Lifestyle

ดูแลไตอย่างไร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ดูแลไตอย่างไร คอลัมน์...  ไขปัญหาสุขภาพแผนจีน  โดย...  หมอไพร 

 

 

          ไต ดูแลควบคุมในร่างกายค่อนข้างรอบด้าน เริ่มจากชี่ไต ซึ่งถ้าพลังชี่ไตดี ร่างกายจะแข็งแรง ความเสื่อมของไตเป็นไปตามอายุ ซึ่งจะแสดงออกในหลายรูปแบบ เพราะการทำงานของไตแบ่งเป็นชี่ไต หากชี่ไตแข็งแรง ร่างกายจะแข็งแรงในมุกด้าน ไม่อ่อนเพลียง่าย ชี่ไตยังแบ่งเป็นหยางชี่ ถ้าหยางชี่ไตทำงานแข็งแรงดี ร่างกายจะแข็งแรง มีความอบอุ่น ไม่อ่อนเพลียง่าย มีชีวิตชีวา ไม่กลัวหนาว ปัสสาวะปกติดี ไม่ปวดเอวปวดหลัง หากหยางไตอ่อนแอหรือเรียกว่าหยางชี่ไตพร่อง จะกลัวหนาว มือเท้าเย็น ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะกลางคืนมาก สตรีประจำเดือนมาช้า มาน้อย ชายจะเสื่อมสมรรถภาพ เป็นต้น ก็ต้องแก้ด้วยการบำรุงหยางเพื่ออบอุ่นไต

 

 

          ต่อมาคือ ยินชี่ ที่ช่วยหล่อลื่น หล่อเลี้ยง ให้ความสมดุลกับหยางชี่ทำให้ร่างกายแข็งแรง ถ้ายินชี่น้อยลง หรือที่เรียกว่ายินชี่พร่อง จะเกิดอาการอั้นปัสสาวะไม่อยู่ ร้อนฝ่ามือฝ่าเท้า ผิวแห้ง บางคนร้อนระอุที่สันหลัง หรือในกระดูก เป็นต้น ก็ต้องแก้ด้วยการเสริมยินไต


          ยังมีสารชีวิตในไตที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของคนเราตั้งแต่เกิด เติบโต วัยทำงาน วัยชรา จนหมดอายุขัย เป็นการสะท้อนสมรรถภาพการทำงานของไต สะท้อนออกทางแพทย์ปัจจุบันที่ค่าอีจีเอฟอาร์ ค่านี้มีผู้คนใส่ใจน้อยมาก บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร


          มีตัวอย่างที่น่าศึกษาจะเล่าให้ฟัง มีลูกชายแสนดีกตัญญูต่อบุพการีท่านหนึ่ง เอาเป็นว่าชื่อ ป. ละกัน พอดีมีวันหยุดยาวเขาเลยถือโอกาสพาคุณพ่อที่อายุ 68 ปี ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ผลออกมาดีหมดทุกรายการ มีเพียงรายการเดียวที่หมอบอกว่าการทำงานของไตเสื่อมลงกว่าระดับ 3 แล้ว (ในใบตรวจเลือดแจ้งว่า ค่าการทำงานของไตหรือที่เรียกว่า อีจีเอฟอาร์ e GFR เหลือแค่ 42) คุณหมอแนะนำให้ไปตรวจและรักษาเพิ่มเติมในโรงพยาบาลที่มีความพร้อม


          คุณ ป.กลุ้มใจมาก เพราะที่ผ่านมาคุณพ่อตรวจสุขภาพทุกครั้ง ผลเลือดของไต 2 ตัว คือ บัน และคริเอตินิน ล้วนปกติดีมาตลอด ไม่มีความดันโลหิตสูง ไม่มีเบาหวาน ตรวจแต่ละครั้งก็เหมือนกัน คุณหมอก็ย้ำว่าคุณพ่อร่างกายแข็งแรงดี ทำให้สบายใจ แล้วทำไมครั้งนี้จู่ๆ คุณหมอก็บอกว่าคุณพ่อไตเสื่อมระดับ 3 แล้ว ทั้งยังแนะนำให้ไปตรวจละเอียดและรักษาต่อที่โรงพาบาลที่เงื่อนไขดีกว่า

 



          กรณีเช่นนี้เชื่อว่าเกิดขึ้นในหลายครอบครัว แข็งแรงอยู่ดีๆ มาพบอีกทีกลายเป็นไตเสื่อมระยะ 3-4 แล้ว โดยไม่ทันตั้งตัว


          การรับรู้สุขภาพของไตโดยผ่านการตรวจเลือดส่วนมากจะดูจากค่า 2 ตัวเป็นหลัก คือ ค่าของบันซึ่งปรกติไม่เกิน 20 และคริเอตินิน ปรกติอยู่ที่ 0.9-1.2 (แต่ก็แล้วแต่มาตรฐานของแลปแต่ละแห่ง) เพราะเป็นตัวสะท้อนค่าของเสียในเลือดที่ไตขับออกได้ดีหรือไม่ ถ้าเราใส่ใจอีกนิด ขอให้คำนวณค่าอีจีเอฟอาร์ออกมาด้วย จะถือว่ารับรู้การทำงานของไตได้รอบด้านมากขึ้น


          ไพรเวชคลินิก สาขาตลิ่งชัน เปิดให้บริการแล้ว ติดต่อสอบถามได้ที่ 09-4636-6195 หรือเว็บไซต์ ไพรเวชคลินิกค่ะ

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ