ข่าว

อ้วน ลงพุง รับประทานน้อย/คุมอาหารแต่ยังอ้วนอยู่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อ้วน ลงพุง รับประทานน้อย/คุมอาหารแต่ยังอ้วนอยู่ คอลัมน์...  เสียงเตือนจากร่างกาย 

 

 


          ทั้งสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี หากรู้สึกว่าพุงเริ่มใหญ่ขึ้นๆ ทุกวัน คงทำให้รำคาญและหงุดหงิดใจไม่น้อย เพราะรูปร่างถือเป็นบุคลิกภาพที่สร้างความมั่นใจและความโดดเด่นให้คนเราได้ เกือบทุกคนจึงปรารถนาจะมีรูปร่างที่ดี ในช่วงวัยหนุ่มสาวอาจใช่ แต่เมื่อก้าวเข้าสู่วัยทำงาน บางรายยังไม่ถึงปีก็รู้สึกได้ว่าท้องเริ่มจะสะสมเป็นพุงและเริ่มใหญ่ขึ้นทุกวัน บางคนพยายามกินน้อย ควบคุมอาหาร ขยับร่างกายด้วยการออกกำลังกาย แต่ส่วนหนึ่งของร่างกายที่ยังคงเห็นได้อย่างชัดเจนและไม่ยอมลดนั่นก็คือพุง และจะเห็นว่ามันใหญ่ขึ้นๆ จนน่าเกลียด ในบางรายอาจพ่วงอาการกินอาหารแล้วไม่ย่อย แก๊สในกระเพาะอาหารมาก รับประทานผักมากแล้วแต่การขับถ่ายยังไม่ดี ท้องอืดง่าย ลมค้างในกระเพาะอาหาร เลอบ่อยๆ ฯลฯ บางรายอาจเริ่มมีอาการปวดเมื่อยหลัง เมื่อยคอและสะบักตามมา ฯลฯ อาการทั้งหมดนี้เป็นเสียงเตือนจากร่างกายที่พยายามบอกว่าระบบต่างๆ ภายในร่างกายเริ่มแปรปรวน ทำงานไม่เป็นปกติแล้วแต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นโรค สัญญาณต่างๆ เหล่านี้เป็นระฆังเตือน เพียงแต่เราจะสนใจมากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง

 

 

 

 

          เมื่อพูดถึงลักษณะของร่างกายที่การเผาผลาญลดลง จึงเป็นผลต่อการมีหน้าท้อง มีพุง ซึ่งต่างก็เป็นผลมาจากปัจจัยหลายอย่างด้วยกัน ขอยกตัวอย่างเป็นข้อๆ ดังต่อไปนี้
  

          อายุ ที่เพิ่มมากขึ้นทำให้การเผาผลาญของร่างกายและการทำงานของอวัยวะต่างๆด้อยประสิทธิภาพลง ซึ่งถือเป็นภาวะปกติ เพราะร่างกายมีความเสื่อมเป็นธรรมดา แต่ที่น่าเป็นห่วงคือเรามักทำให้ร่างกายเสื่อมก่อนวัยอันควร ในทางกายวิภาคศาสตร์ร่างกายจะเริ่มเสื่อมที่อายุ 65-70 ปีขึ้นไป แต่ด้วยพฤติกรรมในปัจจุบันทำให้ร่างกายเสื่อมตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 30 ปีก็มี กลุ่มคนที่เสื่อมก่อนวัยมักจะพบว่าอัตราการเผาผลาญก็ลดลงด้วยเช่นกัน
  

          การรับประทานอาหาร คนในยุคปัจจุบันมักกินอาหารตาย ที่ทำให้เราอายุสั้นกว่าวัย คืออาหารที่มากไปด้วยแป้ง น้ำตาลและไขมัน ไม่มีผักหรือผลไม้สดๆ อีกทั้งยังมีสารเคมีปะปนจนทำให้เกิดโทษมากกว่าประโยชน์ อาหารตายจะปราศจากเอ็นไซม์ ซึ่งเป็นสารตั้งต้นที่สำคัญ เป็นตัวช่วยในกระบวนการย่อยอาหารและการเผาผลาญในร่างกาย โดยปกติร่างกายมีเอ็นไซม์อยู่แล้ว แต่การรับประทานอาหารที่ไม่ได้สัดส่วน เกินความต้องการของร่างกาย เอ็นไซม์ในร่างกายจึงไม่เพียงพอ ร่างกายต้องใช้พลังงานมหาศาลในการย่อย ทำให้เกิดอาการเพลีย ง่วงมากเป็นพิเศษ เรียกว่า “เมาแป้ง” ส่งผลต่อคุณภาพของการทำงานที่ขาดประสิทธิภาพ
  

          ท่าทางในการทำงาน 90% ของคนทำงานจะเป็นท่านั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ วิถีชีวิตทุกวันหลังรับประทานเสร็จก็ต้องนั่งทำงานต่อ วันหนึ่งๆ ต้องนั่งต่อเนื่องยาวนาน 8-10 ชั่วโมง ไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายเพื่อช่วยการทำงานของกระเพาะอาหารและลำไส้ ซึ่งจะทำงานได้ดีหากร่างกายมีการเคลื่อนไหว (Peristalsis) เพื่อส่งเสริมให้การย่อยดีขึ้น การรับประทานเสร็จแล้วนั่ง ประสิทธิภาพการย่อยก็ลดลง สารอาหารที่จะถูกดูดซึมไปเป็นอาหารเซลล์ก็ไม่มี ผลคือร่างกายจะพอกพูนไว้ในรูปไขมัน สะสมเป็นหน้าท้องที่ใหญ่ขึ้นๆ เป็นพุงที่ใหญ่เกินจะลดได้ง่ายๆ



  

          ระบบโครงสร้างร่างกาย ที่ผิดปกติจะส่งผลกระทบต่อการเผาผลาญในร่างกายอย่างมาก เนื่องจากระบบโครงสร้างร่างกายประกอบไปด้วยระบบการไหลเวียนของร่างกายเป็นหลัก คือระบบเลือด ระบบน้ำเหลืองและระบบประสาท การเผาผลาญของร่างกายวัดได้จากค่าความร้อนหรืออุณหภูมิปกติของร่างกายที่เกิดขึ้น ในขณะที่อวัยวะต่างๆของร่างกายทำงานอยู่ ค่าความร้อนเหล่านี้จะแปรผันตรงกับการไหลเวียนของเลือด พื้นฐานการมีสุขภาพดีของคนเราเริ่มต้นจากมีการไหลเวียนเลือดที่ดี เพื่อนำเอาออกซิเจน และสารอาหารต่างๆ ไปสู่เซลล์ เมื่อเซลล์ในร่างกายได้รับอาหารที่ดี การขับของเสียดี เซลล์ก็แข็งแรงสมบูรณ์ ร่างกายก็เสมือนมีภูมิต้านทานต่อโรคภัยไข้เจ็บได้ดี ศักยภาพการทำงานของแต่ละอวัยวะก็สามารถทำงานได้เต็มที่ อีกนัยหนึ่งหากระบบกระดูกกล้ามเนื้อสมดุล คือแข็งแรงและยืดหยุ่นดี ก็ส่งเสริมให้การไหลเวียนของเลือดดีเพิ่มขึ้น เพราะหลอดเลือด ต่อมน้ำเหลืองต่างๆ รวมถึงเส้นประสาทต่างทอดผ่านลายกล้ามเนื้อนั่นเอง
  

          การปรับโครงสร้างร่างกาย ไม่เพียงแต่ทำให้ระบบต่างๆ ของร่างกายสมดุล-แข็งแรงทำงานเต็มประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ผลพลอยได้อย่างหนึ่งที่หลายท่านพึงพอใจมากนั่นคือได้รูปร่างที่ดี กล้ามเนื้อกระชับ ไม่มีไขมันส่วนเกินบุคลิกภาพดี เมื่อโครงสร้างร่างกายสมดุล กล้ามเนื้อกระชับแข็งแรง ไขมันก็ถูกใช้หายไปเอง โดยไม่กลับมาอ้วนอีก


          จากที่กล่าวมาทั้งหมดอาจตอบคำถามให้กับหลายท่านได้ว่าปัญหาแท้จริงของการมีพุง น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น หรืออ้วนขึ้นมากกว่าปกตินั้น มีสาเหตุมาจากไหน หลายท่านที่พยายามคุมอาหารแต่ก็ยังอ้วนมาก อาหารไม่ค่อยย่อย รวมถึงรู้สึกหลังแอ่น ไหล่งุ้ม ยืดตัวไม่ขึ้น เมื่อยหลัง เมื่อยคอเป็นประจำ เรื้อรังจนเริ่มรบกวนจิตใจ ท่านควรต้องตรวจสุขภาพโครงสร้างร่างกายบ้างแล้ว เพราะหากปล่อยไว้ นอกจากจะทำให้บุคลิกแย่ลงแล้ว อาจพ่วงโรคร้ายแรงหลายๆโรคตามมา ไม่ว่าจะเป็นคลอเรสเตอรอลสูง ความดัน เบาหวาน โรคหัวใจ ฯลฯ เป็นบันไดนำไปสู่ความทุกข์ในครอบครัว ทั้งตัวเองและลูกหลาน “การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ” ดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้นะคะ...


          ...ขอเชิญร่วม Ariya of life Workshop ปวดหัว...รู้ให้ชัด จัดการได้ เพราะการปวดหัวมีหลายที่มา ปวดแบบไหนที่ร่างกายต้องการสื่อสารกับเราอยู่...ปวดจากกล้ามเนื้อตึง หรือไมเกรน หรือเนื้องอกในสมอง !!!!! พบกับทีมนักกายภาพบำบัดของ Ariya wellness ที่จะคลายข้อสงสัยและให้คำตอบคุณได้ และพบกับ Food Doctor คุณหมอนัท รินทร์ธนัน จิตต์จงธรรม ที่จะมาบอกเล่าเรื่องราวของอาหารปรับธาตุให้คุณพร้อมรับช่วงเปลี่ยนฤดู ด้วยเมนูอาหารสุขภาพอร่อยๆ ที่เป็นได้ทั้งยารักษาบรรเทาอาการและบำรุงสุขภาพด้วย ในวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2562 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป...ณ Ariya Organic Cafe’ ชั้น 1 Life Center (อาคารคิวเฮ้าส์ ลุมพินี) ถนนสาทร สำรองที่นั่งได้ที่ 09-2326-9636 หรือ Line @ariyawellness ฟรี !!!!! เพียง 15 ท่านแรก ***ขอขอบคุณข้อมูลจาก คุณเพ็ญพิชชากร แสนคำ นักกายภาพบำบัดจากคลินิกกายภาพบำบัดอริยะ ชั้น 1 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (คิวเฮ้าส์ ลุมพินี) โทรศัพท์ 092-3269636 www.ariyawellness.com Facebook: Ariya Wellness Center สถาบันปรับโครงสร้างร่างกายอริยะ***


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ