ข่าว

หลายคนไม่รู้.."วิธีขับรถลุยน้ำท่วม" อย่างไร ให้ปลอดภัย สบายใจเครื่องไม่ดับ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หลายคนไม่รู้.."วิธีขับรถลุยน้ำท่วม" อย่างไร ให้ปลอดภัย สบายใจเครื่องไม่ดับ

เข้าสู่หน้าฝนทีไร พอมีฝนตกหนักทำให้น้ำระบายออกจากท้องถนนไม่ทันสิ่งที่ตามมาก็คือ "น้ำท่วม" ถ้าหากคุณจำเป็นต้องขับรถเพื่อลุยน้ำท่วมจริงๆ ควรขับอย่างไรให้ปลอดภัยและลดความเสี่ยงที่จะเกิดเครื่องยนต์ดับระหว่างการเดินทาง มีวิธีขับรถลุยน้ำท่วมมาแนะนำกัน

1.สังเกตระดับความของน้ำ

ถ้าหากขับไปแล้วเจอฝนตกหนัก ถนนหนทางเริ่มมีน้ำท่วมขัง ก่อนจะขับรถลุยต่อไปควรประเมินความลึกของระดับน้ำที่ท่วมกันก่อน ระดับที่ปลอดภัยคือ ไม่ควรท่วมเกิน 30 เซนติเมตร   โดยดูจากระดับความสูงของน้ำกับฟุตบาทข้างทาง ฟุตบาทตามปกติจะมีความสูงอยู่ที่ 10-20 เซนติเมตร ถ้าน้ำท่วมเลยระดับฟุตบาทแนะนำให้เลี่ยงเส้นทางนั้นจะปลอดภัยกว่า หรือดูจากระดับน้ำท่วมที่ล้อรถ ถ้าหากท่วมประมาณครึ่งล้อยังพอลุยต่อได้ แต่ถ้าท่วมถึงระดับขอบประตู ไม่แนะนำให้ลุยเพราะน้ำอาจเข้าห้องโดยสารอาจทำให้ระบบไฟช็อตและเครื่องอาจดับได้  



หลายคนไม่รู้.."วิธีขับรถลุยน้ำท่วม" อย่างไร ให้ปลอดภัย สบายใจเครื่องไม่ดับ

2.เลือกเลนขับเวลาเจอน้ำท่วม

หลีกเลี่ยงเลนที่น้ำท่วมสูง โดยเบี่ยงรถเข้าหาเลนที่มีน้ำระดับต่ำ จะช่วยลดความเสี่ยงน้ำเข้าเครื่องยนต์ได้มากกว่า

3.ชะลอความเร็วก่อนถึงจุดน้ำท่วม

หากจำเป็นต้องขับรถลุยน้ำ ขอให้ชะลอความเร็ว เพราะถ้าขับด้วยความเร็วสูง รถอาจเสียการทรงตัวได้ เวลาขับควรใช้ความเร็วต่ำที่สุดและสม่ำเสมอ เลี้ยงรอบให้นิ่งที่สุดประมาณ 1,500-2,000 รอบต่อนาที เกียร์ธรรมดา ควรใช้ประมาณเกียร์ 2 ส่วนเกียร์ออโต้ควรใช้เกียร์ L 

4.ปิดแอร์รถยนต์ทันที  เมื่อเจอน้ำท่วม

ปิดแอร์รถจะช่วยลดระดับน้ำที่กระจายเข้าห้องเครื่องได้ถึงครึ่งเลยทีเดียว เพราะพัดลมแอร์จะพัดน้ำเข้าไปในเครื่องทำให้มีโอกาสน็อกได้ และควรระวังขยะที่ลอยมากับน้ำจะเข้าไปติดมอเตอร์พัดลม อาจทำให้ระบบระบายความร้อนในเครื่องยนต์พังได้เช่นกัน

 

หลายคนไม่รู้.."วิธีขับรถลุยน้ำท่วม" อย่างไร ให้ปลอดภัย สบายใจเครื่องไม่ดับ

5.ลดความเร็วลงอีก   เมื่อต้องขับรถสวนทางกัน

แรงปะทะจากรถที่สวนมาจะทำให้เกิดคลื่นชนกัน  น้ำจะสูงขึ้นกว่าเดิม  ทำให้น้ำอาจกระฉอกเข้ามาเครื่องยนต์และระบบไฟฟ้าเสียหายได้

 

หลายคนไม่รู้.."วิธีขับรถลุยน้ำท่วม" อย่างไร ให้ปลอดภัย สบายใจเครื่องไม่ดับ

6.รักษาระยะเบรกให้มากกว่าเดิม  2-3  เท่า

เมื่อขับรถลุยน้ำประสิทธิภาพของผ้าเบรกจะลดลง  ทำให้เบรกไม่ค่อยอยู่  เพื่อความปลอดภัยควรรักษาระยะห่างระหว่างรถให้มากกว่าเดิม  2-3  เท่า  จึงจะปลอดภัย  

7.ไม่ควรดับเครื่องยนต์ทันที  เมื่อถึงจุดหมาย
ควรจอดรถทิ้งไว้สักครู่   เพื่อให้น้ำที่อาจตกค้างอยู่ในหม้อพักท่อไอเสียระเหยออกมาให้หมด

8.ควรย้ำเบรก หรือ  คลัตช์  เพื่อไล่น้ำ 

รถเกียร์ออโต้  ควรย้ำเบรกเพื่อไล่น้ำออกจากระบบเบรก  ส่วนรถเกียร์ธรรมดา  ควรย้ำคลัตช์ เพื่อป้องกันคลัตช์ลื่น

9.ถ้าเกิดโชคร้ายเครื่องยนต์ดับ   อย่าสตาร์ทรถใหม่

หารถลาก  หรือ  พยายามเข็นรถให้พ้นจากระดับน้ำที่สูงไปก่อน  โดยระดับน้ำควรสูงไม่เกินครึ่งล้อรถยนต์จึงจะปลอดภัย  เพราะถ้าหากสตาร์ทรถใหม่ตรงบริเวณน้ำท่วมสูง   จะยิ่งทำให้น้ำเข้าเครื่องยนต์และระบบไฟฟ้า  ทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้น  

 

หลายคนไม่รู้.."วิธีขับรถลุยน้ำท่วม" อย่างไร ให้ปลอดภัย สบายใจเครื่องไม่ดับ

เพียงแต่นี้คุณก็สามารถขับรถลุยน้ำท่วมได้อย่างปลอดภัย   ไม่เสี่ยงเจอเครื่องดับกลางทาง   ที่สำคัญ  ถ้าหากยังพบอาการผิดปกติของระบบเครื่องยนต์  ระบบไฟฟ้า  หรือระบบเบรก หลังจากลุยน้ำท่วม   ควรรีบนำรถเข้าศูนย์บริการจะดีกว่าเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ของตัวคุณเอง

ขอบคุณข้อมูล ..กรมการขนส่งทางบก

ภาพ..priceprice.com

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ