พระเครื่อง

ปิดตำนาน...พระหมอดูคิวทองหลวงพ่อสิงห์วัดไผ่เหลือง จ.นนทบุรี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พระหมอดูคิวทอง เป็นสมญาของ พระครูภาวนาวรานุศาสก์ หรือ หลวงพ่อสิงห์ อดีตเจ้าคณะตำบลบางม่วง และอดีตเจ้าอาวาส วัดสัจจธรรมาราม (วัดไผ่เหลือง)

 ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยที่มาของสมญานั้น เนื่องจากท่านเป็นพระหมอดู ชนิดที่เรียกว่า ต้องเข้าคิวลงชื่อจองกันข้ามปีเลยทีเดียว ๑๘ เดือน คือ ระยะเวลาการจองคิวดูหมอสำหรับผู้ที่ประสงค์จะดูในวันเสาร์-อาทิตย์ ส่วนผู้ที่ประสงค์จะดูหมอวันธรรมดา ไม่ต้องรอนาน จองคิววันนี้ อีก ๑๔ เดือน ถึงจะได้ดู

 แต่วันนี้ คิวจองอันยาวเหยียดต้องถูกยกเลิกโดยปริยาย ด้วยเหตุที่ ท่านได้มรณภาพลง เมื่อคืนวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๒ ที่ผ่าน
 หลวงพ่อสิงห์ นอกจากจะขึ้นชื่อว่า เป็นพระหมอดูคิวทองแล้ว ท่านยังมีความชำนาญในเรื่องของการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน และเป็นพระที่นำสมาธิไปสอนให้แก่นักกีฬา

 โดยนักกีฬาคนแรกที่นำไปใช้ และปฏิบัติได้ผล คือ วีเจย์ ซิงห์ เมื่อครั้งเดินทางมาเยี่ยมวัด ประมาณเดือนพฤศจิกายน ๒๕๔๕

 ทั้งนี้ ท่านได้สอนว่า “เวลาตีกอล์ฟ ให้มีสติ อยู่ที่ลูกกอล์ฟ ห้ามเอาสติไปที่อื่น ขณะลงแข่งขัน อย่ากลัวคู่ต่อสู้ ทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อให้ได้รับชัยชนะ”

 จากคำแนะนำเรื่องสมาธิและคำทำนาย วีเจย์ ซิงห์ ได้เป็นแชมป์หลายสนาม ตามที่หลวงพ่อสิงห์ทำนายไว้ ในที่สุดก็ขึ้นเป็นโปรกอล์ฟอันดับ ๑ ของโลก

 จากคำทำนายนี้เอง วีเจย์ ซิงห์ ได้ปวารณาตัวเป็นศิษย์ และถวายเงินทำบุญ ๑๐% จากเงินรางวัลทั้งหมด

 หลังจากนั้น รมต.สุวัจน์ ลิปตพัลลภ รวมทั้งผู้ใหญ่ในวงการกีฬาหลายท่าน ซึ่งเล็งเห็นความสำคัญของการใช้ สมาธิทางการกีฬา โดยนิมนต์หลวงพ่อไปเป็นประธานวิทยากรสอนสมาธิให้แก่นักกีฬา เพื่อให้จิตสงบ ระหว่างการแข่งขันกีฬา ดังคำพูดที่ว่า สงบสยบความเคลื่อนไหว

 ทั้งนี้ ได้เริ่มสอนเรื่องสมาธิ ให้แก่นักกีฬา ก่อนการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ ๒๓ ปรเทศฟิลิปปินส์ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๘ ผ่านมา โดยมีนักกีฬาทุกประเภท เข้าร่วมการฝึกสมาธิ เช่น ฟุตบอล เทนนิส โบว์ลิ่ง สนุกเกอร์ กอล์ฟ และ ลีลาศ ขณะเดียวกัน หลวงพ่อก็ติดตามผลงานด้วย ในฐานะผู้ให้สมาธิ และผู้ให้กำลังใจแก่นักกีฬา

 ทั้งนี้ หลวงพ่อสิงห์จะมีหลักการสอนสมาธิกับนักกีฬาว่า “หลักของสมาธิ ไม่ใช่เรื่องของปาฏิหาริย์ แต่เป็นเรื่องของวิทยาศาสตร์ เมื่อจิตนิ่งเป็นสมาธิ ก็สามารถตัดความกังวลใจเรื่องอื่นๆ ได้หมด การทำอะไร ก็ย่อมอยู่เหนือผู้อื่น รู้ทั้งเขารู้ทั้งเรา การฝึกสมาธิตามธรรมดา มักนิยมหลับตา แต่นักกีฬาต้องลืมตาฝึกสมาธิ เพราะการแข่งขันกีฬา นักกีฬาต้องลืมตาอยู่ตลอดเวลา ต้องมีดวงตาเหมือนพญาเหยี่ยว มีจิตใจที่แข็งแกร่งมั่นคง ในการฝึกนี้ จำเป็นต้องจะต้องพูดถึงสติด้วย เพราะสติกับสมาธิเป็นของคู่กันโดยธรรมชาติ”

 สำหรับผู้ที่มาขอให้หลวงพ่อสิงห์ทำนายดวงชะตาให้นั้น ส่วนใหญ่จะมาดูเรื่องการประกอบธุรกิจการค้าต่างๆ ทั้งนี้หลวงพ่อสิงห์จะตั้งคำถามผู้ที่มาดูทุกคนว่า

 "อาตมาจะถามว่า พ่อแม่ยังอยู่หรือเปล่า ถ้ายังอยู่เราก็จะให้กลับไปเลี้ยงดูพ่อแม่ให้ดีเสียก่อน ถ้าใครกลับไปเลี้ยงดูพ่อแม่ดวงจะดีขึ้นถึงครึ่งหนึ่ง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ลูกบางคนรู้จักทำบุญกับพระ แต่ไม่เคยคิดเลี้ยงดูพ่อแม่เลย  อาตมาไม่เคยแนะนำให้ไปสร้างพระ ถวายสังฆทาน ทอดผ้าป่า ทอดกฐินที่ไหน แต่จะแนะนำให้ทำบุญที่บ้านเป็นสิ่งแรก คนที่ทำการค้าถ้าไม่บำรุงรากเหง้าของความเจริญ ซึ่งรากเหง้านั้นคือพ่อแม่นั่นเอง คนเราลองไม่เลี้ยงดูพ่อแม่ เรื่องความสำเร็จอย่าได้พูดถึงเลย ถ้าใครทำดีต่อพ่อแม่แล้วไม่ได้ดี เป็นไปไม่ได้เลย"

 ขณะเดียวกัน หลวงพ่อสิงห์ก็จะถามปัญหาเรื่องอื่นๆ เช่น เรื่องการกู้หนี้ยืมสิน การติดต่อประสานงาน รวมทั้งนิสัยใจคอ เช่น ถ้าเป็นแม่ค้าไม่รู้จักยิ้มแย้มทักทายลูกค้า มัวแต่พึ่งนางขวัก โอกาสที่จะประสบความสำเร็จนั้นก็จะไม่มี ที่ถามมาทั้งหมด เราก็จะแนะนำเรื่องความรอบคอบ ซึ่งมันก็คือความมีสตินั่นเอง คนเราลองมีสติแล้ว ทำอะไรย่อมประสบความสำเร็จทุกประการ

 ส่วนเหตุที่หลวงพ่อสิงห์บวชนั้น ท่านเคยบอกกับ "คม ชัด ลึก" ว่า  หลังจากแต่งงานมีลูก ๒ คน ขณะนั้นลูกคนเล็กยังแบเบาะ ด้วยความโชคดีที่ถูกลอตเตอรีรางวัลที่ ๑ ได้เงิน ๖ ล้านบาท แต่เกรงว่าจะใช้เงินจนลืมตัว จึงตัดสินใจบวชเมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๓๐ ณ พระอุโบสถ วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร ต.บางศรีเมือง อ.เมือง จ.นนทบุรี โดยมี พระธรรมกิตติมุนี เจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูสุทธิกิตติคุณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูพิศาลวรกิจวิธาน เป็นพระอนุสาวนาจารย์

 เดิมที่นั้น หลวงพ่อสิงห์ตั้งใจบวชเพียง ๑๕ วันเท่านั้น แต่ก็อยู่ได้มานานถึง ๒๒ พรรษา และมรณภาพในผ้าเหลืองสิริอายุรวม ๕๙ ปี

      ปณิธานหลวงพ่อสิงห์

 พระสิทธิโชค อภินันโท พระเลขานุการของหลวงพ่อสิงห์ บอกว่า หลวงพ่อยังได้สั่งกำชับทางกลุ่มลูกศิษย์และคณะกรรมการวัดไว้ก่อนที่ท่านจะมรณภาพด้วยว่า หากเมื่อท่านละสังขารไปแล้ว ขอให้นำร่างท่านบรรจุใส่โลงแก้วเอาไว้ โดยไม่ต้องฉีดยาฟอร์มาลิน เพราะท่านจะกำหนดจิตรักษาสภาพสังขารเอาไว้ เพื่อลูกศิษย์ลูกหาและผู้เคารพนับถือได้มีโอกาสแวะเวียนมากราบไหว้ เมื่อสิ้นท่านไปแล้ว

 ส่วนโครงการที่จะจัดสร้างอุทยานอริยสงฆ์ของวัดไผ่เหลือง เพื่อประดิษฐานองค์หลวงปู่ทวด ขนาดหน้าตักกว้าง ๑๒ เมตร สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ขนาดหน้าตัก ๑๐ เมตร และรูปเหมือนหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ขนาดหน้าตัก ๑๐ เมตร นั้น ก่อนมรณภาพหลวงพ่อสิงห์ได้ใช้ปัจจัยส่วนตัวซื้อที่ดินข้างวัด เพื่อดำเนินโครงการดังกล่าวไว้แล้ว

 ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะได้รับการสานต่อจากลูกศิษย์ของท่าน โดยในระยะแรกจะเป็นการดำเนินการภายใต้ "บุญนิธิหลวงพ่อสิงห์" ก่อนจะตั้งเป็น  "มูลนิธิหลวงพ่อสิงห์" ตามที่ท่านได้ตั้งปณิธานไว้ก่อนมรณภาพ

 สำหรับโครงการพุทธศาสตร์การกีฬา ซึ่งเป็นโครงการที่หลวงพ่อสิงห์ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องนั้น พระสิทธิโชค บอกว่า หากการกีฬาแห่งประเทศไทย  รวมทั้งสมาคมกีฬาต่างส่งนักกีฬามาปฏิบัติธรรมสร้างสมาธิ ทางวัดก็ยินดีที่จะสานโครงการต่อ เพราะรักษาการเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ท่านได้รับการถ่ายทอดและร่วมทำงานกับหลวงพ่อมาตลอด รวมทั้งโครงการเจริญวิปัสสนากรรมฐานที่วัดเปิดสอนอยู่นั้น ก็จะได้รับการสานต่อเช่นกัน

 พุทธศาสนิกชนและลูกศิษย์ร่วมบุญสวดพระอภิธรรม สอบถามกำหนดการและเส้นทางไป วัดไผ่เหลือง ซอยโรงถ่ายกันตนา ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โทร. ๐-๒๕๙๕-๑๑๗๘, ๐-๒๙๐๓-๘๓๘๑

0 เรื่อง / ภาพ ไตรเทพ ไกรงู 0

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ