Lifestyle

เรื่องเล่า เมื่อเรา"บวชพระ"คืนที่ 3 ตอน ตี 3

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ความเชื่อเรื่อง"บวชพระ หรือ อุปสมบท" นั้นถูกเล่าขานปากต่อปาก เมื่อชายหนุ่มอายุครบ 20 ปี และพึงให้คนใกล้บวชได้ระมัดระวังตัวกัน เพราะเชื่อว่าการได้บวชศึกษาพระธรรม ปฏิบัติธรรมใต้ร่มกาสาวพัสตร์ นั้นคือบุญใหญ่มักจะมีสิ่งไม่ดีมาขัดขวาง 

เรื่องเล่าเกี่ยวการ"บวชพระ หรือ อุปสมบท"สำหรับบุรุษที่เข้าศึกษาพระธรรมใต้ "ร่มกาสาวพัสตร์" น่าจะมีให้เห็น ให้อ่าน ได้ฟังกันพอสมควร แต่เรื่องนี้ผู้เขียนก็ประสบด้วยตัวเอง เมื่อเรามีความเชื่อตั้งมั่น การปรุงแต่งมะโนจิตก็จะเห็นชัด ด้วยเป็นเด็กต่างจังหวัด ความเชื่อที่บ่มเพาะมาจึงติดตรึงถึงปัจจุบัน ทุกคนย่อมมีเจ้ากรรมนายเวร สิ่งเหล่านี่มักจะมาทั้งในรูปร่างต่าง ๆ ทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็น 

ในขณะที่ผู้เขียนครองผ้าเหลืองนั้น กุฏิที่เราได้ใช้จำวัดตลอดเวลา 15 วันคือ กุฏิไม้เก่าท้ายวัดใกล้เมรุ มีทั้งหมด 5 ห้อง ห้องเราอยู่ริมสุดใกล้ห้องน้ำกลาง ส่วนห้องริมอีกด้าน เป็นพระอีกรูปที่จำพรรษาที่นี่นานแล้ว ด้วยผู้เขียนเป็นคนพื้นถิ่น เรื่องเล่า มีความคุ้นชิน จึงทราบดีว่าที่วัดแห่งนี้เป็นอย่างไรบ้าง 

 

เรื่องเล่า เมื่อเรา"บวชพระ"คืนที่ 3 ตอน ตี 3

คืนแรก เราสวดมนต์ก่อนจำวัดปกติ เวลาประมาณ 1 ทุ่มครึ่ง ที่วัดนี้ก็มืดแล้ว โดยรอบทีแต่ต้นไม้ใหญ่มองไปขวามือเจอเมรุ และต้นไม้ที่ปลูกรายเรียงแทนเจดีย์เก็บอัฐิ ปกติตอนไม่ครองผ้าเหลือง เราจะห้องพระเครื่องต่าง ๆ ติดตัวตลอด แต่พอได้เข้ามาศึกษาพระธรรมแล้ว พระเครื่องก็ถอดแขวนไว้หัวเตียง เพื่อความอุ่นใจ คืนนั้นกี่โมงไม่ทราบ แต่เราได้ยินเสียงสุนัขเห่าเรียงรายตั้งแต่ทางเข้าวัด แล้วก็เงียบไป จนถึงเวลาบิณฑบาตพระรุ่นพี่ พระพี่เลี้ยง ก็มารุมตรวจจีวรว่าเราห่มเรียบร้อยมั้ยเกรงเดิน ๆ ไป จะหลุดรายทาง

ประมาณ 7 โมงเศษ พระทุกรูปที่ออกบิณฑบาต ก็พร้อมกันโรงฉันแล้ว ก็คุยตามประสาพระ และเอ่ยถึงเสียงสุนัขเห่าหอน แค่ว่าได้ยินมั้ย ปกติก่อนที่พระจะบวช ไม่มีเลยนะ ในใจก็คิดว่าคงจะเป็นการรับพระใหม่ คุยแกล้ง ๆ แต่อีกมุมเราก็สัมผัสได้ว่านั่นคือสิ่งที่เราต้องเจอ ความรู้สึกนี้เก็บไว้ไม่เอ่ยกับใคร 

 

คืนที่สอง กิจวัตรเดิมก่อนจำวัดไหวพระสวดมนต์ แผ่เมตตาปกติ หลังจากหลับไปเริ่มได้ยินเสียงสุนัขเห่าหอนอีกครั้ง แต่ครั้งนี้คือใกล้กว่าเดิม ประมาณกุฏิพระพี่เลี้ยง และพระรูปอื่น ๆ ที่อยู่ก่อน เช้าตรู่เวลาเดิมที่ต้องบิณฑบาต ก็ยังคงก้าวย่างด้วยความสำรวม และเมื่อกลับมาโรงฉัน ประเด็นสุนัขเห่าหอนถูกพูดถึงอีกครั้ง แต่ครั้งนี้พระรูปอื่น ๆ ละแวกที่เสียงสุนัขเห่าสิ้นลงเอ่ยประมาณว่า เหมือนว่ามีใครมา หรืออะไรมา เพียงแต่เป็นการกระซิ๊บคุยกัน แต่ด้วยระยะไม่ไกลมากเราจึงได้ยิน ในใจก็คิดว่าคืนนี้ผู้เขียนต้องเตรียมตัวแล้ว น่าจะมาหาเราแน่ ๆ นั่นคือสิ่งที่คิด 

คืนที่สาม ของการบวชและแล้วสิ่งที่คิดก็เกิดขึ้น ในคืนนั้นแปลกที่ห้องว่างข้าง ๆ มีลูกศิษย์วัดรุ่นเก๋า แก่กว่าลุง เราเรียกตาไปแล้วท่านใจดีมากรู้จักตั้งแต่เราจำความได้ มานอนที่ห้องข้าง ๆ เราก็ไม่ได้คิดอะไร พอมาถึงช่วงเวลาคาดว่าน่าจะเป็นช่วงเดิม เสียงสุนัขเห่าหอน มาจบลงที่หน้ากุฏิที่เราจำวัด รู้แต่ลืมได้ตาไม่ได้ ในภวังค์ ประหนึ่งหนังผีที่เราเห็นในภาพยนตร์ หรือยิ่งกว่าไปอีก มีชายร่างใหญ่ตัวดำ สัมผัสได้ถึงความโกรธเคืองต่าง ๆ นานา มายืนตรงที่ประตูเข้าห้อง แล้วมองลอดช่องลมด้านบนเพื่อหาอะไรสักอย่างแต่รู้ว่าคือต้องมาหาเราแน่ ๆ ความกดดันตรงนั้นในภวังค์ทำให้เราทำอะไรไม่ถูก ท่องบทสวดมนต์ ทำอะไรต่าง ๆ ชายร่างใหญ่ก็ไม่ได้ไปไหนเลย กระทั้งประตูห้องได้เปิดออกมา ประหนึ่งเขาจะพยายามมาทำร้าย

 

เรื่องเล่า เมื่อเรา"บวชพระ"คืนที่ 3 ตอน ตี 3

 

เมื่อเราหลับตาลงนึกถึงครูบาอาจารย์พระเกจิ และพ่อที่เสียไปแล้ว ชั่วครู่จำได้ว่าที่หัวเตียงมีพระเครื่องชุดหนึ่งที่เราห้อยไว้ แล้วเราก็ปาไปยังประตู หลังจากปาเสร็จเสียงร้องลั่นดังเฮือก...ของเราก็ปลุกให้เราตื่นขึ้น พร้อม ๆ กับเสียงตะโกนถามจากคุณตาห้องข้าง ๆ ว่าเป็นอะไร เรานิ่งไปครู่หนึ่งบอกว่าไม่เป็นอะไร แต่ทั้งตัวเหงื่อไหลพรากประหนึ่งหน้าร้อน แล้วนั่งทบทวนความฝัน กับภวังค์ที่เราได้เห็น จำได้ทุกฉากไล่เรียงมาจนกระทั้งหันไปเห็นสร้อยพระเครื่องที่ก่อนนอนแขวนไว้บนหัวเตียง ไปกองอยู่ตรงหน้าประตูเหมือนในภวังค์ราวกับเกิดขึ้นจริง ตอนนั้นเวลาประมาณตี 3 กว่า ๆ หลังจากเก็บพระเครื่องมาแขวนจุดเดิม ก็หลับไปกระทั้งนาฬิกาปลุก เพื่อบิณฑบาต ได้ดังขึ้น

 

เรื่องเล่า เมื่อเรา"บวชพระ"คืนที่ 3 ตอน ตี 3

เช้าวันต่อมา ณ โรงฉันที่เดิมพระมีเพียงไม่กี่รูปเหลือเพียงผู้เขียน พระพี่เลี้ยง และพระรุ่น ๆ เดียวกัน ประเด็นสุนัขเห่าหอน ไม่ได้ถูกถามขึ้น แต่สิ่งที่ถูกถาามจากพระพี่เลี้ยงคือ "เจอแล้วใช่มั้ย"เราก็หันไปทันที พร้อมถามว่ายังไง พระพี่เลี้ยง และพระรูปอื่น ๆ ก็ค่อย ๆ เล่าให้ฟังว่า เป็นเรื่องปกติของพระบวชใหม่ บางรูปก็จับไข้ บางรูปก็ต้องหิ้วเสื่อไปนอนกับพระรูปอื่น ๆ บางรูปคืนแรกก็เจอเลย แต่สำหรับเราก็ถือว่าดีแล้วที่ทำตัวปกติได้ท่านก็หัวเราะ พระพี่เลี้ยงเล่าต่อว่าทราบตั้งแต่สุนัขเห่าคืนแรกแล้ว แต่ไม่อยากพูดอะไรให้กลัว

ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีว่าการบวชของเราครั้งนี้ได้ผลจริง ไม่ได้บวชส่ง ๆ จากนี้ทุกครั้งที่เราสวดมนต์ ภาวนา อย่าลืมกรวดน้ำอุทิศบุญกุศลให้กับสิ่งต่าง ๆ ด้วยทั้งคนที่ช่วย พ่อ แม่ เจ้ากรรมนายเวร แล้วเราก็เล่าฉากแห่งภวังค์ให้พระในโรงฉันฟังทั้งหมด ส่วนอีก 11 คืน ที่เหลือแทบจะไม่ฝันอะไรอีกเลย นอกจากคืนสุดท้ายก่อนจะลาสิกขาไว้ผู้เขียนมาเล่าต่อให้ฟังกันอีก 

 

เรื่องเล่า เมื่อเรา"บวชพระ"คืนที่ 3 ตอน ตี 3

 

เรื่องเล่า เมื่อเรา"บวชพระ"คืนที่ 3 ตอน ตี 3

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ