่ลง หากเกิดบ่อยครั้งจะกลายเป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ มากมาย เช่น โรคกระเพาะ, โรคอ้วน, ภาวะประจำเดือนมาไม่ปกติ, โรคเบาหวาน ฯลฯ

 

-สาเหตุของภาวะสมองล้า คือ คลื่นแม่เหล็ก จากการใช้งานคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แท็บแล็ตมากเกินไป รบกวนการหลั่งสารสื่อประสาทในสมอง

-ความเครียด ทำให้การไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมองลดลง เกิดอาการมึนงง ความจำแย่ลง

-นอนดึก นอนไม่เพียงพอ ขาดการออกกำลังกาย

-ขาดสารอาหาร อาทิ กรดอะมิโน วิตามิน เกลือแร่ และสารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ 

-สารพิษในชีวิตประจำวัน เช่น มลภาวะ สารเคมี โลหะหนัก ยาฆ่าแมลงที่ปนเปื้อนในอากาศ น้ำ และอาหาร


อาการเตือนของ "ภาวะสมองล้า" มีดังนี้ นอนไม่หลับ ปวดศีรษะเรื้อรัง สายตาอ่อนเพลีย จัดการหรือแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ไม่ดีเหมือนก่อน อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย ขี้หลงขี้ลืม ความจำระยะสั้นแย่ลง สมาธิในการทำงานลดลง ความคิดสร้างสรรค์ที่เคยมีหายไป ไม่สดชื่น

 

 

สำหรับวิธีรักษาภาวะสมองล้า คือ ควบคุมการใช้เทคโนโลยีในเวลาที่เหมาะสม ไม่นานจนเกินไปหรือตลอดทั้งวัน ควรหยุดพักบ้างเป็นระยะ คิดบวก มองโลกในแง่ดี มีอารมณ์ขัน ไม่เครียด ทานอาหารที่มีประโยชน์ช่วยบำรุงสมอง
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอวันละ 7-8 ชั่วโมง และควรนอนในเวลา 4 ทุ่มไม่เกินเที่ยงคืน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพราะช่วยให้สุขภาพสมองแข็งแรง เลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ และไม่ดื่มกาแฟในช่วงเย็นเพราะอาจรบกวนการนอนหลับ ท่องเที่ยวธรรมชาติเพื่อผ่อนคลายและได้สูดออกซิเจนให้เต็มปอด ช่วยเติมพลังชีวิตได้ดี

 

ส่วนสารอาหารที่ช่วยบำรุงสมองก็คือ น้ำมันปลา (Fish Oil), สารสกัดจากแปะก๊วย (Ginkgo Biloba Extract), โคลีน (Choline Bitartrate), สารสกัดจมูกข้าว (Gamma Oryzanol), ธีอะนีน (L – Theanine), ฟอสฟาติดิลซีรีน (Phosphatidylserine), อิโนซิทอล (Inositol), สารสกัดจากโสม (Ginseng Extract), ซอยเลซิทิน (Soy Lecithin), แอลคาร์นิทีน แอลทาร์เทรต (L-Carnitine L-Tartrate), วิตามินซี วิตามินเอ วิตามินอี และวิตามินบี

 

ข้อมูลจาก bangkokhospital

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ