ข่าว

เช็กก่อนซื้อ เผยทริคเลือก "มอยส์เจอร์ไรเซอร์" อย่างไรให้เหมาะกับ "ผิวหน้า"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เช็กก่อนซื้อ เผยทริคเลือก "มอยส์เจอร์ไรเซอร์" อย่างไร ให้เหมาะกับ "ผิวหน้า" ของคุณ

สำหรับคนที่มีปัญหา "ผิวแห้ง" มักจะเกิดริ้วรอยได้ง่าย และสิ่งที่ผิวแห้งต้องการมากที่สุดก็คือ "น้ำ" ตัวหลักสำคัญที่จะช่วยให้ผิวนุ่มเนียนและคงความยืดหยุ่นของผิวไว้ การทาครีมหรือโลชั่นเคลือบผิวที่เรียกว่า "มอยส์เจอร์ไรเซอร์" (Moisturizer) จะช่วยให้สามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนังได้ แต่เราจะเลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์อย่างไรให้เหมาะสมกับสภาพผิว

 

 

มอยส์เจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) คือตัวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว มีหลายรูป เช่น ครีม เจล โลชั่น เป็นต้น การทำงานคือเคลือบผิวเอาไว้เพื่อลดการสูญเสียน้ำของผิว เพราะเมื่อมีการสูญเสียน้ำของผิวที่น้อยลง ผิวก็จะมีความชุ่มชื้นมากขึ้น ทำให้ผิวดูแข็งแรง เต่งตึง ผิวเรียบเนียน ลดริ้วรอย ดูสุขภาพดี มอยเจอร์ไรเซอร์ที่ดีจึงควรมีคุณสมบัติ ดูดซึมได้ดี ออกฤทธิ์เร็ว และอยู่บนผิวหนังได้นานโดยไม่ต้องทาซ้ำหลายรอบ

การหาสารเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังเป็นการดูแลผิวอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสารเพิ่มความชุ่มชื้นนี้ สามารถให้ความชุ่มชื้นได้นาน 2-6 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับชนิดของสารเพิ่มความชุ่มชื้น สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ

มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีคุณสมบัติ Occlusives ช่วยเคลือบผิว มอยเจอร์ไรเซอร์ชนิดนี้จะช่วยเคลือบผิวด้วยการสร้างฟิล์มบางๆเคลือบที่ชั้นบนสุดของผิวและกันน้ำได้ ชะลอการสูญเสียน้ำทางผิวหนัง โดยกลุ่มที่มีคุณสมบัตินี้ ได้แก่ ไขคาร์นอบา เป็นไขที่ได้จากใบของปาล์มคาร์นอบา น้ำมันมะกอก Petrolatum ซิลิโคน ลาโนลิน และกลุ่ม Intercellular lipid bilayers (เลียนแบบโครงสร้างระหว่างเซลล์ผิวหนัง) เช่น ซาราไมค์ กรดไขมัน

มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีคุณสมบัติ Emoillients ทำให้ผิวนุ่ม เป็นสารไขมันที่ดูดซึมได้ ช่วยให้ผิวนุ่มและประสานผิวตกสะเก็ด หรือเซลล์ผิวที่ตาย ลดการสูญเสียน้ำทางผิวหนัง โดยกลุ่มสารนี้ประกอบด้วย เชียบัตเตอร์ สควาเรน คอลลาเจน ไอโซโพรพิล และปามิเตท

มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีคุณสมบัติ Humectants ช่วยผิวฉ่ำน้ำ เป็นสารที่ดูดซับน้ำจากชั้นลึกของหนังกำพร้าให้ขึ้นถึงชั้นบน ให้ความชุ่มชื้นที่พบได้ในผิวหนังชั้นนอกสุดหรือที่เรียกว่าชั้นผิวหนังกำพร้าให้ทำหน้าที่ปกป้องผิวจากเชื้อโรค การขาดน้ำ หรือสารเคมี โดยกลุ่มสารที่มีคุณสมบัตินี้ เช่น กลีเซอรีน กรดอัลฟาไฮดรอกซี กรดไฮยาลูรอนิก ซอร์บิทอล และยูเรีย

 

 

แล้วเราควรเลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์อย่างไร

ผิวหน้ามันเป็นสิวง่าย อาจเลือกใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีความมันน้อย เนื้อบางเบา หรือเนื้อครีมประเภทที่แห้งเร็ว ซึมเข้าสู่ผิวง่าย แนะนำให้ใช้จะเป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ฐานน้ำ (Water-based moisturizer) ที่อาจอยู่ในรูปแบบโลชั่นเหลว

ผิวหน้าแห้ง ควรเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ประเภทเนื้อครีมที่อาจจะมีความเข้มข้นมากกว่ามอยเจอร์ไรเซอร์ของผิวประเภทอื่นเล็กน้อยในการคงความชุ่มชื้นบนผิวหน้า ช่วยในการกักเก็บและป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น โดยแนะนำให้ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ฐานน้ำมัน (Oil-based moisturizer) ที่ประกอบไปด้วยน้ำมันสำหรับบำรุงผิวเป็นส่วนประกอบ เพื่อให้น้ำมันเคลือบผิวไม่ให้ความชื้นจากผิวระเหยออกไป

ผิวหน้าปกติธรรมดา สามารถเลือกใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ทั้งฐานน้ำ (Water-based moisturizer) ในรูปแบบโลชั่น เพื่อที่จะได้รู้สึกแห้งเร็ว เบาสบายผิว ไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะจนเกินไป หรือหากต้องการความชุ่มชื้นมากๆ ก็สามารถใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่เป็นฐานน้ำมันได้ (Oil-based moisturizer) แต่เวลาที่ใช้อาจปรับเปลี่ยนตามสภาพอากาศ

ผิวหน้าผสม เลือกใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของน้ำกับน้ำมันในอัตราส่วนเท่ากัน ทำให้ผิวรับส่วนผสมทั้งสองอย่างอย่างเท่ากัน จึงช่วยให้ผิวคงสมดุลของน้ำไว้ในผิวอย่างสม่ำเสมอ ไม่แห้งหรือมันจนเกินไป

ทั้งนี้ควรทามอยส์เจอร์ไรเซอร์หลังทำความสะอาดผิว เนื่องจากเป็นช่วงที่สารจะซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ดี ควรทาให้ทั่วผิวหนังที่ต้องการเคลือบ โดยใช้นิ้วมือคลึงเบาๆให้เนื้อครีมกระจายออกทั่วผิวหนัง


ข้อมูล พญ.ศิเรมอร ทองสิมา ศูนย์ผิวหนังและความงาม

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ