ฮอนด้าลุย พลังงานไฟฟ้า หวังขยายทุกตลาดรถ คอลัมน์... ยานยนต์
ในงานโตเกียวมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ ฮอนด้า มอเตอร์ ออกมาย้ำประกาศวิสัยทัศน์ 2030 ที่เคยประกาศก่อนหน้านี้ว่าทุกอย่างจะดำเนินไปตามแผนงาน
ทาคาฮาริ ฮาจิโกะ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บอกว่า ตลอดเวลาของการดำเนินธุรกิจฮอนด้าพยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้หลากหลายเพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตประจำวันให้ได้มากที่สุด ทุกวันนี้ฮอนด้ามีทั้งเครื่องยนต์อเนกประสงค์ รถจักรยานยนต์ รถยนต์ ไปจนถึงเครื่องบินเจ็ต และแน่นอนในเวทีโตเกียวมอเตอร์โชว์ปีนี้ ฮอนด้าก็นำเสนอสิ่งใหม่ๆ เพิ่มเติม
“งานโตเกียวมอเตอร์โชว์ เป็นงานที่เรารู้สึกพิเศษและให้ความสำคัญเสมอ เพราะจัดขึ้นในประเทศที่เป็นบ้านของฮอนด้าเอง ถือเป็นโอกาสสำคัญของประเทศญี่ปุ่นในการสื่อสารเกี่ยวกับจุดแข็งและคุณค่าใหม่ที่ชาวญี่ปุ่นเท่านั้นจะทำได้ไปยังผู้คนทั่วโลก”
ฮาจิโกะ กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ที่ฮอนด้าผลิตตามวิสัยทัศน์ 2030 ที่นำเสนอในปีนี้ เริ่มต้นที่ e:Technology ซึ่งการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า จะเป็นปัจจัยหลักให้ฮอนด้าบรรลุวิสัยทัศน์ดังกล่าว ฮอนด้าไม่ได้เพิ่งเริ่มคิดค้นยานยนต์พลังงานไฟฟ้าแต่ดำเนินการมาแล้วมากกว่า 20 ปี และก็ยังมีสินค้าในกลุ่มนี้ เช่น เครื่องกำเนิดไฟฟ้า รวมถึงเทคโนโลยีช่วยเชื่อมต่อผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น เพาเวอร์เอ็กซ์พอร์เตอร์ 9000 ที่ทำให้อุปกรณ์เชื่อมต่อไฟฟ้าได้โดยใช้พลังงานจากยานยนต์ และฮอนด้า โมบายเพาเวอร์แพ็ค ซึ่งเป็นแบตเตอรี่พกพาและสับเปลี่ยนได้ ช่วยให้ผู้คนสามารถพกพาพลังงานไฟฟ้าติดตัวไปได้ง่ายๆ
ทั้งนี้ฮอนด้านำเสนอ ฮอนด้า อี รถพลังงานไฟฟ้าที่นำไปจัดแสดงในงานแฟรงก์เฟิร์ตมอเตอร์โชว์เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา และเตรียมที่จะเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในญี่ปุ่นปีหน้า ฮอนด้า อี ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหลัง ออกแบบให้เป็นรถที่ควบคุมง่าย ภายในติดตั้งจอภาพคู่ระบบสัมผัสขนาดใหญ่ ระบบกล้องมองข้างที่นำมาใช้งานแทนกระจกข้างทั่วไป เพื่อให้เป็นรถยนต์ที่สามารถเชื่อมโยงเทคโนโลยีการขับเคลื่อนกับการดำเนินชีวิตของทุกคน พร้อมระบบ Honda Personal Assistant ที่มีฟังก์ชันสั่งการด้วยเสียงที่ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ฮาจิโกะ กล่าวว่า นอกจากนี้พลังงานไฟฟ้ายังพัฒนาในส่วนของรถยนต์ไฮบริด ซึ่งล่าสุดคือการพัฒนา ไฮบริดที่มีมอเตอร์ 2 ตัว (มอเตอร์ขับเคลื่อนและเจเนอเรเตอร์สำหรับสร้างพลังงานไฟฟ้า) เพื่อให้ประสิทธิภาพ และประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญจะช่วยให้ฮอนด้าสามารถขยายระบบไฮบริดไปยังรถขนาดเล็กได้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้การเข้าถึงไฮบริดของผู้บริโภคทำได้ง่ายขึ้น และในเวทีโตเกียวปีนี้ ฮอนด้าก็นำเสนอระบบไฮบริดในรถยนต์ขนาดเล็กรุ่นใหม่คือ ฟิต เจเนอเรชั่น 4
“ภายใต้ e: Technology เรามีชื่อ e:HEV ซึ่งเป็นชื่อสำหรับยนตรกรรมไฮบริดยุคใหม่ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเป็นหลัก ทั้งนี้เราจะสื่อสารเพื่อสร้างการรับรู้และสร้างความน่าสนใจให้ e:HEV ซึ่งจะเข้าสู่ตลาดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าและจะเป็นตัวหลักเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเพิ่มสัดส่วนยอดขายรถยนต์ทื่ใช้พลังงานไฟฟ้าเป็น 2 ใน 3 ในตลาดโลกภายในปี 2030”
ในส่วนของฮอนด้า ฟิต (ในไทยใช้ชื่อ แจ๊ส) เริ่มต้นผลิตและจำหน่ายในญี่ปุ่นครั้งแรกในปี 2554 ก่อนจะพัฒนาให้เป็นโกลบอลโมเดล เพื่อทำตลาดทั่วโลก รวมถึงไทย ที่ใช้ชื่อว่า ฮอนด้า แจ๊ส อย่างไรก็ตาม ฮาจิโกะ กล่าวว่าญี่ปุ่นเป็นตลาดที่เติมเต็มความต้องการของลูกค้าคอมแพคท์ได้ยากเมื่อเทียบกับตลาดอื่นๆ ในโลก ดังนั้นจึงต้องพยายามเต็มที่ สร้างรถให้สมบูรณ์แบบที่สุดซึ่งจะทำให้สามารถขยายต่อไปยังตลาดอื่นได้ง่าย สานต่อการเป็น โกลบอลโมเดล ต่อไป
ฟิตมีทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซินและไฮบริด นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบ ฮอนด้า เซ็นซิ่ง (SENSING) และระบบช่วยเหลือการขับขี่ (driver-assistive system) เป็นการเริ่มต้นให้บริการใหม่ๆ ที่ต่อยอดมาจากเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ ซึ่งฮอนด้าวางแผนจะให้ใช้เทคโนโลยีการเชื่อมต่อในรถทุกรุ่นที่ขายในญี่ปุ่นภายในปี 2568
นอกจากฟิต ที่โตเกียว ฮอนด้ายังจัดแสดงแอคคอร์ด ซึ่งมีรถที่เป็นไฮบริดเช่นกัน และเตรียมเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในญี่ปุ่นปีหน้า ทั้งนี้แอคคอร์ดเปิดตัวแห่งแรกในสหรัฐ และเปิดตัวในไทยไปแล้วก่อนหน้านี้ ฮอนด้ายังนำเสนอ ฟรีด รุ่นปรับโฉม ซึ่งมีกำหนดการวางจำหน่ายในเดือนนี้ ฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์ (Honda NSX) รถซูเปอร์สปอร์ตรุ่นเรือธงของฮอนด้า และ ฮอนด้า เอ็น-บ็อกซ์ ซีรีส์ (Honda N-Box Series) รถมินิคาร์ที่ขายดีที่สุดในญี่ปุ่นต่อเนื่อง 4 ปี
ในส่วนของจักรยานยนต์เปิดตัว ซีที 125 เป็นครั้งแรกในโลก เป็นรถจักรยานต้นแบบที่พัฒนาต่อยอดจากซีรีส์รถจักรยานยนต์ในตำนาน ซูเปอร์ คับ (Super Cub) ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าทั่วโลก รวมถึงการเผยโฉมเป็นครั้งแรกในโลกของ ฮอนด้า เบนลี อี (Benlye:) รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ และ ฮอนด้า จีโร อี (Gyro e:) รถสกู๊ตเตอร์สามล้อไฟฟ้า ส่วนรถเด่นอื่นๆ ที่นำมาร่วมจัดแสดงเช่น CRF1100L Africa Twin Dual Clutch Transmission, CRF1100L Africa Twin Adventure Sports ES Dual Clutch Transmission และเอดีวี 150 (ADV150)
ส่วนจัดแสดงผลิตภัณฑ์เครื่องยนต์อเนกประสงค์ การแสดงเทคโนโลยีการจัดการพลังงาน ฮอนด้าเปิดตัว LiB–AID E500 for Music ต้นแบบแบตเตอรี่แปลงพลังงานไฟฟ้าขนาดพกพาเป็นครั้งแรกในโลก เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อใช้กับเครื่องเสียงระดับไฮเอนด์รวมถึงการจัดแสดงนิทรรศการพิเศษเพื่อฉลองครบรอบ 60 ปี ของการจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ CB Series และการเข้าร่วมการแข่งขันเวิลด์กรังด์ปรีซ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตของฮอนด้าอีกด้วย
“ฮอนด้าพร้อมที่จะเอาชนะความท้าทายใหม่ๆ เราหวังว่างานโตเกียว มอเตอร์โชว์จะเป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้ทุกคนได้สัมผัสผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายที่ถ่ายทอดวิสัยทัศน์ 2030 ของเรา”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง