"30 สิแจ๋ว"มุมมองของสาวยุคใหม่

          ใครว่าอายุ 30 คือขาลงของผู้หญิง ต้องเปลี่ยนความคิดซะใหม่แล้ว เพราะสาว 30 ยุคนี้ ทั้งสวย แซบ สตรอง ถ้าใครได้ดูมิวสิกวิดีโอเพลงใหม่ล่าสุด “30 สิแจ๋ว” ของดีว่าสาว “แก้ม” วิชญาณี เปียกลิ่น ที่ทำร่วมกับ โอเลย์ คงจะได้เห็นเรื่องราวของผู้หญิงเก่ง 3 คนที่กล้าจะทำตามฝันจนประสบความสำเร็จ แบบที่เรียกได้ว่า “อายุเท่าไรก็ไม่กลัว” เลยทีเดียว ซึ่งพวกเธอไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นไอดอลจากวงการอาชีพต่างๆ ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่ากว่าพวกเธอนั้นจะประสบความสำเร็จมาถึงจุดนี้ จะต้องผ่านอุปสรรคอะไรมาบ้าง วันนี้ เราจึงได้นำเรื่องราว และมุมมองความคิดของพวกเธอมาแชร์กัน

โนร่า ชลาวานิช 

          เริ่มด้วย โนร่า ชลาวานิช ทายาทกระเป๋าหนังชั้นนำ Jacob เล่าถึงความกดดันที่ตัวเองเคยเผชิญตอนอายุเข้าเลข 3 ว่า แต่ก่อนชอบวางแผนให้แก่ชีวิต ว่าอายุเท่านี้ต้องเป็นแบบนั้น ต้องแต่งงานการตอนนี้ตอนนั้น จนพออายุจะเข้า 30 เรียกได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนความคิดเลย เพราะตอนนั้นกลับเข้ามาทำงานกับที่บ้าน ก็รู้สึกกดดันมาก ประจวบเหมาะกับเลิกกับแฟนพอดี เรียกได้ว่าตอนนั้น งงไปไม่ถูกเลย เหมือนทุกอย่างมันไม่เป็นตามที่วางแผนไว้ แต่พอตั้งสติได้ เรากลับได้พบวิธีคิดใหม่ว่าเราควรจะโฟกัสที่ความสุขของตัวเอง ไม่ใช่ว่าใครคิดอย่างไร พอคิดได้แบบนั้น ทำให้เราสามารถทำงานได้ดีขึ้น และภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น เรื่องอายุเลยไม่สำคัญอีกต่อไป เพราะเวลาชีวิตแต่ละคนไม่เหมือน มองความสำเร็จในชีวิตแตกต่างกัน ฉะนั้นชีวิตเรา เรากำหนดเอง

ชาลินี ถิระศุภะ

          ต่อด้วย “เจน” ชาลินี ถิระศุภะ ช่างภาพสาวสายกีฬา เจ้าของเพจดัง “ช่างภาพมีกล้าม” เล่าว่า เริ่มชอบถ่ายภาพตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย และเป็นคนชอบเล่น ชอบดูกีฬา เลยทำให้เราเลือกทำงานนี้ ตอนแรกที่เข้าวงการก็มีคนตั้งคำถามว่าเป็นผู้หญิงทำไมถึงมาถ่ายภาพกีฬา ซึ่งเราก็แค่รู้สึกสนุก รู้สึกชอบ อยากทำ แต่กลับกลายเป็นโดนมองในแง่ร้ายแทน ซึ่งตอนเด็กๆ เราก็คิดมากกังวลไปเรื่อย จนมีจังหวะที่เราคิดได้ ช่วงที่กำลังจะอายุ 30 ปี ว่าไม่รู้จะแคร์ทำไม แค่ทำให้ดีทุกคนจะได้เห็น และเข้าใจเอง สุดท้ายผลงานของเราก็กลายเป็นที่พูดถึงของคนในวงการ เรียกได้ว่าทุกวันนี้มีคนอินบ็อกซ์มาขอคำแนะนำทุกวัน จนตอบไม่ไหวเลยทีเดียว

กัญญาภัทร ศิริพรรค-“แก้ม” วิชญาณี

          ปิดท้ายด้วย สาวนักเพาะกายสาวเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก “อุ้ม” กัญญาภัทร ศิริพรรค เล่าจุดเปลี่ยนของชีวิตเธอให้ฟังว่า แต่ก่อนเป็นนักเต้น จนตอนอายุกำลังจะเข้า 30 ปี เกิดอุบัติเหตุทำให้ต้องหยุดเต้นไป ซึ่งก็มีกังวลว่าแล้วเราจะทำอะไรต่อ แต่ในระหว่างที่กำลังฟื้นตัว ได้ไปออกกำลังในยิมจนมีคนชวนให้ลองไปเป็นนักกีฬาเพาะกาย ตอนแรกมีแต่คนตั้งคำถามว่าทำไมผู้หญิงถึงมาเพาะกาย ซึ่งจริงๆ เราแค่อยากลอง แต่พอได้มาเล่นกีฬานี้ เลยรู้ว่ามันเป็นกีฬาที่ยากมาก ต้องฝึกฝน และมีวินัยสูง พอได้เข้าแข่งครั้งแรกเราได้ที่ 2 ก็มีท้อบ้าง แต่รู้สึกว่าต้องสู้ไปให้ถึงที่สุด จนในที่สุดก็ได้คว้าเหรียญทองโอลิมปิก ตอนนี้เราได้ใช้ความรู้จากการเพาะกายมาสอนคนอื่นต่อ เหมือนเราได้ส่งต่อการดูแลสุขภาพให้แก่ทุกคน แค่นี้ทุกวันก็มีความสุขแล้ว